pearleus

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สมุทรสาคร ให้ความสำคัญออกมาลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ กันอย่างคึกคัก

 เมื่อ 7 สิงหาคม 2559 เป็นวันสำคัญของคนไทยที่ได้ออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามตินอกเขตจังหวัด ที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย พร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนในจังหวัดสมุทรสาครให้ออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยจังหวัดสมุทรสาครมีการจัดหน่วยลงคะแนนเพื่อให้ประชาชนมาใช้สิทธ์ออกเสียงประชามติจำนวน 569 หน่วย และมีหน่วยลงคะแนนออกเสียงนอกเขตอีก 6 หน่วย แบ่งเป็นที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย 3 หน่วย และที่เทศบาลนครอ้อมน้อย 3 หน่วย ซึ่งมีประชาชนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์นอกเขต 4126 คน
 ขณะที่ช่วงเช้าเวลา 8.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยได้เปิดหีบบัตรลงประชามติให้ผู้สื่อดูก่อนดำเนินการตามกระบวนการออกเสียงลงประชามติ โดยมีบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองของจังหวัดสมุทรสาคร ออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติหลายราย อาทิ นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ได้มาใช้สิทธิ์พร้อม นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตเลขานุการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่หน่อยออกเสียงประชามติหน่วยที่ 38 ต.มหาชัย
 นอกจากนี้ยังมีนายสุภาพ แซ่เฮ้ง นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร ออกมาใช้สิทธิ์ในหน่วยออกเสียงหน่วยที่  26 บริเวณลานจอดรถภัตตราคารนิวรสทิพย์ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร เป็นคนแรกของหน่วยอีกด้วย ขณะเดียวกันบรรยากาศการใช้สิทธิ์ที่หน่วยออกเสียงนอกเขตจังหวัดมีบรรยากาศที่คึกคัก ประชาชนทยอยมาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก โดยมีอาสาสมัครนักเรียนคอยอำนวยความสะดวกในการช่วยประชาชนตรวจสอบรายชื่อที่ปิดประกาศ
      นายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัด พ.ต.อ.สุรพรรณ นาตวรทัต ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เดินทางตรวจเยี่ยมหน่วยออกเสียงประชามติ หน่วยที่ 18 บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร พร้อมกับพูดคุยกับประชาชนที่มาใช้สิทธิ์ หน่วยออกเสียงแห่งนี้มีผู้มีสิทธิ์ประมาณ 400 คน โดยมีสูงอายุเป็นชายวัย 84 ปี มาใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติ ซึ่งถือเป็นประชาชนที่มีอายุมากที่สุด

สมุทรสาคร ออกเสียงประชามติเกินครึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ์ สรุปไม่เป็นทางการเห็นชอบทั้งสองประเด็น
      จังหวัดสมุทรสาครมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติเกินครึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ์ โดยผลการออกเสียงอย่างไม่เป็นทางการประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบทั้ง 2 ประเด็น ขณะที่มีเหตุฉีกบัตรออกเสียงประชามติ 1 ราย เป็นชายวัย 75 ปี อ้างเข้าใจผิดคิดว่าให้ฉีกตามรอยแบ่งครึ่งบัตร บน-ล่าง เจ้าหน้าที่สอบแล้วขาดเจตนาไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง
      ผลการเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นคำถามเพิ่มเติม อย่างไม่เป็นทางการของจังหวัดสมุทรสาคร ในประเด็นที่ 1 เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ คะแนนอย่างไม่เป็นทางการมีผู้เห็นชอบจำนวน 150,289 คน ผู้ไม่เห็นชอบจำนวน 58,023 คน ในประเด็นที่ 2 คำถามเพิ่มเติมกรณีภายใน 5 ปี ให้สมาชิกวุฒิสภาสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ มีผู้เห็นชอบจำนวน 138,646 คน ผู้ไม่เห็นชอบจำนวน 62,906 คน 
      จังหวัดสมุทรสาครมีหน่วยออกเสียงประชามติ 569 หน่วย ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติจำนวน 407,141 คน แบ่งเป็นอำเภอเมืองสมุทรสาคร หน่วยออกเสียง 262 หน่วย ผู้มีสิทธิ์ 205,174 คน อำเภอกระทุ่มแบน หน่วยออกเสียง 180 หน่วย ผู้มีสิทธิ์ 126,030 คน อำเภอบ้านแพ้ว หน่วยออกเสียง 127 หน่วย ผู้มีสิทธิ์ 75,937 คน
      ทั้งนี้บรรยากาศการออกเสียงประชามติตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิ์มากพอควร โดยเฉพาะหน่วยออกเสียงนอกเขตจังหวัดที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย มีประชาชนเข้ามาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีประชาชนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์นอกเขตไว้ทั้งสิ้นจำนวน 4,126 คน โดยนายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รักษาราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็มาใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย
      ขณะเดียวกันที่หน่วยออกเสียงประชามติหน่วยที่ 5 ตำบลบ้านบ่อ อ.เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ได้เกิดเหตุการณ์มีผู้ฉีกบัตรออกเสียงประชามติ โดยผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. นายดิลก เหว่าน้อย อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 หมู่ 4 ต.บ้านบ่อ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ได้เดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนออกเสียงประชามติ ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 5 หมู่ 4 ต.บ้านบ่อ โดยได้รับบัตรออกเสียงประชามติ แล้วเข้าไปในคูหาทำการใช้สิทธิตามปกติ หลังจากที่ทำเครื่องหมายกากบาทลงคะแนนในบัตรแล้ว นายดิลกฯได้ทำการฉีกบัตรออกเสียงประชามติออกเป็น 2 ส่วน คืนส่วนบน และส่วนล่าง ตามแนวเส้นแบ่ง
     
      จากการสอบถามถึงเจตนาในการกระทำดังกล่าว ได้ความว่าเป็นการเข้าใจผิดโดยายดิลกฯเข้าใจว่าเมื่อกากบาททำเครื่องหมายเสร็จแล้ว ให้ทำการฉีกบัตรออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่มีเจตนาหวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด นายวิบูลย์ จันทร์ทองสุข ผู้อำนวยการประจำหน่วยออกเสียง จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล อนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอเมืองสมุทรสาคร และทำการบันทึกเหตุไว้ในรายงานเหตุการณ์ประจำหน่วยออกเสียง โดยให้หย่อนบัตรออกเสียงเข้าไปในหีบบัตรออกเสียง และให้วินิจฉัยเป็นบัตรเสียเมื่อถึงเวลาการนับคะแนน


เงาพญาราหู รายงาน









0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น