เมื่อ 12 ก.พ. 59 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในส่วนภูมิภาค ให้แก่ผู้ปกครองท้องที่ และผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ประกอบด้วย นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 2,967 แห่ง รวม 5,934 คน และกำนันทุกตำบลใน20 จังหวัด จำนวน 2,653 คน ผู้ใหญ่บ้านในจังหวัดขอนแก่น จำนวน 839 คน และผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านใน 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 28,250 คน ที่รับชมผ่านระบบ VideoConference ณ ห้องประชุมที่แต่ละจังหวัดได้จัดเตรียมไว้
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำถึงการทำงานในระยะต่อไปให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งงานตามอำนาจหน้าที่โดยตรงและงานตามนโยบายสำคัญที่รัฐบาลได้มอบหมาย ซึ่งท้องที่และท้องถิ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ รัฐบาลต้องการที่จะทำงานเพื่อบ้านเมืองและการวางรากฐานการบริหารงานให้กับประเทศ โดยวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยึดโยงกับแผนตั้งแต่ระดับประเทศ กระทรวง และพื้นที่ Area based ทุกอย่างต้องยึดโยงกัน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี 6 ท่าน รับผิดชอบกำกับดูแลงานในแต่ละกระทรวงและรับผิดชอบงานแต่ละด้าน เพื่อให้ทุกงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ต้องช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคมที่ขาดคุณธรรม จริยธรรม รวมไปถึงการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ขณะนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์งานภาครัฐ และ การให้บริการประชาชน จัดทำ Application Program “G-News” ขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเรียกดูข้อมูลผลงานและการบริการของหน่วยงานภาครัฐได้จากโทรศัพท์แบบพกพา โดยได้เปิดระบบ Android ในเดือนกุมภาพันธ์ และระบบ IOS ในเดือนมีนาคมนี้ จึงขอให้ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ได้รับทราบถึงการประชาสัมพันธ์งานภาครัฐฯ เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้และเข้ามาใช้บริการต่อไป
สำหรับวาระงานสำคัญที่ต้องการเน้นย้ำ มีดังนี้
1. เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอให้ท้องที่ ท้องถิ่น ใช้กลไกที่มีอยู่ทั้งหมด สร้างการรับรู้ให้ประชาชนน้อมนำแนวทางพระราชดำริ หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนขอให้ช่วยกันกล่อมเกลาให้เยาวชนของเรามีความประพฤติดี มีความเข้มแข็ง เราต้องอยู่อย่าง “พออยู่ พอกิน มีภูมิคุ้มกัน” ให้ช่วยกันอบรมกล่อมเกลาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ และโรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
2. เรื่องการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ย้ำว่าข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ต้องเป็นกลาง ต้องอยู่ในหลักการตามกฎหมายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดที่เข้ามาบริหารประเทศ คนในชาติเราต้องรักกันไม่แบ่งแยก ไม่แบ่งสี ไม่ขัดแย้งกัน ใครจะทำให้คนในชาติขัดแย้งกันไม่ได้ ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้
3. เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ถือเป็นปัญหาร้ายแรงของประเทศชาติทำให้เด็กและเยาวชนเสียโอกาสในชีวิตและเป็นปัญหาใกล้ตัวของทุกคน ย้ำว่าผู้ว่าราชการจังหวัดต้องกำกับดูแลใกล้ชิด เน้นการลด Demandต้องแก้ปัญหาไม่ให้มีความต้องการใช้ยาเสพติด ต้องลดปริมาณผู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในส่วนของการปราบปรามต้องรู้ปัญหาในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องรู้ว่าในพื้นที่ของตนมีปัญหาอย่างไร และร่วมมือกันทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและประชาชน
4. เรื่องการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ท้องที่ ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันช่วยเหลือกันแก้ไขปัญหา วางระบบการทำงานร่วมกันให้ชัดเจน ปีนี้เราจะเพิ่มความเข้มข้นในทุก ๆ มาตรการ โดยเฉพาะการทำงานในระดับพื้นที่ที่เน้นการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการจุดเสี่ยงต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และเข้มข้น
5. เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวขอให้ช่วยสนับสนุนให้พื้นที่มีความพร้อมทั้งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรม ดูแลในเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้มั่นใจในการมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
6. เรื่องยางพารารัฐบาลมีโครงการหลายอย่างๆ ในการแก้ไขปัญหา เช่น การใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ การรับซื้อยางโดยตรงจากเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อนำยางไปใช้ประโยชน์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้ช่วยสนับสนุน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ได้เข้าร่วมประจำจุดรับซื้อยาง เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ในเรื่องนี้ขอให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย
7. เรื่องภัยแล้ง รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยมีโครงการที่ลงมาช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบหลายโครงการที่ดำเนินการไปแล้ว ขอให้เร่งทำความเข้าใจทุกมาตรการที่ขับเคลื่อนให้ประชาชนได้รับทราบ ทั้งมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) / โครงการมาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจน ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน / โครงการสนับสนุนการจัดหาเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้แก่กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร / โครงการพัฒนาอาชีพตามความต้องการของหมู่บ้านชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้งปี 2558/59 ซึ่งจะมีเม็ดเงินลงไปในพื้นที่ขอให้ท้องที่และท้องถิ่น เกษตรกร ร่วมมือกันทำงานเพื่อประชาชน เพื่อให้ประเทศของเราผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้
8. เรื่องการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย ขณะนี้กำลังมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติ การรวมกลุ่มพื้นที่ (Clusters) ในการจัดการขยะมูลฝอย โดยยึดหลักการ “ขยะมูลฝอยเกิดในพื้นที่ใดควรเป็นความรับผิดชอบในการกำจัดโดยพื้นที่นั้น”เพื่อให้ อปท. บริหารจัดการขยะอย่างเป็นรูปธรรมและถือปฏิบัติต่อไป
9. เรื่องปัญหาอาชญากรรม การก่อเหตุรุนแรง รวมไปถึงปัญหาผู้มีอิทธิพล ภารกิจด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม ขอให้ดำเนินการอย่างจริงจังและดูแลในพื้นที่ของตนเองอย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือให้ร่วมกันสอดส่องดูแล โดยใช้กลไกของคณะกรรมการหมู่บ้านและเครือข่ายต่างๆ ในหมู่บ้านด้วย
10. เรื่องการแกไขปญหาผักตบชวา เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลจึงขอให้จังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น ท้องที่ ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อกำจัดผักตบชวาในพื้นที่ และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความยั่งยืน
11. เรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดิน เช่น ปัญหาการบุกรุกที่ดิน ปัญหาข้อพิพาทจากการออกโฉนดที่ดิน ฝากให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยสอดส่องดูแลในพื้นที่สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ขณะนี้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งจัดระเบียบและจัดระบบในเรื่องนี้ เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสม และป้องกันข้อผิดพลาดทั้งทางเทคนิคและปัญหาการทุจริตดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา
สุดท้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่นที่ได้ร่วมกันทำงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ย้ำว่า “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน” เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติที่จะนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ ในพื้นที่ให้เกิดผลสำเร็จทุกเรื่อง จึงขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างเต็มกำลังความสามารถ สร้างความมั่นคง ความสงบสุขในสังคมเพื่อให้ประเทศชาติของเราเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น