pearleus

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

มหาดไทยสั่งทุกจังหวัด เร่งดำเนินโครงการตามมาตรการตำบลละ 5 ล้าน พร้อมจัดทีมช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงาน

          เมื่อ 30 ม.ค. 59 นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มอบหมาย
ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงานโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน การบริโภคและการลงทุนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงมหาดไทยได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและเร่งการดำเนินงานในทุกๆ โครงการในพื้นที่ เพื่อให้เม็ดเงินถึงมือประชาชนโดยเร็วและเกิดประโยชน์สูงสุด และจากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่าผลการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการฯ มีความล่าช้าเนื่องจากมีข้อติดขัดเกี่ยวกับขั้นตอนและระบบการเบิกจ่าย โดยกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางและมาตรในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ซึ่งมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งและต้องการให้เร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลา (มีนาคม 2559)
         กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีหนังสือสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้เร่งรัดโครงการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้ดำเนินการ ดังนี้ 1.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแล อำนวยการและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง โดยถือเป็นงานนโยบายสำคัญที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 50 พร้อมทั้งลงไปสนับสนุนและแก้ไขปัญหาการทำงานในระดับอำเภอ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยพร้อมให้การสนับสนุนอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ตามคำร้องขอของจังหวัด หรือ จังหวัดอาจใช้วิธีระดมเจ้าหน้าที่ไปช่วยในแต่ละพื้นที่อำเภอ หรือกรณีอำเภอที่ประสบผลสำเร็จแล้วให้จัดทีมงานไปช่วยเหลืออำเภออื่นๆ ที่ยังมีปัญหาในการดำเนินงาน
         2.ให้จังหวัดตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณ และการก่อหนี้ผูกพัน จากระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (e-GP) และข้อมูลการลงระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐ (GFMIS) ทุกวัน เพื่อให้ทราบภาพรวมของการเบิกจ่ายงบประมาณของจังหวัด เพื่อจะได้ลงไปแก้ปัญหาได้ถูกจุ 3.ให้จังหวัดเร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันสำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้ว และหากต้องการขยายระยะเวลาดำเนินการ ให้แจ้งส่วนกลางเพื่อดำเนินการต่อไป 4.โครงการที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน เช่น กรณีโครงการที่ดำเนินการในที่ดินสาธารณประโยชน์ ให้เร่งดำเนินการตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 และกรณีโครงการที่ดำเนินการในที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
5.โครงการขุดบ่อน้ำบาดาล
 ซึ่งจะต้องขออนุญาตในการดำเนินการ โดยในพื้นที่วิกฤตให้จังหวัดรายงานส่วนกลาง เพื่อดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป         
         6.กรณีจังหวัดมีปัญหาเรื่องกำหนดราคากลาง และการปรับลดวงเงินงบประมาณโครงการของสำนักงบประมาณ ซึ่งจังหวัดต้องปรับปรุงรูปแบบรายการ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแก้ไขปัญหาโดยอาศัยมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดตั้งทีมช่าง โดยขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายในจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 7.ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถจ้างผู้มีความรู้ด้านการเงิน บัญชีและพัสดุ เพื่อช่วยการปฏิบัติงานของอำเภอและจังหวัดได้ตามบัญชาของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ จังหวัดสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบ e-GP ของกรมบัญชีกลางได้ตลอด 24 ชั่วโมง

          ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลทุกโครงการให้บรรลุตามเป้าหมายของรัฐบาล และต้องการเร่งรัดการดำเนินงาน และการเบิกจ่ายงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในกำหนด โดยกำชับให้ทุกจังหวัดได้ติดตามและตรวจเยี่ยมในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เม็ดเงินที่จะลงไปช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยทุกโครงการและทุกงบประมาณ ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน รวมทั้งก่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนต่อไป

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น