วันนี้ (10 มิ.ย.58) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการส่งเสริมขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs ให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยร่วมสนับสนุนการดำเนินการของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการธุรกิจ SMEs เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลการประกอบการวิสาหกิจ และขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ SMEs ทางออนไลน์เพื่อแสดงสถานะภาพของผู้ประกอบการ และใช้เป็นข้อมูลในการให้ความช่วยเหลือและพัฒนากิจกรรม SMEs ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับ สสว. ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามข้อสั่งการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้แจ้งแนวทางการสนับสนุนการดำเนินงานของ สสว. ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ผ่านการประชุมวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference) เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
และเพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพตามนโยบายรัฐบาล
กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่มาขึ้นทะเบียน
โดยประสานกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประชาสัมพันธ์เชิญชวนเครือข่าย SMEsทุกประเภทให้มาขึ้นทะเบียนออนไลน์
ทางเว็บไซต์ของ สสว. www.sme.go.th และสามารถติดต่อสอบถามได้ทางสายด่วน 1301 หรือมาขึ้นทะเบียนออนไลน์ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ทุกจังหวัด
โดยศูนย์ดำรงธรรม จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการคำแนะนำ
คำปรึกษา อำนวยความสะดวก หรือบันทึกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์
เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการสามารถมาขึ้นทะเบียนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
และในเดือนมิถุนายน - สิงหาคมนี้
กระทรวงมหาดไทยจะจัดประชุมสัมมนาเพิ่มทักษะบุคลากรของศูนย์ดำรงธรรมเพื่อรองรับการให้บริการตามนโยบายรัฐบาล
นอกจากนี้
ให้จังหวัดบูรณาการการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านกลไกกรอ. จังหวัด โดยให้ กรอ.จังหวัด
หอการค้าจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางให้การขึ้นทะเบียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ SMEsรวมไปถึงการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบการ SMEs ที่มีอยู่แล้ว
และสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายใหม่มาขึ้นทะเบียนตามช่องทางที่กำหนด
รวมทั้งการขยายเครือข่าย โดยให้ประชาสัมพันธ์ผ่านประชาคมแรงงานในจังหวัด
โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัด ประกันสังคมจังหวัด และแรงงานจังหวัด
เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการมาขึ้นทะเบียนออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ
ในงานตลาดนัดแรงงานหรือโอกาสอื่นตามความเหมะสม
ทั้งนี้
ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และให้จังหวัดรายงานผลการดำเนินงาน
ให้กระทรวงมหาดไทยทราบภายในวันที่ 30 มิถุนายน นี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น