วันนี้ (23 มิ.ย.58) ที่กระทรวงมหาดไทย นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล
ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เพื่อเป็นต้นแบบในการกำจัดขยะที่รักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน
โดยดำเนินการขนย้ายขยะเก่าจากตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จำนวนประมาณ 2.3 แสนตัน มาฝังกลบอย่างถูกหลัก และก่อสร้างสถานที่กำจัดขยะแห่งใหม่
ที่ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดดำเนินการในทุกๆ ด้านมาอย่างต่อเนื่อง
โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างสถานที่กำจัดขยะและงานขนย้ายขยะ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2557 ซึ่งขณะนี้ผ่านมาแล้ว 180 วัน มีผลการดำเนินงานในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 80 ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแผนงานที่วางไว้ คิดเป็นร้อยละ 1.2 มีความก้าวหน้า ของงานก่อสร้างที่สำคัญ
อาทิ งานก่อสร้างบ่อฝังกลบขยะ
มีผลงานคิดเป็นร้อยละ 96 งานก่อสร้างระบบบำบัด/เก็บกักน้ำเสีย
มีผลงานคิดเป็นร้อยละ 73
และงานก่อสร้างถนนทางเข้าโครงการ มีผลงานคิดเป็นร้อยละ 100 ในส่วนของงานอื่นๆ ถือว่ามีความคืบหน้าตามลำดับ
ในส่วนของการก่อสร้างโรงไฟฟ้า
โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้จัดทำโครงการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากการกำจัดขยะเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา
ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ถึง มีนาคม 2560 มีเป้าหมาย
ในการกำจัดขยะชุมชนในพื้นที่เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาและพื้นที่ข้างเคียงได้ไม่น้อยกว่า 300 ตันต่อวัน โดยแปลงขยะชุมชนเป็นเชื้อเพลิงขยะ
(RDF) ระบบประกอบด้วย โรงผลิตขยะเชื้อเพลิง
และโรงผลิตกระแสไฟฟ้า
ซึ่งคาดว่าจะทำให้การกำจัดขยะชุมชนเป็นไปอย่างเหมาะสมแก้ไขปัญหาขยะล้นเมือง และส่งเสริมให้มีการผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิง
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการทำงานในภาพรวมถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
คาดว่างานก่อสร้างสถานที่กำจัดขยะจะแล้วเสร็จตามแผนงานภายในเดือนสิงหาคมนี้
และนอกจากงานก่อสร้างแล้ว กระทรวงมหาดไทยยังได้ดำเนินโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกวิธี
โดยได้มีการจัดเวทีให้ความรู้ สร้างความเข้าใจแก่ชุมชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง
และในเดือนมิถุนายนนี้ยังได้กำหนดจัดฝึกอบรมและศึกษาดูงานการกำจัดและใช้ประโยชน์จากขยะตามแนวพระราชดำริ
เพื่อเป็นต้นแบบในการกำจัดขยะอย่างยั่งยืนครบวงจร
และเป็นแนวทางในการกำจัดขยะให้กับชุมชนในท้องถิ่นต่อไปซึ่งการสร้างวินัยให้กับคนในชาติจะเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองอย่างยั่งยืน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น