pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กองปราบ อดีตนายกสมาคมยิงปืน แจ้งจับกรรมการสมาคมฯ กับพวก กรณีพบการทุจริตจัดซื้อกระสุนปืนสำหรับใช้ฝึกซ้อมของสมาคมฯ

                

              เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 14 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ อดีตรักษาการนายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ระหว่างปี 2554-2557) เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชัยพร นิตยทัตร์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกรรมการสมาคมยิงปืนฯ พร้อมพวกอีก 6 คน ซึ่งเป็นคณะกรรมการสมาคมดังกล่าว และนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ประกอบด้วย นายณัฐวุฒฑ์ ประทีปะผลิต , นายทศพร เหรียญเจริญ , พ.ต.ท.วิรัตน์ การดี , นายบุญกล้า สว่างแสง และนักกีฬายิงปืนชายอีก 2 คน ในข้อหาซื้อขายกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน มาตรา 7 ซึ่งระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้าซึ่งอาวุธปืน หรือ เครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ภายหลังพบความผิดปกติเกี่ยวกับกระสุนปืนเถื่อนที่ใช้ในกิจการของสมาคมฯ โดยนำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินคดี
                นายอธิปรัฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าแจ้งความดำเนินคดี นายสกล กับพวก มาแล้วในความผิดข้อหาเดียวกัน หลังจากมีการรับบริจาคกระสุนปืนเพื่อใช้ในสมาคมฯ แต่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไป โดยการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ ประเทศเมียนมาร์ เมื่อปี 2556 คณะกรรมการ กกท.ได้อนุมัติจัดหากระสุนปืนรวม 7 ล้านนัด เพื่อนำมาใช้งาน แต่ทางนักกีฬากลับได้รับไปไม่ครบจำนวน ทำให้สมาคมฯ ต้องมีการเปิดรับบริจาคกระสุนปืนเพิ่มเติม ซึ่งภาคเอกชนหลายกลุ่มได้บริจาคกระสุนปืนให้ แต่เป็นกระสุนที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงเชื่อว่าน่าจะมีกระบวนการฟอกกระสุนปืนของกลุ่มผู้ค้าอาวุธเถื่อน โดยพบความผิดปกติในการสั่งซื้อกระสุนปืนที่ไม่สอดคล้องกับการฝึกซ้อมจริง
                นายอธิปรัฐ กล่าวต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นส่งผลให้นักกีฬาทีม
ชาติไทย ไม่ประสบผลสำเร็จในการแข่งขัน เพราะต้องใช้กระสุนที่ไม่ได้มาตรฐานในการฝึกซ้อมมาโดยตลอด โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าเกิดการทุจริตในการจัดซื้อกระสุนปืนอย่างต่อเนื่อง จากการตรวจสอบพบว่าราคากระสุนปืนที่แท้จริง อยู่ที่ 6-8 บาทต่อนัด แต่จัดซื้อและจ่ายเงินกันในราคา 16 บาทต่อนัด ส่วนต่างตรงนี้ทำให้แต่ละปีเกิดมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมหาศาล หลายสิบล้านบาท ตนเห็นว่าหากปล่อยไว้ไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะเกิดความเสียหายต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด จึงต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
                ด้าน พ.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ โดยจะเร่งตรวจสอบหลักฐานต่างๆ รวมทั้งข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น