พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก
ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ฉ้อโกงรถยนต์จากผู้เสียหายโดยติดต่อซื้อรถที่อยู่ระหว่างผ่อนดาวน์
หรือขาดการชำระค่างวดกับสถาบันการเงิน หรือไฟแนนซ์ ที่เรียกกันในวงการซื้อขายรถยนต์
ว่า “รถหนีไฟ” โดยทำทีติดต่อกับผู้เสียหายที่ประกาศขายรถตามเว็บไซต์ต่างๆ
ทางอินเตอร์เน็ต หรือที่มีการประกาศขายด้วยวิธีการต่างๆ จากนั้นก็จะเลือกประเภทรถ
ยี่ห้อและสีที่เป็นที่นิยมในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน แล้วมีการออกเช็ค
ทำสัญญากับผู้เสียหาย หรือจ่ายเงินดาวน์บางส่วนไปก่อน
เมื่อได้รถมาก็จะส่งให้นายทุนนำไปขายต่อหรือนำไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหารายนี้นับว่าเป็นต้นแบบ
หรือโมเดลในการหาตัวแทนหรือนอมินี ไปคอยติดต่อรับซื้อรถยนต์จากผู้เสียหาย
แล้วนำไปปล่อยขาย โดยมีการว่าจ้างตัวแทนดังกล่าวกว่า 30 คน ให้ค่าตอบแทนรายละ 50,000 บาท โดยส่วนใหญ่จะเลือกซื้อรถที่เป็นที่นิยมในตลาด เช่น รถกระบะ
ก่อเหตุในพื้นที่ภาคอีสาน มีตลาดส่งออกขายในต่างประเทศ หรือหากเป็นรถยนต์
ก็มีแหล่งนำส่งขายทั้งใน กทม.และพื้นที่ภาคใต้ ก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว
แต่กลับเป็นการเพิ่มเติมความรู้ในการกระทำความผิดเพื่อก่อเหตุซ้ำ
ที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้ก่อเหตุกับผู้เสียหายมาแล้วนับร้อยราย
รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
โดยขณะนี้พบว่าผู้ต้องหามีหมายจับติดตัวทั้งหมด 17 หมาย ในหลายพื้นที่ทางภาคอีสาน
และภาคเหนือ
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า นับตั้งแต่ปี 2550
ได้เปิดเต็นท์รถมือสอง
จึงเกิดแนวความคิดที่จะรับซื้อรถที่ติดปัญหาการผ่อนชำระค่างวดกับไฟแนนซ์
หรือที่มีการประกาศขายทางอินเตอร์เน็ต ก่อนนำไปขายต่อ โดยยืนยันว่าคิดและทำเพียงคนเดียว
ไม่มีใครที่ร่วมกระทำผิดด้วย และไม่เคยรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้กระทำความผิด
ซึ่งตนอยากจะขออโหสิกรรมจากทางผู้เสียหายทุกรายก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่า
เหตุทั้งหมดเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2551 ซึ่งตนได้รับโทษจำคุกเป็นเวลาเกือบ 4
ปีเต็ม เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2555
ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเหตุใดในช่วงที่ตนต้องรับโทษจึงไม่มีการดำเนินการเอาผิดในคดีที่เหลือทั้งหมด
เพื่อรับโทษต่อเนื่องไปเลย
ผู้ต้องหารายนี้ ให้การอีกว่า หลังจากต้องโทษชีวิตตนก็เปลี่ยนไปมาก
ชีวิตส่วนตัวคนที่เคยรู้จัก รวมถึงคนรักก็รู้ว่าตนมีประวัติเคยติดคุก
ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตก็เหมือนพังทลายไปหมด
จึงอยากฝากไปยังผู้ที่ยังกระทำความผิดหรือคิดจะกระทำผิดเช่นเดียวกับตนว่าไม่ใช่สิ่งที่ดีที่จะทำสิ่งผิด
และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเรื่องรถเท่านั้นแต่เป็นทุกเรื่องที่ผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นก็จะต้องรับผลกรรมเหมือนเช่นกับตน
ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
จ.ปทุมธานี รับไว้ดำเนินคดี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น