pearleus

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กองปราบ หนุ่มวิศวฯ สายการบินฯ โร่พบ พงส.แจงปมถูกปลอมเฟซบุ๊ค กรณีโพสข้อความด่าหลวงพ่อคูณ


             เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายธวัชชัย ปิงผล อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/4 หมู่ 3 ต.หนองม่วงไข่ อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ วิศวกรบริษัทสายการบินแห่งหนึ่งพร้อมด้วย นางสาวขนิษฐากรณ์ มิตรประสิทธิ์ น้าสาว และ ดร.อุสาห์ ต่อเทียนชัย อาจารย์ประจำสถาบันการบินพลเรือน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศานุวงศ์ คงคาอินทร์ รอง ผกก.2 บก.ป.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีที่นายธวัชชัย ถูกสร้างเฟซบุ๊กปลอม ในชื่อ “Thawatchai Pingphon” ซึ่งมีการโพสข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง , ดูหมิ่นคนในพื้นที่จังหวัดทางภาคอีสาน และภาคใต้ และข้อความที่กล่าวถึงการมรณภาพของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จนเกิดความเข้าใจผิด และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันจนสร้างความเสียหาย และมีการข่มขู่เอาชีวิต จนรู้สึกไม่ปลอดภัย โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มามอบไว้เป็นหลักฐาน
               
นายธวัชชัย กล่าวว่า เหตุที่ต้องเข้าร้องทุกข์กับทาง บก.ป.ในครั้งนี้ เป็นเพราะตั้งแต่เกิดกรณีการสร้างเฟซบุ๊คปลอมในชื่อของตนขึ้นมาและมีการโพสข้อความที่เข้าข่ายความผิดใน 3 ประเด็นหลัก คือ ข้อความที่หมิ่นเบื้องสูง , ข้อความที่ดูถูกคนในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคใต้ รวมทั้งกรณีการมรณภาพของหลวงพ่อคูณ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย มีการด่าทออย่างหยาบคายเกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งมีการตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว จนมีการโทรศัพท์มาต่อว่า รวมทั้งข่มขู่คุกคามถึงขั้นจะเอาชีวิต แม้จะชี้แจงว่า ตนไม่ได้กระทำแต่ถูกกลั่นแกล้งก็ไม่เป็นผล
               
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ได้ปรึกษากับญาติ และ ดร.อุสาห์ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้รับคำปรึกษาว่าต้องเข้าแจ้งความเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ต่อมาจึงเดินทางไปแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) , สภ.ล้อมกวาง จ.แพร่ และ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ รวมทั้งประสานไปยังกระทรวง เทคโนโยลีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบและสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ
              
  ผู้เสียหายรายนี้ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร มีเพียงเพื่อนชายที่เคยเรียนที่สถาบันการบินฯ มาด้วยกัน 1 คน ที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากมีข้อมูลและภาพถ่ายของตน จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งรัดสืบสวนติดตาม เพราะขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก แม้จะพยายามสอบถามกับเพื่อนของตนรายนี้ เขาก็จะปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำ อย่างไรก็ดี กรณีของการโพสข้อความในเฟซบุ๊กปลอมชื่อตนนั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2557 เคยมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบ ก็มีการปิดเฟซบุ๊กไป แต่หลังจากนั้นก็มีการเปิดบัญชีใช้งานเฟซบุ๊คขึ้นมาใหม่อีก


                “ทุกวันนี้ผมได้รับผลกระทบทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนที่โทรศัพท์มาหาต่างเข้าใจผิดคิดว่าผมลบหลู่หลวงพ่อคูณ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะผมกับครอบครัวก็นับถือศรัทธาหลวงพ่อคูณ มาตลอด แต่ที่ทำให้รู้สึกว่าอยู่เฉยไม่ได้แล้วคือการข่มขู่เอาชีวิต เพราะหลายคนใช้แต่อารมณ์ไม่รับฟังเหตุผลอะไรเลยนายธวัชชัย กล่าว
               
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น นายธวัชชัย ได้โชว์เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นปี 2512 ที่แขวนคอไว้ตลอดเวลาให้สื่อมวลชนได้ดู พร้อมกับขอให้ทางตำรวจช่วยเหลือเพราะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยเพราะเริ่มกลับมาทำงานตามปกติแล้ว ขณะที่ ดร.อุสาห์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ก็พยายามหาทางช่วยเหลือ นายธวัชชัย โดยให้นักศึกษาในสถาบันการบินฯ ซึ่งได้รับสายโทรศัพท์มาสอบถาม ชี้แจงและประชาสัมพันธ์กรณีนี้เพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นไปก่อนเพราะกระแสข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องหลวงพ่อคูณ นั้น รุนแรงมาก และต่างคนต่างใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลแล้ว
                
ขณะที่ พ.ต.ท.ศานุวงศ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวทาง บก.ปอท.ได้รับเรื่องไว้แล้ว จึงต้องประสานการทำงานร่วมกัน ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายต้องการให้ บก.ป.ร่วมสืบสวนติดตามผู้กระทำความผิด นั้น จะมีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอข้อมูลรวมทั้งตรวจสอบก่อนจะสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น