เมื่อเวลา
17.30 น.วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายธวัชชัย ปิงผล
อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/4 หมู่ 3 ต.หนองม่วงไข่ อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่
วิศวกรบริษัทสายการบินแห่งหนึ่งพร้อมด้วย นางสาวขนิษฐากรณ์ มิตรประสิทธิ์
น้าสาว และ ดร.อุสาห์ ต่อเทียนชัย อาจารย์ประจำสถาบันการบินพลเรือน
เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศานุวงศ์ คงคาอินทร์ รอง ผกก.2
บก.ป.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีที่นายธวัชชัย ถูกสร้างเฟซบุ๊กปลอม ในชื่อ “Thawatchai Pingphon” ซึ่งมีการโพสข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง
, ดูหมิ่นคนในพื้นที่จังหวัดทางภาคอีสาน และภาคใต้
และข้อความที่กล่าวถึงการมรณภาพของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ
เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จนเกิดความเข้าใจผิด
และเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันจนสร้างความเสียหาย และมีการข่มขู่เอาชีวิต
จนรู้สึกไม่ปลอดภัย โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มามอบไว้เป็นหลักฐาน
นายธวัชชัย กล่าวว่า เหตุที่ต้องเข้าร้องทุกข์กับทาง
บก.ป.ในครั้งนี้
เป็นเพราะตั้งแต่เกิดกรณีการสร้างเฟซบุ๊คปลอมในชื่อของตนขึ้นมาและมีการโพสข้อความที่เข้าข่ายความผิดใน
3 ประเด็นหลัก คือ ข้อความที่หมิ่นเบื้องสูง , ข้อความที่ดูถูกคนในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคใต้
รวมทั้งกรณีการมรณภาพของหลวงพ่อคูณ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย
มีการด่าทออย่างหยาบคายเกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์
รวมทั้งมีการตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว จนมีการโทรศัพท์มาต่อว่า รวมทั้งข่มขู่คุกคามถึงขั้นจะเอาชีวิต
แม้จะชี้แจงว่า ตนไม่ได้กระทำแต่ถูกกลั่นแกล้งก็ไม่เป็นผล
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ได้ปรึกษากับญาติ และ ดร.อุสาห์
เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
จึงได้รับคำปรึกษาว่าต้องเข้าแจ้งความเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ต่อมาจึงเดินทางไปแจ้งความที่
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) , สภ.ล้อมกวาง จ.แพร่ และ
สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ รวมทั้งประสานไปยังกระทรวง เทคโนโยลีสารสนเทศและการสื่อสาร
(ไอซีที.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบและสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ผู้เสียหายรายนี้ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา
ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร มีเพียงเพื่อนชายที่เคยเรียนที่สถาบันการบินฯ
มาด้วยกัน 1 คน ที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัย เนื่องจากมีข้อมูลและภาพถ่ายของตน
จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งรัดสืบสวนติดตาม เพราะขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
แม้จะพยายามสอบถามกับเพื่อนของตนรายนี้ เขาก็จะปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำ อย่างไรก็ดี
กรณีของการโพสข้อความในเฟซบุ๊กปลอมชื่อตนนั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2557
เคยมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบ ก็มีการปิดเฟซบุ๊กไป
แต่หลังจากนั้นก็มีการเปิดบัญชีใช้งานเฟซบุ๊คขึ้นมาใหม่อีก
“ทุกวันนี้ผมได้รับผลกระทบทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก
เพราะทุกคนที่โทรศัพท์มาหาต่างเข้าใจผิดคิดว่าผมลบหลู่หลวงพ่อคูณ
ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะผมกับครอบครัวก็นับถือศรัทธาหลวงพ่อคูณ มาตลอด
แต่ที่ทำให้รู้สึกว่าอยู่เฉยไม่ได้แล้วคือการข่มขู่เอาชีวิต
เพราะหลายคนใช้แต่อารมณ์ไม่รับฟังเหตุผลอะไรเลย” นายธวัชชัย
กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น
นายธวัชชัย ได้โชว์เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นปี 2512
ที่แขวนคอไว้ตลอดเวลาให้สื่อมวลชนได้ดู
พร้อมกับขอให้ทางตำรวจช่วยเหลือเพราะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยเพราะเริ่มกลับมาทำงานตามปกติแล้ว
ขณะที่ ดร.อุสาห์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ก็พยายามหาทางช่วยเหลือ นายธวัชชัย
โดยให้นักศึกษาในสถาบันการบินฯ ซึ่งได้รับสายโทรศัพท์มาสอบถาม
ชี้แจงและประชาสัมพันธ์กรณีนี้เพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นไปก่อนเพราะกระแสข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องหลวงพ่อคูณ
นั้น รุนแรงมาก และต่างคนต่างใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลแล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.ศานุวงศ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวทาง
บก.ปอท.ได้รับเรื่องไว้แล้ว จึงต้องประสานการทำงานร่วมกัน
ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายต้องการให้ บก.ป.ร่วมสืบสวนติดตามผู้กระทำความผิด นั้น
จะมีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อขอข้อมูลรวมทั้งตรวจสอบก่อนจะสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น