กรมศิลปากรนำรถตักดินและกำลังคน
ช่วยกันขุดหาแนวกำแพงของป้อมวิเชียรโชฎกในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาคร
ซึ่งก็พบว่าถูกฝังอยู่ในดินลึกกว่า 2 เมตร
จากกรณีปัญหาการคัดค้าน
การก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาครสูง 7 ชั้น ในพื้นที่ราชพัสดุ
ของกรมธนารักษ์ ที่ทางประชาคมจังหวัดสมุทรสาครได้ยื่นคัดค้านต่อ ร.ต.ท.อาทิตย์
บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครมาถึง 2 ครั้งแล้ว
เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงกว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสาคร
อีกทั้งพื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวน่าจะเป็นเขตโบราณสถานของป้อมวิเชียรโชฎก
ที่ทางจังหวัดสมุทรสาครกำลังฟื้นฟูอยู่ในขณะนี้ด้วย
ซึ่งต่อมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้มีหนังสือทุเลาการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาครไว้ก่อน
เพื่อรอให้กรมศิลปากร เข้าตรวจสอบว่า
พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตโบราณสถานหรือไม่นั้น
และเพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น
ในวันนี้ทางกรมศิลปากร โดยการนำของนางสาวนารีรัตน์ ปรีชาพีชคุปต์
ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี และเจ้าหน้าที่
ก็ได้รับอนุญาตจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
ให้เข้าใช้พื้นที่ราชพัสดุสำหรับใช้ก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาคร
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามโครงการขุดค้นเพื่อศึกษาทางโบราณคดี ในที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน
สค.36 ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาจัดทำแผนการอนุรักษ์และพัฒนาอุทยานประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก
ซึ่งจากการขุดดินลึกลงไปประมาณ 2 – 3
เมตร ตามแนวเขตที่กรมศิลปากรได้วางไว้ เพราะจากหลักฐานทำให้เชื่อได้ว่าเป็นแนวของกำแพงป้อมวิเชียรโชฎกนั้น
ก็ทำให้พบกับอิฐมอญซึ่งเป็นอิฐเก่าอันน่าจะเกิดจากอิฐที่นำมาทำกำแพงป้อม
และเมื่อขุดห่างจากจุดแรกมาอีกประมาณ 1 เมตรในระยะความลึกใกล้เคียงกัน ตรงนี้ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเพราะเห็นเป็นแนวกำแพงป้อมฯ
เก่า ทั้งรูปร่างลักษณะ ซึ่งบ่งบอกว่าตรงนี้เป็นพื้นที่โบราณสถานอย่างแน่นอน
และไม่ใช่แนวสร้างใหม่
เพราะจากลักษณะของเนื้อดินทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเป็นดินเดิมที่ไม่ได้เกิดจากการนำมาถมใหม่
จนทำให้เนื้อดินเปลี่ยนแปลงไป
นางสาวนารีรัตน์ ปรีชาพีชคุปต์
ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี บอกว่า
หลังจากที่มีการขุดค้นจนพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนแล้วว่า มีแนวกำแพงป้อมวิเชียรโชฎก
ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญอยู่ในพื้นที่ของราชพัสดุ
ที่กำลังจะมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาครนั้น
เบื้องต้นก็จะใช้กำลังคนในการขุดเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการทำลายโบราณสถานอันเกิดจากเครื่องจักรกลหนัก
พร้อมกันนี้ก็จะทำหนังสือแจ้งให้ทางสำนักงานอัยการและทางจังหวัดสมุทรสาคร
ตลอดจนประชาคมจังหวัดสมุทรสาครได้รับทราบ เพื่อประชุมหารือถึงการดำเนินการต่อไป
ในเรื่องของการสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาคร เพราะโดยอำนาจของกรมศิลปากร
ไม่สามารถยับยั้งการก่อสร้างได้
แต่โดยทั่วไปแล้วหากสถานที่ใดจะมาสร้างติดกับโบราณสถานนั้น
จะต้องมีระยะห่างไม่น้อยกว่า 20 เมตร เพื่อไม่ให้ไปละเมิดพระราชบัญญัติโบราณสถาน
โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535
มาตรา 7 (ทวิ) มาตรา 10 ว่าด้วยเรื่องของการก่อสร้างอาคารในเขตโบราณสถาน
จะต้องขออนุญาตกรมศิลปากรเสียก่อน และการก่อสร้างต้องไม่ทำลาย หรือบดบังโบราณสถาน
ส่วนแนวกำแพงป้อมวิเชียรโชฎกที่ถูกขุดพบว่า
ฝังอยู่ในพื้นดินนั้น ก็จะมีแนวทางการดำเนินงานอยู่ 2 อย่างคือ 1.ขุดลงไปให้ลึกกว่าเดิม
เพื่อให้เห็นได้ชัดเจนว่านี่คือแนวกำแพงเก่าของป้อมวิเชียรโชฎก ให้คนได้มาศึกษาดู
หรือวิธีที่ 2 คือ กลบแนวกำแพงเดิมไว้ แต่ทำป้ายหรือสัญลักษณ์บ่งบอกให้รู้ว่า
พื้นที่ตรงนี้มีแนวกำแพงเก่าของป้อมวิเชียรโชฎกฝังอยู่ ซึ่งนับเป็นเขตโบราณสถานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้อย่างยิ่ง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น