“จักรทิพย์” ลงพื้นที่เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวน
เรียกนครบาล ลงไปเสริมกำลังกองปราบปราม และภูธรภาค 7
ล่าฆาตกรหื่นข่มขืนคนแก่ต่อเนื่อง ลอยนวลนานเกือบ 5
ปี ชี้ชอบเลือกลงมือวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เน้นหญิงสูงวัยขาวอวบ ผบช.ภ.7
เปิดให้ชาวบ้านแจ้งเบาะแส 24 ชั่วโมง ยอมรับคนร้ายไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปทำให้กรรมวิธีสืบสวนซับซ้อน
รรท.ผบก.ป.มั่นใจต้องได้ตัวแน่นอน
ยืนยันไม่ปล่อยให้ลอยนวลสร้างความหวาดผวาจนชาวบ้านไม่กล้าออกไปไหน
คดีคนร้ายหื่นกามอาละวาดข่มขืนหญิงชราต่อเนื่องในพื้นที่
จ.สมุทรสงคราม ติดเขต จ.นครปฐม มีเหยื่อบางรายเสียชีวิต ก่อเหตุมาเกินกว่า 10
คดีตลอดระยะเวลา 5 ปี
สร้างความสะเทือนขวัญแก่ชาวบ้านละแวกนั้นมายาวนาน แต่ตำรวจกลับแกะรอย
คว้าน้ำเหลวลากคอมาดำเนินคดีไม่ได้ แถมย่ามใจก่อคดีซ้ำเมื่อปลายปี 2557
กระทั่ง พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รรท.ผบช.ก.สั่ง พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.ระดมทีมไปช่วยคลี่คลายหวังจับกุมคนร้ายจิตวิตถารรายนี้ไปลงโทษให้ได้โดยเร็ว
ที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม วันที่ 27
ม.ค. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี
มี พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์
หลักบุญ ผบก.สปพ.191 พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จ.นครปฐม
พล.ต.ต.ประภากร ริ้วทอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท. ผบก.ป พ.ต.ท.ปรีชา
ทิมหอม รอง ผกก.สส.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี และ พ.ต.อ.ชัชชาย
คล้ายคลึง ผกก.สามพราน จ.นครปฐม เข้าหารือใช้เวลาประมาณ 2
ชม.
พล.ต.อ.จักรทิพย์เปิดเผยภายหลังว่า
วันนี้ส่งทีมงานตำรวจหลายหน่วยเข้าร่วมกันคลี่คลายคดีไม่ว่าจะเป็นกองปราบปราม
และนครบาลร่วมประสานตำรวจภาค 7 โดยต้องพยายามจับกุมคนร้ายบ้ากามต่อเนื่องให้ได้โดยเร็ว
คดีที่คนร้ายก่อเหตุ 9 คดีที่ผ่านมา
คนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกัน เพราะดีเอ็นเอตรงกันหมด เหลือแต่คดีล่าสุดเมื่อวันที่ 25
ม.ค.58 เท่านั้นที่ยังไม่ยืนยันว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกันหรือไม่
แต่พฤติกรรมลักษณะคล้ายกันเหมือนทั้ง 9 คดี
เชื่อว่าน่าจะเป็นคนเดียวกัน ต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอว่าตรงหรือไม่
ส่วนแนวทางการสืบสวน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า
ต้องดูร่องรอยที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ
รวมถึงการเดินทางของคนร้ายไม่ว่าจะเป็นทางเท้า หรือขี่รถจักรยาน
คาดว่าคนร้ายยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่รอยต่อเขตภาค 7
รวมทั้ง จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทร– สงคราม หรืออาจอยู่ในเขตพื้นที่ อ.นครชัยศรี
ก็เป็นได้ เนื่องจากคนร้ายอาจยังไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกไล่ล่า ถูกเฝ้ามองจากตำรวจ
ด้าน พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7
เผยว่า ตำรวจทำงานกันอย่างเต็มที่ คดีมีความคืบหน้ามาก แต่จะยังไม่ตัดทิ้งกลุ่มไหน
9 คดีที่ผ่านมาสังเกตว่า คนร้ายจะก่อเหตุในช่วงวันหยุด ศุกร์
เสาร์ อาทิตย์ แต่ละคดีการก่อเหตุมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นเป็นหญิงสูงวัยลักษณะขาวอวบ
ขณะนี้มีการตื่นตัวในภาคประชาชนมาก มีการแจ้งเบาะแสผู้ต้องสงสัยจากการดูภาพสเกตช์
หากชายแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่จะแจ้งตำรวจ ตนสั่งรับโทรศัพท์ตลอด 24
ชม.เมื่อแจ้งแล้ว ตำรวจต้องเดินทางไปให้รวดเร็ว
นำมาทำประวัติตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด
ผบช.ภ.7
กล่าวอีกว่า ได้ส่งตำรวจหลายชุดเข้าตรวจสอบกลุ่มคนหาปลา คนหาสัตว์น้ำ
หรือแม้กระทั่งบุคคลทั่วไป แต่ความต่างอยู่ที่คนร้ายมีความไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป
กรรมวิธีการสืบสวนจึงซับซ้อน
ส่วนเรื่องภาพสเกตช์ของคนร้ายที่มีใบหน้าต่างกันทั้งสองรูป หรือบางคนมองแล้วอาจถามว่าใช่ใบหน้าแบบนี้หรือไม่
ต้องบอกว่า คนร้ายก่อเหตุในช่วงเวลาดึกอยู่ในความมืด
ประกอบกับผู้เสียหายอยู่ในอาการตกใจจึงได้ภาพออกมาในลักษณะดังกล่าว
คิดว่าใกล้เคียงที่สุด สามารถเอามาเป็นแนวทางในการควานหาตัวได้
ขณะที่ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.
เผยว่า ระดมกำลังกองปราบปรามเข้ามาร่วมคลี่คลายคดีนี้ถึง 11
ชุด ก่อนหน้านี้ส่งมาแล้ว 9 ชุด แต่ละชุดทำหน้าที่แตกต่างกัน
มีชุดซักถาม ชุดหาข้อมูล ชุดวิเคราะห์ที่เกิดเหตุ ชุดดูเส้นทาง ชุดดูกล้อง
และชุดลาดตระเวน เป็นต้น มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5
บก.ป. ที่รับผิดชอบภาค 7 เป็นหัวหน้าทีม
เรื่องนี้ถือว่าเป็นคดีสำคัญที่สุด
เพราะหากปล่อยเนิ่นนานไปจะสร้างความหวาดผวาให้กับคนแก่ที่หากินสุจริต
ไม่กล้าออกไปไหน และต้องระวังตัวอาจเกิดอันตรายได้ โดยต้องขอเวลาให้ตำรวจทำงานก่อน
มั่นใจต้องได้ตัวแน่นอน
วันเดียวกัน พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร.
เชิญเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอประชุม
เพื่อสรุปผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุทั้งหมดรวบรวมเก็บไว้เป็นพยานหลักฐานเปรียบเทียบผู้ต้องสงสัยพบว่า
มีการเชื่อมโยงกันหมด ทั้งนี้ พล.ต.ท.มนู ระบุว่า หากจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้
ผลตรวจดีเอ็นเอตรงกับที่ตำรวจเก็บไว้ก็จะสามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า
เป็นผู้กระทำความผิด
ที่ผ่านมาได้มีการส่งตัวผู้ต้องสงสัยมาเปรียบเทียบดีเอ็นเอแล้วหลายราย
แต่ยังไม่ตรงกับหลักฐานที่เก็บไว้เปรียบเทียบสักราย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น