เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 12
ตุลาคม 2556 ว่าที่ร้อยตำรวจโทอาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
ได้เดินทางไปโรงพยาบาลสมุทรสาคร ชั้น 2 แผนกผู้ป่วยหนัก
เพื่อเยี่ยมเยียนอาการบาดเจ็บของ ด.ต.ณัฐศาสตร์ ศรีสร้อย อายุ 45 ปี ผบ.หมู่งาน
(ป.) สภ.เมืองสมุทรสาคร ที่เข้าระงับเหตุขณะวัยรุ่น 2 กลุ่มทะเลาะวิวาทกัน
จนถูกยิงเข้าที่ศรีษะได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนที่ผู้ว่าฯ จะเดินทางไปถึงเพียงครึ่งชั่วโมงในเวลาประมาณ 10.00 น. นั้น
ด.ต.ณัฐศาสตร์ ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการสงบ
สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่นางภัทรามณ ศรีสร้อย ภรรยา และนายทรงเดช ชัยภาคภูมิ
บุตรชายวัย 18 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ของวิทยาลัยประมงสมุทรสาคร
ตลอดจนญาติพี่น้องที่มาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เกิดเหตุเป็นอย่างมาก
ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่ง
เพื่อเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ต.ณัฐศาสตร์ก่อน และหลังจากนี้ก็จะดูว่าทางจังหวัดนั้นจะสามารถให้ความช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมได้อีกบ้าง
เป็นการต่อยอดจากความช่วยเหลือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตรายนี้
เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและตอบแทนคุณงามความดีของ ด.ต.ณัฐศาสตร์ ศรีสร้อย
ที่ต้องเสียชีวิตลงขณะปฏิบัติหน้าที่
ต่อมาในเวลาประมาณ 11.10 น. ของวันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง
ผบ.ตร.ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อมอบเงินเยียวยาเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวของ
ด.ต.ณัฐศาสตร์ฯ จำนวน 800,000 บาท พร้อมกันนี้ยังมีเงินช่วยเหลือจาก
กรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ อีก 50,000 บาท โดยทางด้านของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็บอกว่า
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะให้การดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด
โดยเงินที่นำมามอบให้นี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น หลังจากนี้ก็จะมอบให้อีกก้อนหนึ่งตามสิทธิ์ที่
ด.ต.ณัฐศาสตร์และครอบครัวพึงได้รับ
อีกทั้งยังได้มีการพิจารณาความดีความชอบเลื่อนขั้นให้กับ ด.ต.ณัฐศาสตร์ ศรีสร้อย 5
ชั้นยศ เป็น พันตำรวจโท และบุตรชายของ ด.ต.ณัฐศาสตร์ฯ ซึ่งเคยสอบเป็นตำรวจมาแล้ว 2
ครั้งแต่ไม่ติดนั้น ก็จะให้เข้ามารับราชการเป็นตำรวจอย่างที่ตั้งใจไว้
ขณะที่ในเรื่องของพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล
รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลความเรียบร้อย
และให้ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร กับ สภ.เมืองสมุทรสาคร
เป็นเจ้าภาพตลอดการจัดงาน โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2556 เวลา
16.00 น. ที่วัดป้อมวิเชียรโชติการาม ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ส่วนช่วงนี้ให้ส่งศพไปที่สถาบันนิติเวชเพื่อเก็บรักษาไว้ก่อน
และวันจันทร์ก็ให้ญาติไปรับศพออกมาเพื่อกระทำพิธีทางศาสนาต่อไป
จากนั้นในวันสุดท้ายก็จะได้ยื่นเรื่องไปยังสำนักพระราชวังเพื่อกราบบังคมทูลขอไฟพระราชทานเพลิงศพ
เป็นการเชิดชูเกียรติและประกาศคุณงามความดีของ ด.ต.ณัฐศาสตร์ ศรีสร้อย
ที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่
และต่อมาหลังจากที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบเงินให้กับครอบครัวของ
ด.ต.ณัฐศาสตร์ ศรีสร้อย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดี อาทิเช่น พล.ต.ต.วิทยา
ประยงค์พันธุ์ รอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.สมเกียรติ
วัฒนพรมงคล – พ.ต.อ.ประทีป ราญสระน้อย รอง ผบก.ภ.จว.สค.,
พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร,พ.ต.อ.ชมชวิณ
ปุระธนานนท์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.ท.บุญเลิศ หาวงศ์ พนักงานสอบสวนคดีฯ
และตำรวจสืบสวนของ สภ.เมืองสมุทรสาคร กับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร
เข้าประชุมลับเพื่อสั่งการถึงการรวบรวมพยานหลักฐานและการบันทึกสำนวนคดีให้เป็นไปด้วยความรัดกุม
เรียบร้อย เพื่อใช้ดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุลงมือยิง ด.ต.ณัฐศาสตร์ ศรีสร้อย
จนเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3
คนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไว้สอบปากคำคือ นายปัญจะ ศรีทิพย์,นายพรเทพ สำราญ และนายสุธี สำราญ โดยเบื้องต้นถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า
ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ร่วมกันมีอาวุธปืน
ร่วมกันพกพาอาวุธปืน ร่วมกันยิงปืนในเมือง หมู่บ้านในทางสาธารณะ
และทั้งนี้จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวยังทราบอีกว่า ทางตำรวจมีคำสั่งงดให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดและส่งศาลฝากขังไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนอีกคนที่ร่วมกันก่อเหตุก็คือนายพชร สำราญ ที่เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล
ด้านนายทรงเดช ชัยภาคภูมิ บุตรชายของ
ด.ต.ณัฐศาสตร์ฯ นั้นก็เปิดเผยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า
ทางครอบครัวรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่พ่อซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องมาเสียชีวิตลง
คงเหลือแต่แม่ที่ทำงานรับจ้างต้องกลายมาเป็นคนดูแลครอบครัวแทน
แต่ทั้งนี้ก็ภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพ่อที่ทำอย่างเต็มที่และทุ่มเทกับงานจนตัวตาย
ซึ่งเมื่อครั้งที่พ่อมีชีวิตอยู่นั้นพ่อได้สั่งสอนตนให้เป็นคนดี
มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อชาติบ้านเมือง
และยังขอให้ตนสอบเข้าเป็นตำรวจเหมือนพ่ออีกด้วย แต่ตนก็ทำให้พ่อผิดหวังมา 2
ครั้งแล้ว คือสอบเข้าตำรวจไม่ได้
ซึ่งถ้าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมตตาให้ตนได้เข้ามารับราชการเป็นตำรวจที่ดีอย่างพ่อนั้น
ตนก็จะขอทำหน้าที่เป็นตำรวจให้ดีที่สุดตามเจตนารมย์ที่พ่อตั้งใจและสั่งสอนมาตลอด
สำหรับเหตุการณ์ที่ ด.ต.ณัฐศาสตร์ ศรีสร้อย ผบ.หมู่งาน(ป.)
สภ.เมืองสมุทรสาครถูกกลุ่มวัยรุ่นยิงเสียชีวิตนี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ
00.20 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม 2556 ได้มีคนร้าย 3 – 4 คน
ใช้อาวุธปืนยิงบริเวณหน้าร้านอาหารสถานบันเทิงชื่อดัง “เรดซีดผับ” ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมหาชัย ถ.กิจมณี ต.มหาชัย
อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยเมื่อศูนย์วิทยุนรสิงห์ได้รับแจ้งจึงให้สายตรวจไปตรวจสอบ
ขณะนั้น ด.ต.ณัฐศาสตร์ ศรีสร้อย และ ด.ต.อานนท์ คำปัง สายตรวจรถจักรยานยนต์
ตรวจอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ จึงได้ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่ากลุ่มวัยรุ่นประมาณ
3 – 4 คน
ได้ใช้อาวุธปืนยิงคู่กรณีที่จอดรถจักรยานยนต์อยู่
กึ่งกลางถนน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในกลุ่มคนร้ายพร้อมทั้งสั่งให้หยุด
แต่คนร้ายไม่ยอมหยุดกลับหันมาใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ววิ่งหลบหนีไปในโรงน้ำแข็งใกล้ที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ด.ต.ณัฐศาสตร์ และ ด.ต.อานนท์
ได้ขับรถจักรยานยนต์สายตรวจติดตามไปพร้อมกับขอกำลังสนับสนุน
เมื่อไปถึงโรงน้ำแข็งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานบันเทิงเรดซีดผับห่างกันประมาณ 200
เมตร ด.ต.ณัฐศาสตร์ฯ ได้ให้ ด.ต.อานนท์ลงจากรถเพื่อสกัดรออยู่ตรงบริเวณทางเข้า
ส่วนตัวเองได้ขับรถไปสกัดจับตรงบริเวณทางออกอีกทางหนึ่ง
ระหว่างนั้นได้มีพวกของคนร้ายขับรถยนต์กระบะสีขาว ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู
ทะเบียนป้ายแดง ก – 9318 กรุงเทพมหานคร
ขับตามเข้าไปภายในโรงน้ำแข็งเพื่อที่จะรับพวกของตน
แต่เมื่อเห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับอยู่ก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ ด.ต.ณัฐศาสตร์
ก่อนทันที จนเกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างคนร้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ปรากฎว่ากระสุนของคนร้ายได้ทะลุเข้าที่บริเวณศรีษะ และตามร่างกายของ ด.ต.ณัฐศาสตร์
จนบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนร้ายก็ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสคนหนึ่งเช่นกัน ซึ่งเพื่อนๆ
ได้ช่วยกันนำขึ้นรถกระบะเพื่อจะพาหลบหนี
และระหว่างที่กำลังจะหลบหนีนั้นทางกลุ่มคนร้ายยังได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาสนับสนุนอีกจำนวน
2 นัด จนสามารถเปิดทางหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปได้สำเร็จ
จากนั้นก็พาเพื่อนที่บาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทราบชื่อคือ นายพัชระ สำราญ อายุ 27 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย และขาซ้าย
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่เหลือหลังส่งเพื่อนไว้ที่โรงพยาบาลสมุทรสาครแล้ว
ก็ได้ขับรถกระบะหลบหนี โดยขับย้อนศรขึ้นไปทางสี่แยกมหาชัย
จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับไว้ได้ห่างจากโรงพยาบาลฯ เพียงแค่ประมาณ 100
เมตรเท่านั้น ซึ่งในรถมีคนร้ายอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน คือ นายปัญจะหรือเจ ไหวพริบ
อายุ 22 ปี นายพรเทพ หรือนัด สำราญ อายุ 22 ปี และนายสุธีร์ หรือแบงค์ สำราญ อายุ
21 ปี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนขนาด 9 มม. ทะเบียน กท 1930464 พร้อมซองบรรจุกระสุน
1 กระบอก , อาวุธปืนขนาด .357 หมายเลขประจำปืน BSI 5558 จำนวน 1 กระบอก
อาวุธปืนขนาด 11 มม.ทะเบียน อก.2/2022 พร้อมซองกระสุนปืนอีกจำนวน 1 กระบอก
และทะเบียนรถยนต์ป้ายขาวอีก 1 ป้าย
นอกจากนี้ที่ประตูรถกระบะยังมีรูกระสุนถูกยิงจนแตก
และที่กระบะท้ายยังมีรอยเลือดอยู่อีกด้วย
ทั้งนี้ในช่วงเกิดเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบพื้นที่
ที่ดวลปืนกันก็ยังพบ หมวกกันน๊อคของ ด.ต.ณัฐศาสตร์ฯ เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 ใบ
อาวุธปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนอีกกว่า 20 ปลอก
จึงได้เก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งยังมีการนำกล้องวงจรปิดจาก
เรดซีดผับ และจุดที่ใกล้เคียง มาตรวจสอบเพื่อดูเหตุการณ์ทั้งหมดอีกด้วย และจะได้เป็นประจักษ์พยานว่าใครที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้บ้าง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น