3 ต.ค.56
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.(รับผิดชอบงานจราจร) พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผบช.น.(ผช.งานจราจร) และรองผบก.จร.
เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร้นท์ กับรองผบก. รองผกก.จร. สว.จร. ของบก.น.1-9 และบก.จร.
เป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งกำกับดูแลงานจราจร โดยในที่ประชุมทางบก.น.1-9
ได้สรุปปัญหาจราจรชั่วโมงเร่งด่วนในถนนสายหลัก ภาพรวมถือว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม โดยพล.ต.ต.อดุลย์
ได้กล่าวว่าจากนโยบายของผบช.น.ในเรื่องงานจราจรให้ดำเนินการอย่างรีบเร่ง
ในการแก้ปัญหารถติด ให้เกิดความพึงพอใจกับประชาชนมาที่สุด
จากนั้นได้สรุปข้อสั่งการ ว่าจากการตรวจสอบสภาพการจราจรยังคงเป็นปกติเนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม โดยจะให้แต่ละสน.พื้นที่ เร่งหาแนวทางแก้ไขในช่วงเปิดภาคเทอม ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้ทุก กองบังคับการเสนอข้อมูลสาเหตุปัญหาที่ทำรถติด ปัญหาอุบัติเหตุ แนวทางการแก้ไข มาที่ตน เพื่อจะนำมาเป็นข้อมูลวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ คือ ต้องมีคำตอบและต้องตรวจสอบได้อย่างมีเหตุมีผล พร้อมจัดทำโปรแกรมวิเคราะห์เส้นทาง ปริมาณรถ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวจะต้องนำไปปฏิบิติ ได้จริงและชัดเจน
ทั้งนี้ บก.1-9 บก.จร. และ 88 สน. จะต้องผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียว ในการช่วยกันแก้ปัญหา เป็นไปตามกรอบนโยบายดังนี้
- ต้องพลิกโฉม สร้างภาพลักษณ์ให้ตำรวจจราจรจากเดิมเป็นจุดบอด มีภาพลักษณ์ที่เสีย ต่อไปต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
- ในส่วนการทำงานเน้นถวายความปลอดภัย เน้นโครงการพระราชดำริเป็นอันดับหนึ่ง
- การปฏิบัติ การแต่งกาย ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี
- ตำรวจจราจรต้องขยัน ทั้ง7 วัน จุดหน้าห้าง รร.กวดวิชา โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์
- นโยบายสร้างขวัญกำลังใจ มีความก้าวหน้า มีชีวิตการทำงานที่ดีขึ้น ตนจะลงไปทำงานร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูกน้อง
- หาแนวทาง ในปีต่อไป จะต้องไม่มีตำรวจเสียชีวิต อุปกรณ์เสื้อสะท้อนแสงต้องพร้อม รวมถึงควันพิษที่จะได้รับ
- เกิดอุบัติเหตุต้องรีบเข้าเคลียร์พื้นที่โดยเร็ว เพื่อลดการสูญเสียซ้ำซ้อน
- กรณีฝนตกน้ำท่วมขัง เครื่องสูบน้ำต้องมีประจำทุกสน. โดยจะแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชน
- การตั้งด่าน หากรถติดให้ยกเลิกด่านทันที
- พัฒนากองทุนจราจร ที่จะสนับสนุนในสน.พื้นที่ และ กองบังคับการจราจร
นอกจากนี้จะดำเนินการปรับปรุงระบบ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) กองบังคับการตำรวจจราจร ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากการใช้งานมานานเกือบ 30 ปีทำให้ประสิทธิภาพการทำงานขณะนี้เหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งต่อไปจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ให้ครบถ้วนในทุกจุด
โดยพล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า จากนี้ในสายงานจราจร ต้องช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ ต้องทำงานร่วมกับสื่อมวลชน ประชาชน รวมทั้งจัดอาสาสมัครพิทักษ์จราจร ช่วยงานในแต่ละสน.พื้นที่
โดยต่อไประดับ รองผบก.จร. รองผกก. สว.จร.ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบ มีการปล่อยแถว เน้นดูแลจุดหน้าโรงเรียนที่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำแผนพัฒนาระบบและแกัไขปัญหาจราจร บช.น. ไว้แล้ว คาดว่าจะสรุปได้ในวันจันทร์ นี้ ด้านพล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผบช.น. (น.14) ผช.งานจราจร กล่าวเพิ่มเติมในที่ประชุม การทำงานต้องเข้มข้นขึ้น ประชาชนต้องไม่ว้าเหว่ ตำรวจจราจรย่อหย่อนต่อการทำงาน อาจต้องมีการพิจารณาโยกย้ายไปส่วนงานอื่น
จากนั้นได้สรุปข้อสั่งการ ว่าจากการตรวจสอบสภาพการจราจรยังคงเป็นปกติเนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม โดยจะให้แต่ละสน.พื้นที่ เร่งหาแนวทางแก้ไขในช่วงเปิดภาคเทอม ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้ทุก กองบังคับการเสนอข้อมูลสาเหตุปัญหาที่ทำรถติด ปัญหาอุบัติเหตุ แนวทางการแก้ไข มาที่ตน เพื่อจะนำมาเป็นข้อมูลวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ คือ ต้องมีคำตอบและต้องตรวจสอบได้อย่างมีเหตุมีผล พร้อมจัดทำโปรแกรมวิเคราะห์เส้นทาง ปริมาณรถ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวจะต้องนำไปปฏิบิติ ได้จริงและชัดเจน
ทั้งนี้ บก.1-9 บก.จร. และ 88 สน. จะต้องผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียว ในการช่วยกันแก้ปัญหา เป็นไปตามกรอบนโยบายดังนี้
- ต้องพลิกโฉม สร้างภาพลักษณ์ให้ตำรวจจราจรจากเดิมเป็นจุดบอด มีภาพลักษณ์ที่เสีย ต่อไปต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
- ในส่วนการทำงานเน้นถวายความปลอดภัย เน้นโครงการพระราชดำริเป็นอันดับหนึ่ง
- การปฏิบัติ การแต่งกาย ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี
- ตำรวจจราจรต้องขยัน ทั้ง7 วัน จุดหน้าห้าง รร.กวดวิชา โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์
- นโยบายสร้างขวัญกำลังใจ มีความก้าวหน้า มีชีวิตการทำงานที่ดีขึ้น ตนจะลงไปทำงานร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูกน้อง
- หาแนวทาง ในปีต่อไป จะต้องไม่มีตำรวจเสียชีวิต อุปกรณ์เสื้อสะท้อนแสงต้องพร้อม รวมถึงควันพิษที่จะได้รับ
- เกิดอุบัติเหตุต้องรีบเข้าเคลียร์พื้นที่โดยเร็ว เพื่อลดการสูญเสียซ้ำซ้อน
- กรณีฝนตกน้ำท่วมขัง เครื่องสูบน้ำต้องมีประจำทุกสน. โดยจะแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชน
- การตั้งด่าน หากรถติดให้ยกเลิกด่านทันที
- พัฒนากองทุนจราจร ที่จะสนับสนุนในสน.พื้นที่ และ กองบังคับการจราจร
นอกจากนี้จะดำเนินการปรับปรุงระบบ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) กองบังคับการตำรวจจราจร ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากการใช้งานมานานเกือบ 30 ปีทำให้ประสิทธิภาพการทำงานขณะนี้เหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งต่อไปจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ให้ครบถ้วนในทุกจุด
โดยพล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า จากนี้ในสายงานจราจร ต้องช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ ต้องทำงานร่วมกับสื่อมวลชน ประชาชน รวมทั้งจัดอาสาสมัครพิทักษ์จราจร ช่วยงานในแต่ละสน.พื้นที่
โดยต่อไประดับ รองผบก.จร. รองผกก. สว.จร.ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบ มีการปล่อยแถว เน้นดูแลจุดหน้าโรงเรียนที่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำแผนพัฒนาระบบและแกัไขปัญหาจราจร บช.น. ไว้แล้ว คาดว่าจะสรุปได้ในวันจันทร์ นี้ ด้านพล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผบช.น. (น.14) ผช.งานจราจร กล่าวเพิ่มเติมในที่ประชุม การทำงานต้องเข้มข้นขึ้น ประชาชนต้องไม่ว้าเหว่ ตำรวจจราจรย่อหย่อนต่อการทำงาน อาจต้องมีการพิจารณาโยกย้ายไปส่วนงานอื่น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น