pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รมว.พม. นำทีมผู้บริหารกระทรวงฯ เข้าพบ ผบ.ตร. เพื่อหารือ เรื่องการป้องกันและปราบปรามปัญหาการค้ามนุษย์ และการดำเนินงานของศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร. ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชม. ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

เมื่อ ๑๑ ก.ค. ๕๖ นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำทีมผู้บริหารกระทรวงฯ เข้าพบ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อประชุมประสานความร่วมมือและแนวทางการทำงาน  ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ในเรื่องการป้องกันและปราบปรามปัญหาการค้ามนุษย์ และการดำเนินงานของศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC (One Stop Crisis Center) โทร. ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชม. ณ ห้องรับรอง ชั้น ๒  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
                นางปวีณา กล่าวว่ากระทรวงฯ ได้ประชุมหารือกับทางสตช. และได้ข้อสรุป ๔ ประเด็นดังนี้ ) เรื่อง OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม เพื่อให้การขับเคลื่อน OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้ ๑.๑) การให้การสนับสนุนกำลังตำรวจหน่วยต่างๆ เพื่อร่วมปฏิบัติงานที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ๒๔  ชั่วโมง ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้มีหน่วยงานเครือข่ายและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกันให้บริการแก้ไขปัญหาต่างๆ ๑.๒) การกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สถานีตำรวจทุกแห่ง  ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยรับแจ้งเหตุ/ เบาะแส (Front Line ๑) ของ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม และโดยเฉพาะตำรวจได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพในประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์ ตามนโยบายของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (ต้องถ่ายทอดให้เกิดความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ปฏิบัติในพื้นที่อย่างทั่วถึง ๒.) เรื่องการค้ามนุษย์ เพื่อให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย และมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งเพื่อไม่ให้ประเทศไทยถูกสหรัฐฯ ปรับลดระดับลงไปอยู่ในระดับ ๓ (Tier 3) ซึ่งสหรัฐฯ อาจพิจารณาระงับการให้ความช่วยเหลือที่มิใช่ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและความช่วยเหลือที่เกี่ยวกับการค้า จึงมีประเด็นที่จะขอความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้ ๒.๑) การคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ในการวินิจฉัยว่าผู้ใดเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ แม้ว่าจะกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของการค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะกับบุคคลกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก หญิง และชาย ดังนั้น ในการดำเนินการคัดแยกผู้เสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่พบผู้เสียหายหรือบุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินงานร่วมกับ พม. และองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในรูปแบบการทำงานแบบสหวิชาชีพโดยใกล้ชิด นอกจากนี้ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอบรมให้ความรู้แก่พนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่องถึงเทคนิคและวิธีการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒.๒) สถิติคดีค้ามนุษย์ เนื่องจากสหรัฐฯ ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการดำเนินคดีค้ามนุษย์ ซึ่งผลการดำเนินคดีในปี ๒๕๕๖ ที่มีจำนวนมากถึง ๓๐๕ คดี จึงมีประเด็นห่วงกังวล คือ คดีทั้งหมดเป็นคดีค้ามนุษย์หรือไม่ และสามารถส่งสำนวนให้อัยการดำเนินการสั่งฟ้องได้เท่าใด อัยการสั่งฟ้อง/สั่งไม่ฟ้องจำนวนเท่าใด เหตุผลที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เป็นต้น จึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และติดตามความคืบหน้าของคดีทั้งหมด เพื่อจะได้จัดทำข้อมูลส่งสหรัฐฯ ได้ทันการณ์ และรอบคอบ          ๒.๓)การทุจริตคอร์รัปชั่น หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรายใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการล่อซื้อเพื่อใช้บริการทางเพศกับเด็ก การคุ้มครองสถานประกอบที่มีการค้ามนุษย์ ขอให้ดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง และให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอีกด้วย                 ๓.) เรื่องการศึกษาดูงานห้อง Conference ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีนโยบายจะจัดทำห้อง Conference โดยปรับปรุงจากห้องประชุมเดิมที่มีอยู่ จึงขอความร่วมมือในการศึกษาดูงานห้อง Conference ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๔.) เรื่องขอความร่วมมือจัดส่งเจ้าหน้าที่อบรมกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ กระทรวงฯ มีภารกิจในการเตรียมบุคลากรเพื่อเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในกฎหมาย ๓ ฉบับ ได้แก่ ๑) พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ ๒) พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ และ ๓) พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑          ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีอัตรากำลังพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ดังนั้น เพื่อให้ผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรงทั้งเด็ก สตรี ตลอดจนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ได้รับการคุ้มครองอย่างรวดเร็ว จึงขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมตามกฎหมายทั้ง ๓ ฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ (๙ ภาค และ บชน. ภาคละ ๑๐ คน รวม ๑๐๐ คน) และองค์กรพัฒนาเอกชน ชุมชน อย่างละ ๓๐ แห่ง รวมกลุ่มเป้าหมาย ๒๐๐ คน เพื่อเน้นการมีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติงาน รวมทั้งออกบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ (บัตรช่วยเหลือฉุกเฉิน) เพื่อแสดงตนเมื่อเข้าเคหะสถานหรือสถานที่เกิดเหตุ  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.twitter.com/prd_mso และ www.facebook.com/ประชาสัมพันธ์ พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

“ สังคมงอกงาม เพราะเราดูแล ”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น