ขับเคลื่อน "ตลาดประชารัฐ" ช่วยเหลือผู้ไม่มีพื้นที่ค้าขาย

กระทรวงมหาดไทยบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อน "ตลาดประชารัฐ" ช่วยเหลือผู้ไม่มีพื้นที่ค้าขาย

 21 ต.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 เห็นชอบในหลักการให้ดำเนิน “โครงการตลาดประชารัฐ” โดยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในรูปแบบประชารัฐ โดยดำเนินการส่งเสริมพื้นที่ตลาดใหม่ และขยายพื้นที่ตลาดเดิม เพื่อให้เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่มีสถานที่ค้าขาย ให้มีพื้นที่ค้าขาย อันจะนำมาซึ่งการกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก ซึ่งมีตลาดตามโครงการตลาดประชารัฐ รวม 9 ประเภท ประกอบด้วย ตลาดประชารัฐ Green Market ดำเนินการโดย องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ ดำเนินการโดย กรมการพัฒนาชุมชน ตลาดประชารัฐท้องถิ่นสุขใจ ดำเนินการโดย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตลาดประชารัฐ กทม. คืนความสุข ดำเนินการโดย กรุงเทพมหานคร ตลาดประชารัฐของดีจังหวัด ดำเนินการโดย จังหวัดและบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี <จังหวัด> (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ตลาดประชารัฐ Modern Trade ดำเนินการโดย กระทรวงพาณิชย์ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี  (ประเทศไทย) จำกัด และตลาดประชารัฐของดีวิถีชุมชน ธ.ก.ส. ดำเนินการโดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตลาดประชารัฐต้องชม ดำเนินการโดย กระทรวงพาณิชย์ และตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม ดำเนินการโดย กระทรวงวัฒนธรรม รวม 6,447 แห่งทั่วประเทศ

ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยได้ประชุมหารือการดำเนินโครงการตลาดประชารัฐร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งที่ประชุมได้มีมติร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนโครงการตลาดประชารัฐ ทั้งด้านกลยุทธ์การบริหารจัดการโครงการฯ โดยให้มีคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการตลาดประชารัฐทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงด้านการประชาสัมพันธ์เชิงรุก และการกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการด้วยแผนที่นำทาง (Roadmap) ร่วมกัน โดยทุกหน่วยงายยืนยันถึงความพร้อมในการร่วมผนึกกำลังเพื่อพัฒนาตลาดประชารัฐเพื่อสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด

     ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานและจังหวัดจะได้เชิญชวนผู้ประสงค์พื้นที่ค้าขายลงทะเบียนเพื่อสมัครเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2560 ต่อไป

Posted in: