pearleus

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2562

พม. เปิดศูนย์พักพิง 4 แห่ง เร่งช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.ยโสธร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562  นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นางวาสนา ทองจันทร์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร และทีม One Home พม. จังหวัดยโสธร เดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแม่น้ำสายใหญ่ 2 สายไหลผ่าน และในครั้งนี้ถือเป็นการเกิดน้ำท่วมครั้งที่รุนแรงมากในรอบ 70 ปี ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนจำนวนมากและเส้นทางคมนาคมหลายเส้นทางทำให้ไม่สามารถเดินทางสัญจรได้

โดยคาดการณ์ว่า หากปริมาณฝนลดลงจะทำให้สถานการณ์น้ำมีแนวโน้มลดลง ด้วยตามลำดับ ซึ่งทีม One Home พม. จังหวัดยโสธร ซึ่ง ประกอบด้วยหลายหน่วยงาน ของกระทรวงพม. ในพื้นที่ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาอย่างรวดเร็วและทันท่วงที โดยได้ดำเนินการ ดังนี้ 1) แบ่งการทำงานเป็นทีมลงพื้นที่เยี่ยมและสำรวจข้อมูลข้อเท็จจริงผู้ประสบอุทกภัย และประชุมทีม One Home พม. เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายตามภารกิจกระทรวง พม.โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาสที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เด็ก เยาวชน และประชาชนผู้เดือดร้อนที่มีความจำเป็น จำนวน 700 ครอบครัว








โดยบูรณาการกระบวนการทำงานและข้อมูลร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร 2) บูรณาการทำงานร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร โดยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. วิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ เพื่อแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนในพื้นที่ สำรวจความต้องการและจัดหาทรัพยากรในการให้ความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินอย่างทันท่วงที โดยการจัดตั้งศูนย์รับบริจาค และโรงครัวพระราชทานเพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งให้การช่วยเหลือตามภารกิจกระทรวง พม. ในศูนย์พักพิง 3 แห่ง ซึ่งมีผู้พักพิงรวม จำนวน 224 คน โดยในช่วงสายของวันนี้ ได้มีการเปิดทำการศูนย์พักพิงเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง

โดยหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ในพื้นที่ จะเร่งประสานความช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ ศูนย์พักพิงทั้ง 4 แห่ง ตั้งอยู่ในตำบลเชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมที่สร้างผลกระทบให้ประชาชนจำนวนมากกว่า 1,041 ครัวเรือน และมีพื้นที่การเกษตรและเลี้ยงสัตว์เสียหายเป็นอย่างมาก และ 3) ดำเนินกิจกรรมตามภารกิจกระทรวง พม.ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ณ ศูนย์พักพิงวัดบ้านเชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ศูนย์ที่มีจำนวนผู้พักพิงมากที่สุด ดังนี้ 3.1) ตั้งจุดรับข้อมูลผู้ประสบปัญหาอุทกภัย เพื่อนำไปสู่การพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามภารกิจกระทรวง พม. ซึ่งมีผู้ใช้บริการกว่า 50 คนต่อวัน อีกทั้งจัดนักสังคมสงเคราะห์ในการให้บริการให้คำแนะนำปรึกษา บำบัดสภาพจิตใจผ่อนคลายความตึงเครียด และสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาช 3.2) จัดกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน โดยบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดยโสธร โดยมีการจัดกิจกรรมนันทนาการแสดงความสามารถและวาดภาพ เพื่อเสริมพลังทางการเรียนรู้และเสริมทักษะชีวิตให้รู้จักการแบ่งปันเอื้ออาทร ซึ่งมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมกว่า 30 คนต่อวัน และ 3.3) สำรวจความต้องการเครื่องอุปโภคและบริโภคของประชาชนในศูนย์พักพิงทุกแห่งเพื่อประสานจัดหาระดมทรัพยากรในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยการผนึกกำลังร่วมกับทุกภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ตลอดจนเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ซึ่งเป็นกลไกที่ใกล้ชิดกับประชาชนในระดับพื้นที่

นางสาวสราญภัทร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมตน ได้มอบชุดเครื่องอุปโภคและบริโภค รวมจำนวนกว่า 100 ชุด และข้าวสาร อาหารแห้ง สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพสำหรับประชาชนในศูนย์พักพิงในพื้นที่ตำบลเชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายและองค์กรภาคเอกชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ผู้นำท้องที่ได้เตรียมการอพยพประชาชนขึ้นสู่ที่สูงและมีการวางระบบรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินในครัวเรือนของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอีกด้วย ทั้งนี้ การลงพื้นที่ครั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำให้หน่วยงาน สังกัดกระทรวง พม. ในพื้นที่ เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเป้าหมายตามภารกิจกระทรวง พม.โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คนพิการ เด็ก ผู้ด้อยโอกาส
อย่างทันท่วงที และมีการติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำและวิเคราะห์ประเมินเพื่อวางแผนการช่วยเหลือฟื้นฟูที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและกำหนดแผนดำเนินการภายหลังน้ำลด โดยการสำรวจความต้องการขอรับความช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่น ด้านการฝึกอาชีพ เงินสงเคราะห์ เป็นต้น  ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ เพราะ “ทุกปัญหาสังคมมีทางออก” ขอให้แจ้งมายังสายด่วน พม. โทร 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น