pearleus

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562

“COBALT SS 2019”เล็งสร้างแบรนด์ไทย โชว์แว่นตาดีไซน์เด่นคุณภาพเยี่ยมเพื่อดวงตา

“แฟชั่นมาแล้วก็ไปแต่สไตล์คือสิ่งที่จะอยู่กับคุณตลอดไปในฐานะสัญลักษณ์และตัวตนที่แท้จริงของคุณ” จากปรัชญาของแบรนด์สู่ค่ำคืนแห่งการค้นหาสไตล์ที่แตกต่างบริษัทโคบอลท์อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด ผู้คัดสรรแบรนด์แว่นตาที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ไม่แพ้ฟังก์ชั่นจัดงาน ‘COBALT SPRING SUMMER 2019’ เพื่ออัพเดตเทรนด์สุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดทั้งปี2019 พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษศิลปินเจ้าของแบรนด์แว่นตาชื่อดังระดับโลก ‘เบลคคุวาฮาร่า’  ณ ไอคอนนิคสตูดิโอสุขุมวิท53  เมื่อวันก่อน

COBALT ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี2014 ด้วยวิสัยทัศน์ของเจได-ไตรนุภาพ จิระไตรธาร และโต๊ด-ธนภัทรลีละผลินชายหนุ่มสองคนที่ต้องการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับแวดวงแอคเซสซอรีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาCOBALT จึงเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแว่นตาและเครื่องประดับที่ทำหน้าที่คล้ายภัณฑารักษ์ในอาร์ตแกลลอรี เพื่อเฟ้นหาแบรนด์แว่นตาที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยดีไซน์และแนวคิดที่ไม่ซ้ำกับแบรนด์ไหนๆและรวบรวมผลงานศิลปะที่สวมใส่ได้เหล่านั้นมาไว้ในที่เดียวในรูปแบบ Selected Shop



เจได-ไตรนุภาพ หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของCOBALT ว่า จุดเริ่มต้นของแบรนด์เกิดจากความหลงใหลในเสน่ห์ของแว่นตาหลากหลายแบรนด์ที่มีความพิถีพิถัน ให้แรงบันดาลใจกับผู้สวมใส่มีเรื่องราวของแบรนด์ที่น่าสนใจ และที่สำคัญคือคุณภาพและวัสดุที่ผ่านการคิดค้นทดลองอย่างหนักก่อนที่จะกลายมาเป็นผลงานศิลปะที่สวมใส่ได้บนใบหน้า



“สิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลในแว่นตาแต่ละแบรนด์คือเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ต่างๆ ที่มีความน่าสนใจรวมไปถึงวัสดุที่เขาใช้ขั้นตอนการผลิตของเขาและแรงบันดาลใจที่สำคัญกว่า  การที่เราจะเลือกแต่ละแบรนด์เข้ามาจำหน่ายเราต้องดูก่อนว่าเคมีของเรากับเขาเข้ากันหรือเปล่าเพราะสุดท้ายถ้าผมจะนำแว่นตามาขายแล้วทำตลาดเหมือนผู้จัดจำหน่ายรายอื่นๆผมคงไม่ทำเพราะสิ่งที่เราต้องการคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆให้กับวงการนี่แหละครับคือเป้าหมายของเรา”

ด้วยความหลงใหลนี้เองจึงกลายเป็นที่มาของแว่นตาทั้ง 6  แบรนด์ดังระดับโลกที่ COBALT คัดสรรมาไว้ในร้านของตัวเอง เริ่มจากทาวาท(TAVAT) แบรนด์แว่นตาดีไซน์คลาสสิคจากประเทศอิตาลีที่โดดเด่นเหนือกาลเวลาอีกทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่แข็งแรงคงทน ซึ่งเกิดจากการออกแบบที่มีสารตั้งต้นมาจากความต้องการของผู้ใช้งานจริง อีกทั้งผู้ก่อตั้งยังเป็นวิศวกรที่คิดค้นวิธีการผลิตแว่นในแบบฉบับของตัวเอง จนกลายเป็นความโดดเด่นที่ไม่ซ้ำใคร

ส่วน SPEKTRE  คืออีกหนึ่งแบรนด์จากประเทศอิตาลีที่นำความเป็นผู้หญิงมาบอกเล่าเรื่องราวและสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ด้วยความกล้าผสานกับความพิถีพิถันของช่างฝีมือชั้นสูงเป็นการผสมผสานระหว่างดีไซน์และคุณภาพอย่างลงตัวในราคาที่เข้าถึงง่ายอีกแบรนด์ที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ IZIPIZI แบรนด์แว่นตาหลากสีสันจากฝรั่งเศสที่หยิบจับความสนุกสนานและความสดใสมาใส่ไว้ในแว่นตาทำให้ทุกวันกลายเป็นวันพิเศษที่ไม่น่าเบื่อจุดเด่นคือการออกแบบที่สร้างสรรค์มาเพื่อคนทุกเพศทุกวัยเข้ากับสไตล์ที่แตกต่างของแต่ละคน

ด้าน Cazal ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แว่นตาจากเยอรมนีที่นำเอาความเป็นตำนานของแบรนด์มามาปรับเปลี่ยนให้ทันกับยุคสมัย จนได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มชาวฮิปฮอปมาอย่างยาวนานด้วยนิยมสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร

ส่วน M. Cohen แบรนด์เครื่องประดับทำมือชื่อดังจาก L.A. ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดโดยหลอมรวมวัฒนธรรมที่หลากหลายมาใส่ไว้ในงานดีไซน์ที่โดดเด่นจนกลายเป็นไอเทมคู่กายของคนดังระดับโลกมากมายทั้งคริสเฮมส์เวิร์ทจอห์นนี่เดปป์รวมถึงโรเบิร์ดดาวนีย์จูเนียร์

ไฮไลต์ของงาน คือแบรนด์ดังอย่าง BLAKE KUWAHARA แบรนด์แว่นตาที่ผสมผสานศิลปะและความพิถีพิถันตามแบบฉบับของญี่ปุ่นจนกลายเป็นประติมากรรมที่สวมใส่ได้ กับไอเดียการดีไซน์แว่นแบบFrame in Frame ที่ใช้เวลาผลิตแต่ละเฟรมนานถึง8-9 เดือนจนได้ออกมาเป็นผลงานที่งดงามและสมบูรณ์แบบซึ่งภายในงานBlake Kuwaharaดีไซน์เนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ได้บินมาร่วมพูดคุยและเผยถึงแนวคิดในการออกแบบแว่นตาของเขาด้วย

โดย Blake เล่าถึงผลงานของเขาว่าในยุคนี้แฟชั่นคือสิ่งที่มาไวไปไว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องท้าทายที่จะออกแบบบางสิ่งที่จะสามารถอยู่คู่กับผู้สวมใส่ได้อย่างยาวนานท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งเขาเลือกจะใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงสุด แล้วนำมาผสมผสานกับการออกแบบผ่านรูปทรงของกรอบเฟรมที่มีความซับซ้อนจนได้เป็นแว่นตาที่มีคุณภาพ ยืนระยะอยู่คู่ผู้สวมใส่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนและที่สำคัญต้องสวมใส่ได้สบายด้วย




ขณะเดียวกันคุณเจได ยังตอบคำถามที่ว่าจะสร้างแบรนด์ของตัวเองนอกเหนือจากการนำเข้าหรือไม่ว่า  ปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ  เมื่อคนไทยรู้จักโคบอลท์แล้ว  ตนมีความคิดและวางแผนที่จะทำแบรนด์ของตัวเอง อาจมีข่าวดีภายในปลายปีหน้า 2020  ขอสั่งสมประสบการณ์ ด้านการผลิต ข้อมูลตลาดที่โดนใจตรงความต้องการของคนไทย อยากทำแบรนด์ที่มาแล้วให้คนไทยภูมิใจ ไม่มาแบบฉาบฉวย ซึ่ง ณ เวลานี้ เรามีพาร์ทเนอร์ที่ทำได้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นหากคิดจะทำเอง ก็ต้องคิดว่า เราจะยืนตรงจุดไหน แต่โคบอลท์มีโครงการที่จะทำอะไรเพื่อคนไทยหลายอย่าง

นอกจากนี้ในงานยังมีแขกรับเชิญสุดพิเศษอย่างนิ้ง-โศภิดากาญนรินทร์เจ้าของมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์2018 ที่วันนี้ถอดสายสะพายมาทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสายการเงินของCOBALT
แถมยังเป็นผู้กุมหัวใจของเจได-ไตรนุภาพ  ด้วย  นิ้งเล่าถึงไลฟ์สไตล์และความผูกพันกับแว่นตาว่า “สำหรับนิ้งแว่นตาถือเป็นคู่หูข้างกายในชีวิตประจำวันเพราะเวลาไปไหนมาไหนนิ้งจะต้องมีแว่นตาประจำหนึ่งคู่บางครั้งขี้เกียจแต่งหน้าก็จะต้องมีแว่นกันแดดคู่ใจพกไว้ใส่ตลอดซึ่งตอนนี้แว่นตาที่นิ้งพกติดตัวเป็นประจำคือSPEKTRE สีชมพูที่ใส่บ่อยมากยิ่งได้มาทำงานที่ COBALT และได้รู้จักกับแบรนด์แว่นตาที่หลากหลายยิ่งทำให้หลงรักเสน่ห์ของแต่ละแบรนด์ที่มีสตอรี่แตกต่างกัน สำหรับคนที่ยังไม่มีแว่นตาเป็นคู่หูข้างกายอยากให้ลองมาสัมผัสและเลือกเฟ้นสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเองที่ COBALT”






ด้านพอล   สิริสันต์ 
แฟชั่นไอคอนหนุ่มที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ถือเป็นแว่นตาเลิฟเวอร์อีกคนที่ร่วมขึ้นมาพูดคุยกันบนเวทีโดยหนุ่มพอลเปิดเผยถึงเคล็ดลับในการเลือกแว่นตาให้เหมาะกับตัวเองว่า“ส่วนตัวเป็นคนชอบของแนวvintage อยู่แล้วดังนั้นทุกอย่างที่ใส่จะต้องมีเรื่องราวและคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแว่นตาซึ่งการเลือกแว่นตาให้เหมาะกับตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมากถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง อยากให้ลองซึมซับเรื่องราวของแว่นตาแต่ละแบรนด์แล้วเลือกแบรนด์ที่มีเรื่องราวคล้ายกับไลฟ์สไตล์ของเรา ซึ่งรับรองว่าแว่นที่เลือกจะสามารถสะท้อนตัวตนของเราได้อย่างชัดเจน"

ร่วมสัมผัสแว่นตาในสไตล์ โคบอลท์ (COBALT) ได้แล้ววันนี้ ที่ร้าน โคบอลท์ (COBALT) ชั้น M สยามดิสคัฟเวอรี่: https://www.facebook.com/cobaltbkk

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น