pearleus

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2562

“ไอซีเว็กซ์” ผนึก “พร็อพทูมอร์โรว์” นำทัพธุรกิจไทย รุกตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ลุยเจาะ2ประเทศดาวรุ่ง “กัมพูชา-เมียนมา" เตรียมจัดงานเทรดแฟร์ทดสอบกำลังซื้อ


“ไอซีเว็กซ์” ICVex บริษัทในเครืออินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน)  จับมือ “พร็อพทูมอร์โรว์” นำผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย บุกตลาดอาเซียน ลุยจัดงานเทรดแฟร์ “กัมพูชา” และ “เมียนมา” สองประเทศตลาดเกิดใหม่ที่เป็นดาวรุ่งในกลุ่มประเทศ CLMV

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.62 บริษัทไอซีเว็กซ์ จำกัด (ICVex) ผู้เชี่ยวชาญการจัดงานเทรดแฟร์ และเอ็กซิบิชันทุกรูปแบบแห่งภูมิภาคอาเซียนในเครือ บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ www.prop2morrow.com  เว็บสื่ออสังหาฯ แถลงข่าวการนำผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยร่วมงาน  “Cambodia Architect & Decor 2019” ครั้งที่ 4 ที่ Daimond Island Exhibition and Convention Center ( DIECC)  กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.62 และ งาน "Myanmar Build  & Decor 2019” ณ Myanmar Expo  ครั้งที่ 6 ณ เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 3-5 ต.ค.62 และการสัมมนาเรื่อง "โอกาสการลงทุนใน CLMV " (เมียนม่าและกัมพูชา)โดยทั้งสองงานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้า เทคโนโลยี นวัตกรรม และบริการด้านการก่อสร้าง สถาปัตยกรรม ออกแบบ ตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุด

พร้อมจัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ“ทิศทางเศรษฐกิจการลงทุนในประเทศพม่า” โดย นายคาร์โล เอเดรียน โพเบร  รองกรรมการผู้จัดการ คอลลิเออร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เมียนมาร์และ คุณเชีย คิน  ซีอีโอของธุรกิจโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุก่อสร้าง เฮง เอเชีย (Heng Asia) ประเทศกัมพูชา ร่วมพูดคุยในหัวข้อ “ทิศทางเศรษฐกิจ การลงทุนในประเทศกัมพูชา” และนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าว ให้คำแนะนำในตอนท้าย


นายเกรียงไกร   กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า เป็นงานแสดงสินค้าที่เจาะลึกการออกแบบ ตกแต่ง และการดีไซน์โดยเฉพาะ เผยงานนี้จะเป็นแหล่งโชว์เคสนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการ, กลุ่มธุรกิจ เชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ตอบรับความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพ และความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เปิดกว้างดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก  รุกอุตสาหกรรมก่อสร้าง และสถาปนิก เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดให้มีมาตรฐานพร้อมผลักดันสร้างอาชีพที่มั่นคงต่อไป




ส่วนสาเหตุที่เลือกการจัดงานในประเทศกัมพูชาและเมียนมา เพราะทั้งสองประเทศมีศักยภาพทางเศรษฐกิจและการเติบโตของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ) ต่อเนื่อง โดยจีดีพีของประเทศกัมพูชาคาดการณ์ว่าในปี 2562 จะมีการขยายอยู่ที่ 6.8% ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2561 ที่มีอัตราการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ 6.9% ขณะที่ประเทศเมียนมาอัตราการเติบโตของจีดีพี อยู่ที่ 7.7% ในปี 2560 และ 8.0% ในปี 2561 นอกจากนี้อุตสาหกรรมการก่อสร้างต่างๆ มีการเติบโตค่อนข้างสูงมาก โดยประเทศกัมพูชานั้นมีมูลค่าการก่อสร้างโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้นกว่า 22 % เมื่อปีที่แล้วขึ้นมาอยู่ที่ 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนภาคการก่อสร้างของประเทศเมียนมานั้น มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 7.2% ตั้งแต่ปี 2544 ถึงปี 2558 และคาดว่าจะมีการเติบโตได้เพิ่มเป็น 10.37%  ในปี 2563 และคาดการณ์มีมูลค่าที่ 13.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563

นายเกรียงไกร กล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายของงานจากทั้งสองประเทศจะได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเหมือนกับการจัดงานในช่วงปีก่อน โดยงานที่กัมพูชามีบริษัทที่ร่วมออกบูธ 100 แบรนด์ คาดมูลค่าที่จะเกิดขึ้นภายในงานประมาณ 150 ล้านบาท จำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 4,500 – 5,000 คน  ส่วนที่ประเทศเมียนมา มีบริษัทที่ร่วมออกบูธ 70 แบรนด์ จำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 5,000 – 5,500 คน มูลค่าที่จะเกิดขึ้นภายในงาน 200 ล้านบาท คาดว่าจะมาจากกลุ่มสถาปนิก นักออกแบบ ดีไซน์เนอร์ เจ้าของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม กลุ่มก่อสร้าง ผู้รับเหมา ช่าง เป็นต้น

ทางด้านนายสุธาทร  สุทธิสนธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า ทาง พร็อพทูมอร์โรว์ เล็งเห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย มีโครงการที่น่าสนใจมากมายในมุมมองของนักลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากการสำรวจตลาดและความต้องการของกลุ่มลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้าน เห็นได้ว่าอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเรามีความโดดเด่นมากในแง่ของรูปแบบโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราทันสมัย  รวมทั้งสาธารณูปโภคที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่จับตามองของนักลงทุนเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงที่เดินทางมาใช้ชีวิตรักษาพยาบาล และจับจ่ายซื้อของ
ในกรุงเทพ  รวมถึงมาสังสรรค์เป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะนำร่องนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพไปประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้นักลงทุนเพื่อนบ้านมาลงทุน  ซึ่งปีนี้จึงจะเป็นปีแรกที่ในการจัดงานทั้ง 2 ประเทศ จะมี Prop2morrow Pavilion จัดแสดงโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยในงาน โดยวางแผนว่าจะสามารถขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เป็นที่รู้จักและสร้างยอดขายได้มากขึ้นในโอกาสต่อไป

ทั้งนี้สำหรับกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (CLMV) 4 ประเทศ ประกอบด้วย กัมพูชา ,สปป.ลาว, เวียดนาม และเมียนมานั้น มี “กัมพูชา” และ “เมียนมา” สองประเทศตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคที่น่าจับตามอง ด้วยเพราะทั้ง 2 ประเทศได้เร่งนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมทั้งยังมีนโยบายที่เปิดกว้างด้านการลงทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งนั่นถือเป็นอีก “โอกาส” ทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทยที่จะส่งออกทั้งในรูปแบบของสินค้า ภาคธุรกิจด้านการบริการต่างๆ ไปยังตลาดดังกล่าวสนองตอบความต้องการของผู้บริโภค และนักลงทุน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้าง


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น