ซัมมิทแคปปิตอลเผยคาดการณ์สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่และรายได้รวมปี 2561 ทะลุเป้า คาดการณ์สัญญาใหม่ของสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์มีอัตราการเติบโตร้อยละ 13 และรายได้รวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 30 ตั้งเป้าหมาย มกราคม ถึงธันวาคม ปี 2562 สัญญาใหม่ของสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 6 และรายได้โตอีกกว่าร้อยละ 15 พร้อมพัฒนาระบบบริการครอบคลุมทุกมิติ ขยายเครือข่ายดีลเลอร์ ยกระดับคุณภาพบุคลากร ยึดหลักธรรมาภิบาลมาใช้เพื่อการบริการที่เป็นเลิศ ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนคุณภาพ ควบคู่คุณธรรม เพื่อความยั่งยืน”
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิทแคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า มกราคม ถึงธันวาคม ปี 2561 นี้ โดยภาพรวมสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ของ ซัมมิทแคปปิตอล ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งคาดว่าตัวเลขรวมของอัตราการเติบโตของยอดสินเชื่อคงค้าง จะเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 27 จากปีก่อน และจำนวนสัญญาใหม่ของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 หรือสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึงร้อยละ 6 โดยพบว่าในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมาหรือตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนตุลาคม 2561 ภาคเหนือมีอัตราการเติบโตของสัญญามากที่สุดหรือเท่ากับร้อยละ 66 ในขณะเดียวกันถ้ามองสัดส่วนการขายแบ่งตามภาคพบว่าภาคตะวันออกยังคงครองแชมป์อันดับ 1 หรือมีสัดส่วนการขายเท่ากับร้อยละ 33 รองลงมาคือภาคกลางร้อยละ 27 และอีกร้อยละ 40 กระจายอยู่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันตก และคาดว่าถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ บริษัทจะมีรายได้รวมจากการดำเนินงานใน 12 เดือนเติบโตร้อยละ 30 จากปีก่อน และปริมาณหนี้เสีย (NPL) นั้นคงเกณฑ์ดีที่ประมาณร้อยละ 1 ในขณะที่ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ของไทยปีนี้มีอัตราเติบโตค่อนข้างทรงตัว
โดยคาดการณ์ถึงสิ้นปี 2561 จะมีจำนวนรถจักรยานยนต์ใหม่ที่จดทะเบียนไม่เกิน 1.8 ล้านคัน ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ก็ยังคงครองแชมป์รถจดทะเบียนใหม่ของกรมขนส่งทางบกเช่นเคย และข้อมูลจากกรมขนส่งทางบกยังพบว่าภาคที่มีอัตราการจดทะเบียนมากที่สุดคือภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ร้อยละ 30 และ 24 ตามลำดับ ส่วนที่เหลือกระจายตัวอยู่ในภาคอื่นๆ เช่นกัน
พร้อมระบุว่าตลอดระยะเวลา 24 ปีของการให้บริการในประเทศไทย ซัมมิทแคปปิตอลได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 790,000 รายทั่วประเทศ ด้วยปริมาณเงินให้สินเชื่อโดยรวมมากกว่า 37,000 ล้านบาท และในปี 2562 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ซัมมิทแคปปิตอล จะครบ 25 ปีของการให้บริการ โดยได้เตรียมรุกตลาดด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่การทุ่มพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมระบบการติดตามทวงหนี้ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และเตรียมรุกตลาดด้วยความพร้อมของระบบในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย อาทิ ระบบการแจ้งเตือนลูกค้าผ่านสมาร์ทโฟน หรือ อีเมล์ เป็นต้นโดยในปี 2561 ซัมมิทแคปปิตอลได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย และตอบโจทย์การให้บริการในยุคดิจิทัล 4.0 ทั้งการรับสมัครสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยนต์ผ่าน
โมบายแอพพลิเคชั่น การคัดกรองคุณภาพลูกค้าด้วยระบบ credit scoring ให้มีความแม่นยำในการประมวลผลและวิเคราะห์คุณภาพของลูกค้า
โดยสามารถอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เบื้องต้นให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที การขยายพันธมิตรคู่ค้า โดยการรุกสร้างความสัมพันธ์กับดีลเลอร์จำหน่ายรถจักรยานยนต์ แบบยั่งยืน เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้ครอบคลุมทุกจังหวัด จากปีที่แล้วมีคู่ค้า 800 ราย หรือ 2,500 โชว์รูม ปัจจุบันมีคู่ค้ามากกว่า 900 ราย หรือ 2,800 โชว์รูมทั่วประเทศ หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 15 และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนคู่ค้าอีกร้อยละ 10 ในปีหน้าการยกระดับบุคลากรเพื่อให้มีจำนวนเจ้าหน้าที่เพียงพอในการให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่กว่า 1,400 คนทั่วประเทศด้วยหลักสูตรอบรมเพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพและพร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล4.0 อีกทั้งมีแผนเพิ่มพนักงานอีกร้อยละ 9 ในปี 2562 และเพิ่มการฝึกอบรมผ่านระบบออนไลน์
และห้องเรียนอิเล็คทรอนิกส์เพื่อให้เข้าถึงพนักงานในทุกพื้นที่ในประเทศไทย และช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง
นอกจากนั้น ซัมมิทแคปปิตอล ได้มีการวางเป้าหมายองค์กรเพิ่มเติมจากการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ยังมุ่งเน้นการดำเนินงานตามหลัก ธรรมาภิบาล เพื่อก้าวสู่องค์กรคุณธรรมที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดในประเทศไทย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมุ่งมั่นในการเป็น “ผู้ให้” และ “เอาใจใส่” ต่อความสุข ความปลอดภัยของสังคม ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมที่หลากหลาย โดยในปี 2561 ได้ร่วมสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ กับทางโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ และริเริ่มโครงการ “กลับบ้านปลอดภัย” เพื่อสร้างความตระหนักรู้และใส่ใจกับความปลอดภัยในการใช้และขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน เป็นต้นและตั้งใจที่จะสานต่อโครงการ“กลับบ้านปลอดภัย” ต่อไปเพื่อย้ำเตือนให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการเดินทาง มีความรับผิดชอบต่อการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน
ทั้งนี้ซัมมิทแคปปิตอลยังใส่ใจในความต้องการของลูกค้าควบคู่กับคุณภาพการให้บริการ โดยจัดหน่วยงานทำหน้าที่จัดการข้อร้องเรียนของลูกค้า มีการตรวจสอบและสรุปผลภายใน 7 วันนับจากวันที่ได้รับเรื่อง โดยขณะนี้พบว่ามีเพียงร้อยละ0.29ของลูกค้าทั้งหมดที่มีการร้องเรียน และตั้งเป้าลดสัดส่วนการร้องเรียนให้เหลือน้อยที่สุด โดยลูกค้าสามารถส่งข้อติชมและข้อเสนอแนะในการรับบริการของซัมมิทแคปปิตอลได้ทาง ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์โทร.02 107 2222ในวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 – 17.30 น. เว็บไซต์www.summitcapital.co.th หรือ เฟซบุ๊ก@summitcapital.official อีกด้วย
*******************
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น