บริษัท เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ ที่รู้จักกันดีในชื่อของ MTI สถาบันเครื่องสำอางชั้นนำของคนไทยโดยคนไทย วันนี้ฉลองครบรอบ 36 ปีแล้ว ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ผ่านร้อนผ่านหนาว กับชีวิตที่มีความรักเป็นแรงบันดาลใจ และความใฝ่รู้เป็นเครื่องนำทางไปสู่ความสำเร็จ พิสูจน์ได้จากผลงานรังสรรค์มากมายอันเป็นที่ประจักษ์และยอมรับของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสัญชาติไทย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรด้านการแต่งหน้าที่เปี่ยมล้นด้วยคุณภาพ มาตรฐานระดับสากล
ล่าสุด MTI ได้สร้างสรรค์ผลงาน เพื่อต้อนรับในการก้าวสู่ 3 รอบ 36 ปี ด้วยการจัดแคตตาล็อกใหม่ ในธีม “MAGIC OF MAKEUP” โดยได้นักแสดงและพิธีกรสาวผู้มากฝีมือ “จอย-ริณลนี ศรีเพ็ญ” นำทีมนางแบบชั้นนำดีกรีไม่ธรรมดาทั้ง พอลลี่-ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ รองอันดับสองมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2014,เม-นิศาชล ต้วมสูงเนิน นางเอกช่อง 3,นัน-นันทวัน วรรณจุฑา รองอันดับ 1 มิสซูปราเนชั่นแนล 2012 และ กุ้ง-ปภัสรินทร์ ศรีปริยวัฒน์ มิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ 2013 แปลงโฉมหลากสไตล์หลายบุคลิกเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะ จอย รินลณี ที่ยอมแปลงโฉมเป็นสาวผิวสีครั้งแรก ซึ่งมี อ.ขวด-มนตรี วัดละเอียด เมคอัพอาร์ทิสต์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ในฐานะครูใหญ่โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI เป็นผู้ดูแลโปรเจ็คท์สุดฮือฮา
อ.ขวด-มนตรี วัดละเอียด เปิดเผยว่า คอนเซ็ปต์การแต่งหน้าเพื่อจัดทำแคตตาล็อกเล่มใหม่ของ ปี 2018 นี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำว่า “เมจิก (MAGIC)” หรือ “เวทมนตร์” ซึ่งเป็นโลกแห่งจินตนาการที่สามารถเนรมิตอะไรก็ได้ดั่งใจปรารถนา ซึ่งมีผู้กล่าวไว้ว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ความรู้มีข้อจำกัด แต่จินตนาการสามารถแผ่ขยายไปได้ทั่วโลก และจินตนาการนี่แหละทำให้คนเราสามารถก้าวพ้นกรอบความรู้เดิมที่เคยพันธนาการคนเราเอาไว้ จนค้นพบความรู้ใหม่งานใหม่ ๆ จึงนำแรงบันดาลใจนี้มาต่อยอดงาน นับว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถเป็นอย่างมาก ทีมงานและนางแบบเราทำด้วยความสนุกมีความสุขกับการทำงาน แล้วเราจะได้ในสิ่งที่เราต้องการ
ทั้งนี้เราดีไซน์หน้าของนางแบบแต่ละคนออกเป็นสาว 5 ชาติ ทั้ง อินเดีย ฝรั่ง แอฟริกา จีน และ ลาติน แล้วแต่ละชาติก็แยกออกไปอีกคนละ 3 สไตล์ตามเซ็ตเครื่องสำอางของเรา นอกจากนี้เรามีกลุ่มนางแบบสาวประเภทสองที่ร่วมงานจนรู้ใจกัน ชีต้าร์ มายัน มิสเอซีดีซี 2001,ไวท์-ไข่มุก กลิ่นดอกไม้ รองมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2002,โกโก้-กกกร เบญจาธิกุล (โก้ สตรีเหล็ก),ส้มโอ-ยลรตี โคมกลอง มิสคาลิปโซ่ 1998 และ แชมเปญ-กมลรส ทูลภิรมย์ มิสเอซีดีซี 2013 และ มิสควีน ออฟ ดิ ยูนิเวิร์ส 2016 ซึ่งแต่กันคนละ 5 สไตล์ ตามหลักสูตรการแต่งหน้าของโรงเรียนฯ ทั้งแบบเนเชอรัล แบบเจ้าสาว แบบสูงวัยในแบบฉบับแต่ละคน แบบแดร็กควีน และ แบบผู้ชาย ที่มีการใช้เทคนิคหล่อบล็อคหน้าเข้ามาช่วย
เป็นการเปรียบเทียบกันให้เห็นถึงความแตกต่างและหลากหลายที่อยู่ในคน ๆ เดียว ซึ่งเป็นการบอกผ่านเครื่องสำอาง MTI ว่า เครื่องสำอาง MTI ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงเราสวยแค่ในสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง แต่สามารถทำให้สวยและเป็นไปได้ตามที่ต้องการราวกับมีเวทมนตร์ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณย่อมสามารถเป็นคุณในแบบที่ดีกว่าเดิมได้ดีเสมอ ขอเพียงคุณกล้าและยอมรับที่จะสร้างความแปลกและแตกต่างให้กับตัวเอง
“เดี๋ยวนี้การเรียนรู้เรื่องการแต่งหน้า เราสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ก็ด้วยเพราะโลกยุคไอทีที่เราจะสามารถเรียนรู้ผ่านจากโซเชี่ยลมิเดีย โดยเฉพาะทางยูทูป ที่มีคนสอนและรีวิวการแต่งหน้า ถึงกระนั้นยังก็ยังไม่เท่ากับการเรียนจากช่างแต่งหน้าโดยตรง เพราะเวลาเราสงสัยเราสามารถถามเลย แต่เรียนกับยูทูปเป็นการสื่อสารทางเดียว หากสงสัยก็ไม่สามารถสอบถามได้ อย่างโรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า เอ็มทีไอ เรามีหลักสูตรมากมายที่ตอบโจทย์ผู้สนใจเรียนได้ทุกคน ไม่จำกัดเพศและวัยด้วย บางคนเป็นตำรวจและเป็นช่างซ่อมรถก็มาเรียน อายุ 12 ปีก็มาเรียน 30 กว่าปีที่ผ่านมาเราผลิตบุคลากรด้านช่างแต่งหน้าที่มีคุณภาพนับไม่ถ้วน ซึ่งเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของเรา”
อ.ขวด กล่าวด้วยว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไปรวดเร็วและเปลี่ยนไปทุกวัน เอ็มทีไอได้พยายามก้าวให้ทันตามยุค บางครั้งล้ำยุคเสียด้วยซ้ำ อย่างกรณีเครื่องสำอางที่ใช้กับการถ่ายทำด้วยกล้อง HD เราก็คิดค้นออกมาก่อนที่จะกล้อง HD จะเป็นนิยมเสียอีก MTI หรือแม้แต่ตัว อ.ขวดเอง ไม่เคยจะคิดแข่งขันกับใคร แต่เน้นแข่งขันกับตัวและใจของเราเอง เพราะวิถีการดำเนินธุรกิจและชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน แต่สุดท้ายคือการต่อสู้ฟันผ่าที่ไม่แตกต่างกันเลย การที่เราแข่งขันหรือเปรียบเทียบกับตัวเอง เช่น เดือนที่แล้วกับเดือนนี้เป็นอย่างไร ปีโน้นกับปีนี้เป็นอย่างไร จะทำให้เราเกิดมุมมองใหม่ๆ แผนใหม่ ๆ ธุรกิจหรือชีวิตจะก้าวเข้าไปใกล้เส้นชัยหรือเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
พร้อมระบุว่า 36 ปี ของเอ็มทีไอ เราฝันที่จะก้าวออกมานอกบ้านให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพะในระดับสากล ที่ขณะนี้ช่างแต่งหน้าของเราก็ได้ทำงานโกอินเตอร์กันหลายคน แล้วเคยคิดเหมือนกันว่า ทำไมเราต้องให้ประเทศอื่นหรือแฟชั่นที่อื่นมากำหนดเทรนด์การแต่งหน้าว่า ปีนั้น ปีนี้ ปีหน้า สีสันจะเป็นอย่างไร ย้อนยุค ล้ำยุค วันหนึ่งบ้านเราคือประเทศไทยจะต้องเป็นผู้กำหนดเทรนด์การแต่งหน้า อย่างน้อยก็ในระดับเอเซียก็ยังดี เอ็มทีไอยังคงก้าวไปเรื่อย ๆ พร้อมกับการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เหมือนกับคำคมของ ดร.เทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้งและผู้วางรากฐานกิจการในเครือสหพัฒน์ที่กล่าวไว้ว่า “เพียงเมื่อท่านหยุดก้าว ท่านก็เริ่มถอยหลังแล้ว” หากใครสนใจเรื่องการแต่งหน้าสามารถสอบถามได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างไร โทร.0-2693-2480 ต่อ 131 และ 132
******************
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น