จากกรณีไกด์จีนระเบิดอารมณ์ข่มขี่นักท่องเที่ยวชาวจีนไล่ให้ลงจากรถอย่างป่าเถื่อน เหตุไม่พอใจลูกทัวร์ซื้อสินค้าหมอนยางพาราน้อยไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้กับร้านค้า ปรากฏเป็นข่าวดังกระหึ่ม ทั้งทางสื่อโซเชียลและสื่อมวลชนที่ประเทศจีนโดยเฉพาะที่เผยแพร่ทาง “เพจอ้ายจง”เวปเพจชื่อดังมีคนเข้าไปดูหลายล้านคนจุดกระแสชาวจีนผิดหวังเสียความรู้สึกต่อการมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นวงกว้าง บางรายถึงขั้นไม่ขอกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกอย่างเด็ดขาด อาจสร้างความเสียหายเสียชื่อเสียงให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างมหาศาลแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 พ.ค.61 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบช.ทท หรือ ”บิ๊กโจ๊ก”ได้นำตัวนายลี่ ไห่ (LI HAI) หรือฉายา “ผีอาไห่” อายุ 21 ปี แถลงข่าว พร้อม เปิดเผยว่า นายลี่ไห่ เป็นไกด์เถื่อนสัญชาติจีน ที่พากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 10 คน เดินทางมาเที่ยวไทยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.61 โดยมีบริษัท TYT (ไถ่หวันเถิง) จำกัด เอเย่นต์ทัวร์ในไทยเป็นผู้จัดโปรแกรมทัวร์ดังกล่าวให้ และมีนาย ลี่ไห่ เป็นไกด์นำเที่ยว กรุงเทพฯ ระยอง พัทยา และเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค.61 ขณะนักท่องเที่ยวกลับขึ้นรถหลังจากพาไปซื้อสินค้าหมอนยางพาราในเมืองพัทยา จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นาย ลี่ ไห่ เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน พร้อมขอศาลออกหมายจับนายเจริญพร สุขวิถี กับนาง รัตนา หงส์ทอง กรรมการบริษัท TYT (ไถ่หวันเถิง) จำกัด ในข้อกล่าวหาก่อให้เกิดความเสียหายแกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสไกด์โหดดังกล่าว ยังคงร้อนแรง โดยสื่อมวลชนในประเทศจีนยังคงติดตามเจาะลึกขุดคุ้ยที่มาที่ไปโดยเฉพาะตามเพจท่องเที่ยวและเพจของกลุ่มมัคคุเทศก์ทั้งไทยและจีน ต่างกล่าวไปทำนองเดียวกันว่า นายลี่ไห่ ไม่เกรงกลัวตำรวจโดยเฉพาะในวันแถลงข่าวยังมีภาพปรากฏภายนายลี่ไห่ ยืนประจันหน้าจ้องตา"บิ๊กโจ๊ก"อย่างไม่เกรงกลัวหรือสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เพราะนายลี่ไห ถือดีว่ามีลูกพี่เป็นมาเฟียจีนมีอิทธิพลสูง ทั้งนี้การบังคับลูกทัวร์ซื้อสินค้าราคาสูงซึ่งไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เกิดขึ้นเป็นจนเป็นที่เอื้อมระอาแก่สมาคมมัคคุเทศก์เป็นอย่างมาก
ดังนั้นจึงพากันเรียกร้องให้“บิ๊กโจ๊ก” ขยายผลหรือนำกำลังเข้าตรวจสอบ จะพบว่าหมอนยางพารารวมทั้งสินค้าประเภทอื่นๆที่ซื้อจากร้านค้ากลุ่มนี้เป็นของปลอมของที่ไม่มีคุณภาพและถ้า “บิ๊กโจ๊ก”ติดตามขยายผลจะพบว่า กลุ่มร้านค้าที่ว่านี้เป็นของชาวจีน 100 เปอร์เซนต์เจ้าของคือ “ตู้ห่าว”เปลี่ยนสัญชาติเป็นไทยเพราะแต่งงานกับนายตำรวจหญิงระดับผู้กำกับการมีศักดิ์เป็นหลาน อดีต ผบ.ตร.และหลานสะใภ้ของ รอง.ผบ.ตร.คนหนึ่งใน สตช.มีการกู้ยืมเงิน 1,000 ล้านหยวนหรือ 5,000ล้านบาท จากนายทุนน้ำมันเถื่อนที่เมืองฝูเจิ้ง มณฑลแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นอดีตลูกพี่ของ “ตู้ห่าว”มาลงทุนสร้างร้านค้าหรูหราใหญ่โตและให้บริการเช่ารถรูปแบบเดียวกับกลุ่มโอเอ, สยามเจมส์,เจมส์แกลลอรี่ ,กลุ่มวังถลางหรือต้าลี่เก่า และกลุ่มแอ๊ปเปิ้ล กลุ่มไกด์จีน ที่รวมตัวกันเปิดร้านค้าเองที่กำลังโด่งดังที่จังหวัดภูเก็ต
นอกจากนี้ “ตู้ห่าว”ยังหลบหนีหมายจับจากแต้จิ๋วจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบ้านลูกหนี้น้ำมันเถื่อนที่เฝืองฝูเจี้ยน เข้ม ...แฝงเป็นไกด์เถื่อนในประเทศไทยไทยร่วม 10 ปี จนเห็นช่องทางที่จะทำเงินมหาศาลได้ จึงติดต่อลูกพี่เก่าขอยืมเงินมาลงทุนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่น่าสนใจในเพจของกลุ่มมัคคุเทศก์พากันคอมเม้นท์ทำนองว่า“ลี่ ไห่” คนนี้ไม่ธรรมดาวงการไกด์เรียกว่า “ผีอาไห่” เพราะความโหดร้าย ก้าวร้าว นักเลงโต จนคนในวงการไกด์เบื่อหน่าย ระอาใจ ไม่มีใครอยากมายุ่งเกี่ยวด้วย ชอบคุยโวโอ้อวดว่าไม่กลัวตำรวจ เพราะลูกพี่ของตัวเองจ่ายตำรวจทุกเดือน ลูกพี่ตัวเองเลี้ยงตำรวจ ลูกพี่เป็นญาติกับผบ.ตร.อยู่เมืองไทย จะทำอะไรก็ได้
ด้วยเหตุนี้ “บิ๊กโจ๊ก”อาจตัดตอนไม่ขยายผลลงไปถึงร้านค้าของ “ตู้ห่าว”เพราะเกรงบารมีอดีต ผบ.ตร และอดีตรัฐมนตรีพรรคการเมืองหนึ่ง ที่สำคัญบรรดามัคคุเทศก์ ต่างเชื่อว่าร้านค้ากลุ่มของมาเฟีย“ตู้ห่าว”เข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจรแน่นอน เพราะมีการออกเป็นเอกสารเป็นคำสั่งมีลายเซ็น "ตู้ห่าว" วางเป็นกฏข้อบังคับไกด์ทุกคนในสังกัดให้บังคับซื้อสินค้า ถ้าทำเป้าได้จะมีค่าตอบแทนที่สูงกว่ากลุ่มอื่น แต่หากไกด์คนใดกระด้างกระเดื่องพานักท่องเที่ยวไปจับจ่ายใช้สอยกับร้านค้านอกสังกัด จะกลั่นแกล้งให้ตำรวจจับเพราะไกด์ในสังกัด“ตู้ห่าว” เกือบทั้งหมดเป็นไกด์เถื่อนชาวจีนไม่มีใบอนุญาต
นอกจากนี้ในเพจยังมีการลงรูปบัตรสีเหลืองที่ระบุว่าเป็นบัตรเมมเบอร์ประจำตัวไกด์ที่ออกให้โดยร้านค้าที่สังกัดอยู่ เพื่อแสดงถึงการนำลูกทัวร์เข้ามาซื้อสินค้าในกลุ่มบริษัทนั้นๆและเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันยอดเงินค่าน้ำหรือค่าคอมมิชชั่นของไกด์แต่ละคน บัตรดังกล่าวสีเหลืองคล้ายบัตรเครดิตมีรูปถ่าย "ผีอาไห่" มีตัวอักษรภาษาอังกฤษระบุชื่อ "A hai" No:MH090 มีโลโก้เป็นอักษร M อยู่กลางช่อมะกอก ด้านบนเป็นรูปมงกุฏ เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “Modern Gams International” จึงไม่น่ายากที่บิ๊กโจ๊กจะขยายผลไปให้ถึงกลุ่มร้านค้าต้นเหตุ
ขณะที่นายสุวิทย์ บุตรพริ้ง ได้เปิดประเด็นร้อนดังกล่าวในเพจดัง “สืบจากข่าว”ว่า จริงๆแล้วเรื่องนี้ต้องปรบมือให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก”ของเราเพราะสามารถติดตามจับกุมนายลี่ไห่ หรือ “ผีอาไห่” ไกด์เถื่อนรายนี้ได้อย่างรวดเร็ว ตนไม่เชื่อว่านายตำรวจหนุ่มอนาคต ผบ.ตร.คนนี้จะยอมอยู่ใต้อิทธิพลของ“ตู้ห่าว” ถึงจะมีศักดิ์เป็นหลานเขยของอดีต ผบ.ตร.ก็ตามถ้าดูจากความมุ่งมั่นที่ "บิ๊กโจ๊ก"ประกาศมาตลอดที่จะกวาดล้างขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญให้หมดไปจากแผ่นดิน เชื่อว่า "บิ๊กโจ๊ก"ไม่เอาผลงานที่สะสมมาแลกกับการปกป้องมาเฟียกลุ่มนี้ เชื่อมั่นว่ามาเฟียจีนแค่นี้ไม่เป็นอุปสรรคทำให้"บิ๊กโจ๊ก"ของเรายอมรามือง่ายๆ
นายสุวิทย์ กล่าวว่า พฤติกรรมของไกด์เถื่อนรายนี้ ต้องใช้คำว่า ถ่อยสถุน ต่ำตมมากสร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างมหาศาล ตนคิดว่าหนักกว่า ครั้งที่"บิ๊กโจ๊ก"ขยายผลจากการจับกุมบริษัททัวร์ฝูอันและซินหยวน จนนำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรโอเอ ครั้งนั้น"บิ๊กโจ๊ก"ขยายผลจากการเดินตามเอกสารเช่ารถของบริษัทโอเอทรานสปอร์ต ทำให้เชื่อว่าเป็นเครือข่ายอั้งยี่ซ่องโจรแม้ศาลยกฟ้องไปแล้วก็ตาม หรือเมื่อครั้งเรื่องเด็กสาวในชุดไทยฝืนยิ้มถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวจีน จนเกิดกระแสโซเชียลจีนทำคลิปออกมาล้อเลียนพฤติกรรมไม่จริงใจของบุคลากรแวดวงท่องเที่ยว เหตุการณ์ทั้งสองครั้งที่ตนพูดถึงยังไม่ถือว่าร้ายแรงหรือสร้างความเสียหายให้วงการท่องเที่ยวเท่าครั้งนี้เทียบกันไม่ติดจริงๆพฤติกรรมของ “ผีอาไห่”ชัดเจนมากว่ามีการทำกันเป็นขบวนการเหมือนมาเฟีย มีการออกเอกสารเป็นคำสั่งมีลายเซ็นหัวหน้าแก๊งค์บีบบังคับนักท่องเที่ยวให้ซื้อสินค้ามีการข่มขู่ คุกคาม "แก๊งนี้ปล่อยไว้ไม่ได้อย่างเด็ดขาดครับ"สื่อน้ำดีกล่าวปิดท้าย
************************
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น