ทนายตั้ง3ข้อสงสัย “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” แถลงจับคนจีนสวมบัตรปชช. ถามนำผู้ต้องหาส่งลูกทัวร์ให้โอเอทั้งๆที่ถูกปิดมาแรมปี

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 พ.ย.60  นายอานันต์ แสงศรี ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. และพล.ต.ต.ชัยวัฒน์ฉันทวรลักษณ์ รองผบช.ภ.6 ได้ร่วมกันแถลงผลงานจับกุมน.ส.สิริภัสสร์  มะแนะ อายุ 43 ปี ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นบุคคลต่างด้าวสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทยมาประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยเป็น
กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยตงหม่ง อินเตอร์เนชั่นแนลทราเวล กรุ๊ป (เออีซี) จำกัด โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หรือ "รองโจ๊ก" ย้ำว่าการปราบปรามเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลให้หน่วยงานราชการร่วมบูรณาการกำลังในการปราบปรามกลุ่มบริษัทนำเที่ยวผิดกฎหมายหรือกลุ่มบริษัทนำเที่ยวที่ประกอบการในลักษณะนอมินี รวมถึงกลุ่มบุคคลต่างด้าวสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทย มาประกอบธุรกิจนำเที่ยว ในลักษณะทัวร์ต่ำกว่าทุนหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเสียหาย และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศประกอบกับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดและให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

นายอานันต์ กล่าวต่อไปว่า การแถลงข่าวของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ถ้าดูผ่านๆก็ต้องชื่นชมกับผลงานและการเคร่งครัดในหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล แต่สำหรับตนในฐานะที่ปรึกษาบริษัทโอเอไม่อาจมองด้วยความชื่นชมได้เนื่องจากในระหว่างแถลงผลงานอยู่นั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้ซักถามผู้ต้องหาต่อหน้าสื่อมวลชนและมีการบันทึกเทปและเผยแพร่ในเวลาต่อมาว่า ลูกค้าทัวร์ได้มายังไง ซื้อมาเหรอ นางสิริภัสสร์ ตอบว่าไม่ได้ซื้อ แต่มีรายได้จากการส่งลูกทัวร์หัวละ 300 บาท จากนั้นรองโจ๊ก ถามอีกว่า ได้ลูกค้ามาแล้วส่งให้ใครบ้าง ผู้ต้องหาตอบว่าส่งให้บริษัทฯมีการเอ่ยชื่อบริษัท ส บริษัท จ และบริษัทโอเอ แต่ปรากฏว่าผู้การโจ๊กพูดย้ำๆถึง 3 ครั้งว่า โอเอๆๆพร้อมย้ำคำว่าทัวร์ศูนย์เหรียญ

ทนายอานันต์ ระบุว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตดังนี้  1.เหตุใดผู้การโจ๊ก ถึงต้องย้ำคำว่าโอเอๆๆ ทั้งๆที่ผู้ต้องหาพูดชื่อบริษัทอื่นด้วย แต่ท่านไม่พูด  2.ท่านคงลืมไปแล้วว่าโอเอ ปิดกิจการมาปีกว่าๆแล้วผู้ต้องหารายนี้จะส่งลูกค้าให้โอเอ.ได้อย่างไร? แบบนี้ชี้นำหรือตอกย้ำต่อสื่อมวลชนเพื่ออะไร?มีวัตถุประสงค์อะไร? และข้อ 3.ในเมื่อผู้ต้องหาซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยตงหม่ง อินเตอร์เนชั่นแนลทราเวล กรุ๊ป (เออีซี) จำกัดให้การซัดทอดโดยการเอ่ยชื่อ 2 บริษัทฯที่ส่งลูกค้าให้ ซึ่งก็เหมือนกรณีบริษัทฝูอัน และบริษัทซินหยวน บริษัททัวร์ที่เจ้าของสวมบัตรประชาชนแล้วมาเช่ารถของโอเอ.ท่านได้ขยายผลก่อนเข้าตรวจค้นจับกุมแจ้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรต่อกลุ่มบริษัทโอเอ.แล้ว ในครั้งนี้รูปคดีมีที่มาที่ไปเหมือนกัน

"หากท่านไม่ขยายผลตรวจค้นจับกุมตามคำซัดทอดของผู้ต้องหา ผมต้องขอถามว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามาตรา 157 หรือไม่ เลือกปฏิบัติหรือไม่  หากท่านมีความตั้งใจปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญตามนโยบายที่ท่านชอบพูดออกสื่ออยู่บ่อยๆจริงท่านต้องจับกุมทุกรายไม่มียกเว้น โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นของมาเฟียจีนกับภรรยาหลานอดีตนายตำรวจใหญ่ที่กำลังมีข่าวจ้างวาน
คดีเผาสวนงูที่จังหวัดภูเก็ต”นายอานันต์ กล่าวในตอนท้าย

********************

Posted in: โจ๊ก หวานเจี๊ยบ&บ.โอเอ