แพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ |
ปัจจุบันสายด่วนสุขภาพจิต 1323 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มีการพัฒนาคุณภาพผู้ให้บริการ และรูปแบบการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต แก่ประชาชน ในหลายระดับมากขึ้น เน้นการเข้าถึง และบรรเทาปัญหาคลายทุกข์ ของประชาชนอย่างใกล้ชิด ในหลายช่องทาง แก่ประชาชนทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ สามารถปรึกษาปัญหา สายด่วนสุขภาพจิตได้ตลอด 24 ชม. ทางสายด่วน หมายเลข 1323
แพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันสายด่วนสุขภาพจิต 1323 มีการพัฒนาการให้บริการแก่ประชาชนหลายระดับมาขึ้น เนื่องจาก แต่เดิม สายด่วนสุขภาพจิต 1323 จะเน้น ทำเรื่อง คนไข้ขั้นวิกฤต (Crisis Telephone Consultees) คือคนไข้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตขั้นวิกฤต ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น กรณี ฆ่าตัวตาย ที่มีมาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว เดิมทีลักษณะของการใช้สายด่วนสุขภาพจิต 1323 จะกระจาย อยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช ทุกแห่ง ตามภูมิภาคต่างๆ 18 แห่ง โดยจะเชื่อมลิงค์ กับห้องฉุกเฉิน พอดำเนินการต่อมาเรื่อยๆ คุณภาพของผู้ให้บริการสายด่วน 1323 เริ่มมีลักษณะwork load เพราะเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการสายด่วน 1323 ต้องทำหน้าที่อื่นด้วย ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิต เลยมีดำริว่า ให้รวมศูนย์ คือที่ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ศูนย์ก็เลยรวมกันที่นี่ได้มา 2 ปี
ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวด้วยว่า ได้มีการขยายเป้าหมายจากคนที่มีปัญหาสุขภาพจิต ภาวะวิกฤต เป็นด้านอื่นๆด้วย โดยเฉพาะปัญหาเด็กและวัยรุ่นเองที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพจิต ซึ่งไม่จำเป็นต้องเจ็บป่วยด้านสุขภาพจิต อาจแค่มีปัญหาต่างๆ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ได้ ก็สามารถใช้โทรศัพท์เข้ามา ทั้งนี้ได้มีการเพิ่มช่องด้าน Facebook และ social media Line เพื่อให้วัยรุ่นเข้าถึงได้มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ รวมถึงผู้ปกครองเองด้วยในการที่จะสื่อสารกับวัยรุ่น รวมทั้งผู้คนในวัยทำงาน หรือวัยอื่นๆ ที่มีปัญหาความเครียด ก็สามารถโทรศัพท์ เข้ามาปรึกษา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้
ทั้งนี้ปัญหาส่วนใหญ่ ที่โทรเข้ามาปรึกษาจะแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 จะเป็นปัญหาเรื่องความเครียดทั่วๆไป เช่น บางคนดำเนินชีวิตไปตามปกติในชีวิตประจำวัน และเกิดความเครียดขึ้นมา เช่นวัยทำงานมีความเครียดเรื่อง การปรับตัว ขณะที่ วัยเรียน จะเจอ ช่วงเปิดเทอมใหม่ ต้องเปลี่ยนแปลงปรับตัว หรือเด็กที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็จะเกิดความเครียด หรือเด็กมหาวิทยาลัยที่เรียนจบใหม่ๆ แล้วต้องไปทำงาน ตรงนี้จะมีความเครียดเรื่องการปรับตัว
ส่วนประเภทที่ 2 ปัญหาคนไข้จิตเวชเดิม ก็จะโทรศัพท์เข้ามาปรึกษาว่าทำอย่างไรดี เช่นทานยาไปแล้วมีผลกระทบ มีผลข้างเคียง ก็จะโทรศัพท์มาปรึกษาว่าจะทำเช่นไร หรือเริ่มเห็นคนอื่นป่วยด้านสุขภาพจิต เหมือนที่ตนเองเคยป่วย ก็จะโทรศัพท์มาปรึกษากับทางสวยด่วนว่าควรทำอย่างไร ทางเราก็จะส่งต่อคนไข้ไปยัง โรงพยาบาลจิตเวช
ประเภทที่ 3 คือ ปัญหาเรื่องของผู้หญิงผู้หญิง วัยรุ่นทั้งหลาย ในเรื่อง ความรัก อกหัก รักคุต และปัญหาประเภทที่ 4 คือ ปัญหาสารเสพติด การติดพนันต่างๆนานาๆ ตรงนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญ ในการช่วยให้เขาพ้นวิกฤตตรงนี้ได้
สำหรับในอนาคต สายด่วนสุขภาพจิต 1323 จะมีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาในอนาคต หลายด้าน คือเดิมที่เป็นเรื่องวิกฤตสุขภาพจิต ซึ่งปัจจุบัน มีปัญหาผู้ป่วยในเรื่องความเครียดทั่วไป
"เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เราจะมีการปรับเรื่องของการ ช่วยเหลือผู้ป่วย หรือผู้ที่โทรเข้ามาปรึกษา ด้วยเทคนิคการผ่อนคลายความเครียดให้มากขึ้น รวมถึง จะมีการให้บริการที่เข้าถึงคนธรรมดาทั่วไปมากขึ้น และเพิ่มการใช้ Chat ผ่านสื่อ social media Facebook และ Line โดยเราจะเปิด Facebook ในช่วงเวลา Prime time ช่วงที่คนใช้บริการอินเตอร์เน็ตมากสุด หลังจากว่างงานแล้ว คือ เวลา 17.00 - 22.00 น. รวมถึงคนต่างประเทศสามารถสื่อสารเข้ามาโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย อันนี้ถือเป็นเรื่องเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 ได้"
แพทย์หญิงมธุรดา กล่าวด้วยว่า การปรึกษาปัญหาความเครียดไม่ใช่เรื่องน่าอาย หรือไม่ต้องอายหากว่า เข้าข่ายเริ่มเครียดจนไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อาจต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์จิตเวช ทั้งนี้ทางกรมฯเองก็จะมีการพัฒนาศักยภาพ บุคลากรตลอด รวมถึงตอนนี้ เป็นช่วงที่ประชาชนคนไทยอยู่ในช่วงความเศร้าโศกที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต
"เราได้มีการ Monitor เรื่องความโศกเศร้า เราจึงพยายามเปลี่ยนความโศกเศร้าให้เป็นพลัง ด้วยการจัดกิจกรรมลงสู่ชุมชนมากขึ้น เพื่อจะพยายามชักชวนประชาชนร่วมแสดงออก ซึ่งการถวายความอาลัย ในเชิงสร้างสรรค์"
นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาการส่งต่อคนไข้ โดยมีทีมวิกฤตสุขภาพจิต อยู่ทุกโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ กว่า 300 แห่ง เช่นหากมีคนไข้วิกฤตสุขภาพจิต เช่น ฆ่าตัวตาย คุ้มคลั่ง รุนแรง จะมีการประสานส่งต่อ
ส่วนผู้ที่มีปัญหาอยากใช้สายด่วนสุขภาพจิต แต่ไม่กล้าโทรเข้า ก็อยากจะบอกว่า ไม่ต้องอายที่จะโทรเข้ามาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพราะมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องสุขภาพจิตในการให้คำปรึกษา ที่ใช้มาตรฐานเดียวกันกับผู้ป่วยโรงพยาบาลจิตเวชและผู้ป่วยทุกแห่งของกระทรวงสาธารณสุข
"ดังนั้นเมื่อคุณมีทุกข์ ยกหู 1323 เป็นเลข 4 หลัก ที่บริการฟรี ทุกปัญหามีทางออก เวลาคุณมีความทุกข์ ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา และเมื่อคุณคลายทุกข์ คุณสามารถวางโทรศัพท์ได้ ซึ่งเรามีสโลแกน กรมสุขภาพจิต คือ “โทรหาเราเมื่อมีความทุกข์ และวางหูเราเมื่อมีความสุข”
สำหรับท่านใดที่ต้องการปรึกษาทุกปัญหาที่เครียดอยู่ไม่ทราบจะหาทางออกอย่างไร จนเกิดความทุกข์ใจไม่สบายใจ กังวลใจ สามารถ ติดต่อสื่อสาร มาได้ที่หมายเลข สายด่วนสุขภาพจิต 1323 และทาง Facebook www.facebook.com/helpline1323
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น