pearleus

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน ครั้งที่ 1/2559


          วันนี้ (7ธ.ค.59) เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุม ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน ครั้งที่ 1/2559 เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และพิจารณากระบวนการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ราชพัสดุ (กรมธนารักษ์) 
          สำหรับการประชุมในวันนี้สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรและผู้ที่ยากจน และแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนโดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้อยู่อาศัยทำกินในที่ดินของรัฐในรูปแบบสหกรณ์หรือรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสม โดยได้แต่งตั้ง “คณะอนุกรรมการจัดที่ดิน” ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ทำหน้าที่สำรวจ ตรวจสอบ และจัดทำข้อมูลผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย กำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และการคัดเลือกบุคคลให้เข้าอยู่อาศัยทำกินในที่ดินของรัฐ โดยดำเนินการร่วมกับคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง
          โดยในวาระแรกฝ่ายเลขาที่ประชุมได้รายงานผลการจัดที่ดินให้ชุมชนของรัฐบาล (คทช.) ตั้งแต่ ปี 2558 - 2559 รวมทั้งสิ้น 10,113 ราย 12,544 แปลง เนื้อที่ประมาณ 96,310 ไร่ และในปี 2560 ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายรวม 44 พื้นที่ 30 จังหวัด แยกเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ราชพัสดุ และที่สาธารณประโยชน์ 
          จากนั้นที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางการดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่ราชพัสดุ ตามที่กรมธนารักษ์เสนอ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน แบ่งเป็น รูปแบบ คือ 1. การจัดระบบในพื้นที่แปลงว่างเพื่อนำที่ดินมาใช้ประโยชน์ และ 2. การจัดระเบียบด้วยการนำที่ดินราชพัสดุที่มีผู้ใช้ประโยชน์มาจัดระเบียบ โดยประเภทของผู้ที่จะได้รับการจัดที่ดิน คือ 1. ผู้ที่ถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นที่ป่าต้นน้ำและป่าอนุรักษ์ที่สำคัญ 2. ผู้บุกรุก        ที่ราชพัสดุซึ่งอยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับการจัดที่ดินตามกฎหมายที่ราชพัสดุ 3. ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโครงการของทางราชการที่สูญเสียที่ดินทำกิน และ 4. ผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีไม่พอต่อการครองชีพมีถิ่นที่อยู่ในท้องที่ที่จะจัดที่ดิน ภายใต้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อกำหนดตามระเบียบกฎหมายที่ราชพัสดุ และข้อกำหนดที่ คทช.กำหนด โดยกรมธนารักษ์จะมีการคัดเลือกที่ราชพัสดุที่เหมาะสมเสนอต่อคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินเพื่อกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการต่อไป
          สุดท้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ขอให้หน่วยงานเจ้าของพื้นที่และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของ คทช. โดยให้ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้การบริหารจัดการที่ดินของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สมดุล เป็นธรรม ยั่งยืน และสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ยากไร้ให้มีที่อยู่อาศัยและมีที่ทำกินอย่างพอเพียง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น