เมื่อ
12 มี.ค.
59 นายกฤษฎา บุญราช
ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย
โดยกรมการปกครองได้ดำเนินงานตามโครงการกำหนดสถานะให้แก่บุคคลไร้สัญชาติ ประจำปี 2558
เพื่อแก้ไขปัญหานักเรียนและนักศึกษาทั่วไป
รวมทั้งนักเรียนนักศึกษาที่อยู่ระหว่างได้รับพระราชทานทุนการศึกษาได้มีสัญชาติหรือสถานะบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประมวลผลข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์ของบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย
เพื่อแยกบัญชีรายชื่อเด็กนักเรียนไร้สัญชาติที่มีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์
ให้จังหวัดแจ้งสำนักทะเบียนทุกแห่งในเขตพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อกำหนดสถานะให้แก่บุคคลเป้าหมายตามคุณสมบัติที่กฎหมายกำหนด
กระทรวงมหาดไทยจึงขอเรียนให้ทราบถึงผลการดำเนินงานโครงการกำหนดสถานะให้แก่บุคคลไร้สัญชาติ
ที่ดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 ซึ่งมีจำนวนนักเรียนและนักศึกษาทั่วประเทศที่ยังไม่มีสัญชาติไทยหรือสถานะบุคคล
จำนวน 69,670 ราย
(นักเรียน/นักศึกษาที่ได้รับพระราชทานทุนการศึกษาและนักเรียน/นักศึกษาทั่วไป)
ได้ตรวจสอบคุณสมบัติทางทะเบียนราษฎร์แล้ว
จำนวน 45,250 ราย
ปรากฏว่านักเรียน/นักศึกษาดังกล่าวเป็นผู้มีคุณสมบัติได้รับสัญชาติไทย จำนวน 19,794
ราย กรมการปกครอง
กระทรวงมหาดไทยจึงได้ส่งรายชื่อดังกล่าวไปให้สำนักทะเบียนอำเภอ/ท้องถิ่น ตรวจสอบ
รายชื่อ และติดต่อบุคคลที่มีอยู่ในพื้นที่อีกครั้งว่ายังอยู่ในพื้นที่หรือไม่
และได้แจ้งนักเรียน/นักศึกษาดังกล่าวมายื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทยต่อเจ้าพนักงาน
ปัจจุบันมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว จำนวน 8,729 ราย
ขณะนี้นายทะเบียนได้อนุมัติเพิ่มชื่อเป็นบุคคลสัญชาติไทยแล้ว จำนวน 5,563 ราย
ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักเรียน/นักศึกษาที่อยู่ในระหว่างรับพระราชทานทุนการศึกษาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่นๆ ด้วย จำนวน 523 ราย โอกาสนี้
จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งให้นักเรียน/นักศึกษาที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวนที่เหลือ
ไปติดต่อสำนักทะเบียนในพื้นที่
เนื่องจากยังมีตัวเลขที่ยังไม่มายื่นคำร้องอีกจำนวนมาก
ขณะเดียวกันจากการดำเนินที่ผ่านมาพบว่ายังมีปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
อาทิเช่น การขาดความเข้าใจในกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้ง
และไม่กล้าที่จะดำเนินการเนื่องจากเกรงว่าจะกระทำผิดขั้นตอน ดังนั้น
เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการฯ เป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีหนังสือแจ้งให้ทุกจังหวัดกำชับและทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
โดยเฉพาะจังหวัดส่วนใหญ่ที่มีกลุ่มเป้าหมายไม่ถึง 1,000 ราย
ควรเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
สำหรับจังหวัดที่มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก เช่น จังหวัดตราด ราชบุรี แม่ฮ่องสอน ตาก
กาญจนบุรี เชียงราย และเชียงใหม่
ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด
และกำชับนายอำเภอ นายทะเบียนอำเภอ
และนายทะเบียนท้องถิ่นที่มีเด็กและเยาวชนไร้สัญชาติอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบให้เอาใจใส่และให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามโครงการฯ
อย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นงานที่กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญ
และต้องเร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่เด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษาเล่าเรียน
ซึ่งเป็นงานที่มีส่วนสนับสนุนงาน ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ที่ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในถิ่นทุรกันดาร
หากอำเภอใดมีปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตรากำลัง ความรู้
ความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ หรือเรื่องอื่นๆ ให้แจ้งขอรับการสนับสนุนมายังกระทรวงมหาดไทยซึ่งพร้อม
จะให้การสนับสนุนแก้ไขปัญหาในทุกๆ ด้าน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า
กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานเรื่องสถานะบุคคลและสัญชาติทั้งในระดับอำเภอและจังหวัดได้ตระหนักถึงบทบาท
อำนาจหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่มีสิทธิในสัญชาติไทยให้ได้รับการรับรองสิทธิความเป็นคนไทยอย่างถูกต้องเหมาะสม
เพื่อให้บุคคลเหล่านี้สามารถเข้าสู่สิทธิในสวัสดิการของรัฐได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกับคนไทยทุกคนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก
และเยาวชนที่กำลังอยู่ในระบบการศึกษาของประเทศที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น