เมื่อ 14 มี.ค. 59 นายชยพล ธิติศักดิ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2557 ถึง 4
มีนาคม 2559 (รวมเวลา 1 ปี 7 เดือน) มีประชาชนเข้ารับบริการผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ
จำนวน 2,601,582 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 2,521,890 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 96.94 จำแนกตามประเภทการให้บริการ
โดยเรียงลำดับจากความต้องการของประชาชนที่มารับบริการ ดังนี้ 1)งานบริการเบ็ดเสร็จ ได้แก่ รับชำระค่าน้ำประปา-ค่าไฟฟ้า ทำบัตรประจำตัวประชาชน คัดสำเนาทะเบียนราษฎร์
ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ SMEs บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน
บริการออกบัตรนายจ้าง และชำระภาษีรถทุกชนิด (กรณีไม่ต้องตรวจสภาพรถ) เป็นต้น จำนวน
1,895,073 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 72.84 2)บริการข้อมูลข่าวสาร จำนวน 368,020 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 14.153)บริการให้คำปรึกษา ได้แก่ คำปรึกษาเกี่ยวกับคดีความ หนี้นอกระบบ ปัญหาครอบครัว การประกอบอาชีพ
การลงทุน SMEs และการประกอบธุรกิจต่างๆ เป็นต้น จำนวน
144,491 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 5.55 4)เรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ จำนวน 120,020 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 4.61 5)บริการรับเรื่องส่งต่อ ได้แก่ จดทะเบียนคนพิการ จัดสวัสดิการผู้สูงอายุ ต่อใบอนุญาตผู้ประกอบการ
อาทิ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง/ร้านเกมส์/คาราโอเกะ
การขออนุญาตใช้ไฟฟ้า/น้ำประปา และโทรศัพท์ เป็นต้น จำนวน 60,016
เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 2.31 6)การให้บริการงานตามนโยบายรัฐบาล (แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ)
จำนวน 8,690 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 0.33 และ 7)ปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 5,272 เรื่อง
คิดเป็นร้อยละ 0.20 โดยมีเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 79,692 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย อาทิเช่น เรื่องร้องเรียนกล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐ ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาข้อพิพาทระหว่างเอกชน ปัญหาหนี้สิน เป็นต้น ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาแล้วทุกเรื่อง
คิดเป็นร้อยละ 0.20 โดยมีเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 79,692 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย อาทิเช่น เรื่องร้องเรียนกล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐ ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาข้อพิพาทระหว่างเอกชน ปัญหาหนี้สิน เป็นต้น ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาแล้วทุกเรื่อง
โดยที่ผ่านมาศูนย์ดำรงธรรมสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้เป็นผลสำเร็จในหลายๆ
เรื่อง อาทิเช่น การแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ
ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ เป็นกรณีประชาชนร้องเรียนขอให้ช่วยเหลือจากการกู้เงินนอกระบบ
และไม่สามารถผ่อนชำระได้ เนื่องจากผู้ร้องประกอบอาชีพค้าขายในตลาดสดมีรายได้น้อย
และต้องรับผิดชอบดูแลครอบครัว ศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้ร่วมกับ
กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ได้เชิญเจ้าหนี้และผู้ร้องมาเจรจาไกล่เกลี่ย
ผลการเจรจาเจ้าหนี้ตกลงยินยอมลดยอดเงินต้น และให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือน โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ย การช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัย ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีผู้ร้องทุกข์ฯ ขอพระราชทานความช่วยเหลือ
เนื่องจากสามีป่วยเป็นมะเร็งและปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินสาธารณะ
ต่อมาถูกขับไล่ให้ออกจากที่ดินดังกล่าวและไม่สามารถหาที่อยู่อาศัยใหม่ได้
ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยได้ประสานแจ้งให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามแนวทางประชารัฐ จนสามารถจัดหาที่ดินราชพัสดุขนาด 85 ตารางวา วัสดุอุปกรณ์ และก่อสร้างได้
โดยกลุ่มช่างภาคตะวันตกได้ช่วยก่อสร้างบ้านให้ผู้ร้องโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ได้ส่งมอบ “บ้านรวมน้ำใจ”
ให้แก่ผู้ร้องฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ได้ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
นำวัสดุอุปกรณ์ที่เหลือจากการก่อสร้างบ้านรวมน้ำใจไปปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้กับบ้านข้างเคียงที่มีสภาพผุพังมีเด็กและคนชราซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาพักอาศัยรวมอยู่ด้วย
ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการสนับสนุนส่งเสริมให้เพื่อนบ้านได้รู้จักช่วยเหลือเอื้ออาทรต่อกัน
และผู้ร้องฯ จะตอบแทนสังคมที่ให้ความช่วยเหลือโดยจะฝึกสอนงานด้านศิลปะให้แก่เยาวชนและผู้ที่สนใจในชุมชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว
ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสกลนคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีบริษัท แฮปปี้ โฮม จำกัด
ร้องเรียนว่า มีบุคคลตั้งแผงลอยจำหน่ายซีดีเพลงและดีวีดีภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งเป็นการกระทำความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ จากการตรวจสอบพบว่าการกระทำความผิดจริง
จึงทำการจับกุมตรวจยึดของกลาง และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โฆษกกระทรวงมหาดไทย
กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประชาชนที่มาใช้บริการของศูนย์ดำรงธรรมได้รับความสะดวก
รวดเร็ว และมีความพึงพอใจและสนใจมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของศูนย์ดำรงธรรมในทุกระดับ
เน้นการปฏิบัติงานในเชิงรุกร่วมกับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัด
และภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งมีการพัฒนาบุคลากร
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนของศูนย์ดำรงธรรมให้ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน โดยในช่วงระหว่างวันที่ 24 ก.พ. - 23 มี.ค.59 ได้จัดให้มีการอบรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะให้กับผู้ปฏิบัติงาน
จำนวน 1,000 คน ผ่านโครงการ “อบรมพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถและจริยธรรมสำหรับผู้ปฏิบัติงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรม” จำนวน 4 รุ่น ภาคละ 1 รุ่น ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว 3 รุ่น (ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
สำหรับรุ่นสุดท้ายภาคใต้ จัดขึ้นที่จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 21-23 มี.ค.59
โดยเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน
ป.ป.ง. สำนักงาน ป.ป.ท. และ สตง.
รวมทั้งมีการแบ่งกลุ่มฝึกทดสอบการรับเรื่องร้องทุกข์ผ่านระบบ Application
Spond ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ
ที่จะเข้ามาช่วยให้การพัฒนางานบริการ
เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เพื่อเพิ่มคุณภาพ/ประสิทธิภาพการให้บริการของศูนย์ดำรงธรรม
เพื่อให้ศูนย์ดำรงธรรมเป็นศูนย์กลางในการให้บริการและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
สามารถเป็นที่พึ่งให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น