บก.ปคบ.ผู้ต้องหาคดียูฟัน
รบแรงกดดันไม่ไหวเข้ามอบตัวอีก 6 ราย วันนี้ 17 สค.58 เวลา 11.00 น. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ.
พ.ต.อ.พิรพล อัจกลับ ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ
ร่วมกันแถลงข่าวผู้ต้องหายูฟันขอเขัามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ
พ.ต.อ. อังกรู กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีผู้ต้องหาหลายรายได้ทยอยเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน และในวันนี้ได้มีผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ขอเข้ามอบตัว คือ ผู้ต้องหารายที่(1) นายทชัย เดชะเทวีวัฒน์ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา"ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ"เป็นเจ้าของร้าน วอเตอร์ไซด์ โดยทำหน้าที่เป็นระดับแม่ทีม เป็นสายงานของเครือข่าย URICH ที่มานายอภิณัฏฐ์ แสนกล้า ( ผู้ต้องหายูฟันที่ยังหลบหนีอยู่ ) เป็นหัวหน้าทีม โดยนายทชัยฯ มีผลงานดีเด่นได้รับรางวัล การลงทุนยอดเยี่ยม ซึ่งรางวัลดังกล่าวผู้ต้องหาได้มาจากการหาสมาชิกเข้ามาร่วมลงทุนจำนวนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ผู้ต้องหาได้รับการโอนเงินจาก นางปริษา ปรัญาโชติการ ผู้ต้องหาในคดียูฟันเช่นกัน เป็นจำนวน 668,675 บาท ผู้ต้องหาที่ (2)นายนัตธนนท์ ปิ่นโรจน์กีรติ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา "ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" ทำหน้าที่เป็นแม่ข่าย เป็นสายงานของเครือข่าย URICH ที่มานายอภิณัฏฐ์ แสนกล้า ( ผู้ต้องหายูฟันที่ยังหลบหนีอยู่ ) เป็นหัวหน้าทีม โดยนายนัตธนนท์ฯ มีผลงานดีเด่นได้รับรางวัล การลงทุนยอดเยี่ยม ซึ่งรางวัลดังกล่าวผู้ต้องหาได้มาจากการหาสมาชิกเข้ามาร่วมลงทุนจำนวนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ผู้ต้องหาได้รับการโอนเงินจาก นางปริษา ปรัญาโชติการ ผู้ต้องหาในคดียูฟันเช่นกัน เป็นจำนวน 52,395 บาท ผู้ต้องหารายที่ 3กับ4 เป็นสามีภรรยากัน นายเจตนิพิฐ ศักย์เจริญผล อายุ 45 ปี และ นางสาวเพียงรัก หรือ S.พริสซี่ ศักย์เจริญผล อายุ 31 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาทั้งคู่ ในข้อหา"ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยทั้งคู่ทำหน้าที่เป็นแม่ทีมบรรยายชักชวนประชาชนให้หลงเชื่อเข้าร่วมธุรกิจยูฟัน นายเจตนิพิฐฯ เป็นสายงานของเครือข่าย PLUSIO ที่มีนายรัฐวิชญ์ หรือโน้ต ฐิติอรุณวัฒน์ (ผู้ต้องหาคดียูฟันที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินเข้า-ออกในบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 12,319,384 ล้านบาท ในส่วนของนางสาวเพียงรักฯ เป็นสายงานของเครือข่าย PLUSIO ที่มีนายรัฐวิชญ์ หรือโน้ต ฐิติอรุณวัฒน์ (ผู้ต้องหาคดียูฟันที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) และเป็นหัวหน้าทีม KRISS TEAM จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินเข้า-ออกในบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 493,700,126 ล้านบาท ผู้ต้องหารายที่(5)นางสาวนงนภัส หรือหมอส้ม เดชสงจรัส อายุ 28 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา"ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยทำหน้าที่เป็นแม่ทีมบรรยายชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมทำธุรกิจและยังอวดอ้างว่าร่ำรวยจากธุรกิจยูฟัน เป็นสายงานของเครือข่าย PLUSIO ที่มีนายรัฐวิชญ์ หรือโน้ต ฐิติอรุณวัฒน์ (ผู้ต้องหาคดียูฟันที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินเข้า-ออกในบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 36,780,318 ล้านบาท และรายสุดท้ายรายที่(6) นางแววตา แซ่โล้ว อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา "ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" ทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายบรรยายชักชวนประชาชนให้หลงเชื่อ โดยมีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า นางแววตาฯ ได้เป็นผู้ชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟัน โดยมีนางสาวธาราทิพย์ โตสันเที๊ยะ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของนางแววตาฯ ผู้ต้องหาคดียูฟันที่ถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้ ให้การยืนยันว่าได้เปิดบัญชี จำนวน 2 บัญชี มอบให้นางแววตาฯ นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงชักชวนบุคคลทั่วไปเข้าบัญชีดังกล่าว จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินเข้า-ออกในบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 171,362,109 ล้านบาท
นายประพันธ์ คงมี ทนายความของผู้ต้องหารายที่ 1-2 (นายทนัย-นายนัตธนนท์ ) กล่าวแทนลูกความของตนเองว่า ลูกความของตนเองเป็นแค่ผู้ลงทุนกับธุรกิจยูฟันชักชวนแค่ลูกน้องในร้านเข้าร่วมทำธุรกิจเท่านั้นมิได้ชักชวนผู้อื่นแต่อย่างใด และเงินที่ลงไปก็ไม่ได้คืน ส่วนเรื่องที่เข้าร่วมธุรกิจยูฟันได้ก็เพราะ นายอภิณัฏฐ์ แสนกล้า ( ผู้ต้องหายูฟันที่ยังหลบหนีอยู่ ) ได้มาจัดงานที่ร้านของลูกความตนเองเป็นประจำ บวกกับมีผู้ใหญ่ที่รู้จักชักชวนให้ร่วมลงทุนกับธุรกิจนี้ ลูกความของตนเองทั้ง 2 คนจึงร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟันและที่ไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินการเอาผิดกับบริษัทยูฟันตอนแรกเพราะว่าไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวในเมื่อลงทุนไปแล้วเกิดการขาดทุนก็ถือว่าลงทุนผิดพลาดไป แต่หลังจากแถลงข่าวเสร็จนี้จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทยูฟัน ต่อไป////
พ.ต.อ. อังกรู กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีผู้ต้องหาหลายรายได้ทยอยเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน และในวันนี้ได้มีผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ขอเข้ามอบตัว คือ ผู้ต้องหารายที่(1) นายทชัย เดชะเทวีวัฒน์ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา"ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ"เป็นเจ้าของร้าน วอเตอร์ไซด์ โดยทำหน้าที่เป็นระดับแม่ทีม เป็นสายงานของเครือข่าย URICH ที่มานายอภิณัฏฐ์ แสนกล้า ( ผู้ต้องหายูฟันที่ยังหลบหนีอยู่ ) เป็นหัวหน้าทีม โดยนายทชัยฯ มีผลงานดีเด่นได้รับรางวัล การลงทุนยอดเยี่ยม ซึ่งรางวัลดังกล่าวผู้ต้องหาได้มาจากการหาสมาชิกเข้ามาร่วมลงทุนจำนวนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ผู้ต้องหาได้รับการโอนเงินจาก นางปริษา ปรัญาโชติการ ผู้ต้องหาในคดียูฟันเช่นกัน เป็นจำนวน 668,675 บาท ผู้ต้องหาที่ (2)นายนัตธนนท์ ปิ่นโรจน์กีรติ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา "ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" ทำหน้าที่เป็นแม่ข่าย เป็นสายงานของเครือข่าย URICH ที่มานายอภิณัฏฐ์ แสนกล้า ( ผู้ต้องหายูฟันที่ยังหลบหนีอยู่ ) เป็นหัวหน้าทีม โดยนายนัตธนนท์ฯ มีผลงานดีเด่นได้รับรางวัล การลงทุนยอดเยี่ยม ซึ่งรางวัลดังกล่าวผู้ต้องหาได้มาจากการหาสมาชิกเข้ามาร่วมลงทุนจำนวนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ผู้ต้องหาได้รับการโอนเงินจาก นางปริษา ปรัญาโชติการ ผู้ต้องหาในคดียูฟันเช่นกัน เป็นจำนวน 52,395 บาท ผู้ต้องหารายที่ 3กับ4 เป็นสามีภรรยากัน นายเจตนิพิฐ ศักย์เจริญผล อายุ 45 ปี และ นางสาวเพียงรัก หรือ S.พริสซี่ ศักย์เจริญผล อายุ 31 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาทั้งคู่ ในข้อหา"ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยทั้งคู่ทำหน้าที่เป็นแม่ทีมบรรยายชักชวนประชาชนให้หลงเชื่อเข้าร่วมธุรกิจยูฟัน นายเจตนิพิฐฯ เป็นสายงานของเครือข่าย PLUSIO ที่มีนายรัฐวิชญ์ หรือโน้ต ฐิติอรุณวัฒน์ (ผู้ต้องหาคดียูฟันที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินเข้า-ออกในบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 12,319,384 ล้านบาท ในส่วนของนางสาวเพียงรักฯ เป็นสายงานของเครือข่าย PLUSIO ที่มีนายรัฐวิชญ์ หรือโน้ต ฐิติอรุณวัฒน์ (ผู้ต้องหาคดียูฟันที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) และเป็นหัวหน้าทีม KRISS TEAM จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินเข้า-ออกในบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 493,700,126 ล้านบาท ผู้ต้องหารายที่(5)นางสาวนงนภัส หรือหมอส้ม เดชสงจรัส อายุ 28 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา"ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" โดยทำหน้าที่เป็นแม่ทีมบรรยายชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมทำธุรกิจและยังอวดอ้างว่าร่ำรวยจากธุรกิจยูฟัน เป็นสายงานของเครือข่าย PLUSIO ที่มีนายรัฐวิชญ์ หรือโน้ต ฐิติอรุณวัฒน์ (ผู้ต้องหาคดียูฟันที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินเข้า-ออกในบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 36,780,318 ล้านบาท และรายสุดท้ายรายที่(6) นางแววตา แซ่โล้ว อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหา "ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ" ทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายบรรยายชักชวนประชาชนให้หลงเชื่อ โดยมีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า นางแววตาฯ ได้เป็นผู้ชักชวนให้เข้าร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟัน โดยมีนางสาวธาราทิพย์ โตสันเที๊ยะ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของนางแววตาฯ ผู้ต้องหาคดียูฟันที่ถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้ ให้การยืนยันว่าได้เปิดบัญชี จำนวน 2 บัญชี มอบให้นางแววตาฯ นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงชักชวนบุคคลทั่วไปเข้าบัญชีดังกล่าว จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินเข้า-ออกในบัญชี จำนวนทั้งสิ้น 171,362,109 ล้านบาท
นายประพันธ์ คงมี ทนายความของผู้ต้องหารายที่ 1-2 (นายทนัย-นายนัตธนนท์ ) กล่าวแทนลูกความของตนเองว่า ลูกความของตนเองเป็นแค่ผู้ลงทุนกับธุรกิจยูฟันชักชวนแค่ลูกน้องในร้านเข้าร่วมทำธุรกิจเท่านั้นมิได้ชักชวนผู้อื่นแต่อย่างใด และเงินที่ลงไปก็ไม่ได้คืน ส่วนเรื่องที่เข้าร่วมธุรกิจยูฟันได้ก็เพราะ นายอภิณัฏฐ์ แสนกล้า ( ผู้ต้องหายูฟันที่ยังหลบหนีอยู่ ) ได้มาจัดงานที่ร้านของลูกความตนเองเป็นประจำ บวกกับมีผู้ใหญ่ที่รู้จักชักชวนให้ร่วมลงทุนกับธุรกิจนี้ ลูกความของตนเองทั้ง 2 คนจึงร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟันและที่ไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินการเอาผิดกับบริษัทยูฟันตอนแรกเพราะว่าไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวในเมื่อลงทุนไปแล้วเกิดการขาดทุนก็ถือว่าลงทุนผิดพลาดไป แต่หลังจากแถลงข่าวเสร็จนี้จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทยูฟัน ต่อไป////
วรนันท์ ( โอ๋ ) หงษ์สร้อย 0837605647 รายงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น