เมื่อ 1 กันยายน 2556 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี
ได้เดินทางมาที่วัดสหกรณ์โฆสิตาราม ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดศาลาประชาธิปัตย์ร่วมใจ 2556 ซึ่งเมื่อมาถึงบริเวณลานจัดงาน ก็มีทั้ง ส.ส.ของพรรค อย่างเช่น นายครรชิต
ทับสุวรรณ ส.ส.เขต 1 สมุทรสาคร และนาย นิติรัฐ
สุนทรวร ส.ส.เขต 3สมุทรสาคร รวมถึงสมาชิกพรรคฯ มาให้การต้อนรับ นอกจากนี้ก็ยังมีพี่น้องประชาชนในจังหวัดที่ชื่นชอบนายอภิสิทธิ์
มาคอยต้อนรับและขอจับมือ ถ่ายภาพคู่ด้วย
โดยไร้เงาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไม่มีใครมาชุมนุมต่อต้านในงานนี้แม้แต่คนเดียว
และก่อนที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ทำการเปิดป้ายศาลาประชาธิปัตย์ร่วมใจ 2556 นั้น ก็ได้ไปกราบนมัสการพระครูสาครธรรมโฆสิต เจ้าอาวาสวัดสหกรณ์โฆสิตาราม
องค์ปัจจุบัน
ซึ่งท่านได้นั่งอยู่ภายในห้องกระจกที่มีรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัดสหกรณ์โฆสิตารามประดิษฐานอยู่
พร้อมกันนี้นายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคฯ
ยังได้ร่วมกันแสดงมุทิตาสักการะท่านพระครูสาครธรรมโฆสิต เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของเจ้าอาวาสวัดสหกรณ์ฯ
อายุครบ 79 ปี อีกด้วย
เสร็จแล้วก็ได้มาทำพิธีเปิดป้ายศาลาประชาธิปัตย์ร่วมใจ 2556 ซึ่งก็อยู่ภายในวันสหกรณ์นั่นเอง โดยมีนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร
เขต 1 เป็นผู้กล่าวที่มาที่ไปของการจัดสร้างอาคารศาลาแห่งนี้ให้กับทางวัดสหกรณ์
โดยศาลาประชาธิปัตย์ร่วมใจ 2556 เกิดขึ้นมาจากงบประมาณ 2 ส่วนคือ ส่วนแรก เป็นงบประมาณในการจัดสร้างศาลาหลังคาโค้ง เป็นเงิน3.8 ล้านบาท
โดยรัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เป็นนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติให้เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นต่างๆ ส่วนอีกงบฯ หนึ่งเป็นของ
อบต.โคกขาม ใช้เงินประมาณ 1 ล้านบาทเศษ
เพื่อทำพื้นปูนซีเมนต์ภายใต้หลังคาโค้งของอาคารศาลาแห่งนี้
ส่วนเรื่องของประโยชน์ใช้สอยนั้นก็เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ของวัดสหกรณ์โฆสิตาราม
ได้มีพื้นที่ไว้ใช้ในการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
และเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มาใช้เพื่อการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆ
และในโอกาสนี้นายอภิสิทธิ์ฯ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ยังได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมในงานว่า
รู้สึกดีใจที่วันนี้ได้มีโอกาสมาพบกับพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาครอีกครั้ง
ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอพูดแทน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรค
และสมาชิกพรรคทุกคนว่า จะร่วมกันเดินหน้าคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างถึงที่สุด
ซึ่งพวกตนเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์แต่เฉพาะกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ดังนั้นขณะนี้จึงต้องการให้รัฐบาลเอาเวลาที่คิดและหาทางจะให้เรื่องของการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนั้น
มาทำประโยชน์ทางด้านของการแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนจะดีกว่า
เพราะทุกวันนี้ยังมีพี่น้องประชาชนอีกจำนวนมากที่ประสบปัญหาหลากหลายชนิดและต้องการให้รัฐบาลยื่นมือเข้ามาแก้ไขให้ได้โดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ในส่วนของปัญหายางพาราเองก็ดูทีท่าว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่เมื่อคืนนี้
(31 ส.ค.56) มีผู้รักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตไป 1 ราย ซึ่งหลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครแล้ว
ตนเองก็จะเดินทางไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพบปะพูดคุยกับพี่น้องชาวสวนยางพาราที่รวมตัวชุมนุมประท้วง
เพื่อต้องการรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของพี่น้องประชาชนทุกคน
และก็จะได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาเสนอในที่ประชุมรัฐสภาเพื่อหาทางออกให้กับผู้ที่เดือดร้อนต่อไป
โดยหลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจที่วัดสหกรณ์ฯ
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย
ส.ส.สมุทรสาครและสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่ง
ก็ได้เดินทางต่อไปที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อทำการเปิดป้ายที่ทำการศูนย์ฯ
อย่างเป็นทางการ โดยที่ศูนย์แห่งนี้จะใช้เป็นที่ให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงทางการเมือง
ให้คำปรึกษา รับเรื่องราวร้องทุกข์ และการพบปะพูดคุยกันของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์
และ สมาชิกพรรคฯ กับ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลโคกขาม และตำบลพันท้ายนรสิงห์
อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์แห่งนี้ นายอภิสิทธิ์
ก็ได้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ในการพูดคุยกับพี่น้องที่มาร่วมในงาน โดยกล่าวถึงการคงจุดยืนของพรรคในการคัดค้าน
พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การทำหน้าที่ฝ่ายค้านในรัฐสภาให้ดีที่สุด
แม้ว่าการประชุมแต่ละครั้งจะต้องเจอประธานสภาฯที่ไม่เป็นธรรม
อย่างเช่นกรณีที่ให้ตำรวจรัฐสภาเข้ามาควบคุมตัวผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายค้านอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้ว
และเรื่องที่สำคัญก็คือการพยายามแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน
รวมถึงจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยางพาราอีกด้วย
ด้านนายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
อดีตนายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการชุมนุมของชาวสวนยางพาราว่า
ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการเสนอญัตติเข้าในสภาฯ และก็มี
ส.ส.หลายคนที่ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาให้แก่รัฐบาล
ซึ่งทางพรรคเองก็ยังรู้สึกเป็นห่วงเพราะเท่าที่ดูการแก้ปัญหาของรัฐบาลในขณะนี้
การให้ความช่วยเหลือนั้นยังไม่ตรงกับความต้องการของเกษตรกร
และรัฐบาลก็ต้องเข้าใจด้วยว่าในแต่ละพื้นที่นั้น
ต้นทุนในเรื่องของยางพาราไม่เหมือนกัน ซึ่งก็อยากจะให้รัฐบาลเอาใจใส่ในรายละเอียดเหล่านี้ด้วย
เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์ได้ก่อนที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ส่วนการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันนี้ก็เพื่อไปรับฟังปัญหาของกลุ่มเกษตรกรที่มีความเดือดร้อน
เพื่อที่จะได้นำมาสะท้อนให้ทางรัฐบาลได้ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น