เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 30
สิงหาคม 2556 นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย
พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.ภ.7 , พล.ต.ต.ธยาน์ฤทธิ์ เอกเผ่าพันธุ์
ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.ประทีป ราญสระน้อย รอง
ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ รอง
ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร , พ.ต.อ.จำแรง สุดใจ
ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร, พ.ต.อ.ชมชวิณ ปุระธนานนท์
ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาครชุดจับกุม
ได้ทำการแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ เครือข่ายนายกล้า
(จังหวัดสมุทรสาคร) ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร
โดยมีผู้ต้องหา 2 คน คือ นายเอกราช แก้วปีลา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่
2 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม กับ นายปองปรีดา ป้องทอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่
59 หมู่ที่ 5 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พร้อมของกลาง เป็นยาบ้า 60,000 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็ก สีดำ
ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถก 1912 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นทะเบียนปลอม
และแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข บฉ 7013 นครพนม ซึ่งเป็นทะเบียนจริงอีก 1 แผ่น
โดยของกลางยาเสพติดที่พบในครั้งนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
พล.ต.ต.พูลทรัพย์
ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ด้วยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร
ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติด โดยเป็นเครือข่ายของนายกล้า “ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) ที่ลักลอบอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร
ซึ่งได้มีการนัดหมายกันที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโฮมโปร หมู่ที่ 8 ถ.พระราม
2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
จึงได้มีการวางแผนจับกุมและเข้าตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมาย
ก็พบกับรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียน ถก 1912 กรุงเทพมหานคร
ตรงตามที่สายลับแจ้งไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจค้น ก็พบกับยาบ้า
60,000 เม็ด และยาไอซ์ 5 กิโลกรัม
รวมถึงแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข บฉ 7013 นครพนม ซุกซ่อนอยู่ในรถ
จึงได้ควบคุมตัวนายปองปรีดา กับ นายเอกราช
พร้อมของกลางมาสอบปากคำเพื่อทำการขยายผลต่อไป ด้านผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า
ยาบ้าและยาไอซ์เป็นของตน โดยยาบ้าและยาไอซ์ทั้งหมด รับมาจากนายดี ไม่ทราบชื่อ และ
นามสกุลจริง มีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศลาว
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปรับยาเสพติดจากที่บริเวณริมแม่น้ำโขง ในตำบลท่าอุเทน
อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม โดยได้รับค่าจ้างคนละ 100,000 บาท
เพื่อให้นำมาส่งให้กับนายกล้า ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีการนัดหมายกันที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าโฮมโปร
แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ ส่วนรถยนต์กระบะนี้ เป็นของนายปองปรีดา
โดยได้มีการถอดเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์ ซึ่งแผ่นที่ติดอยู่เป็นทะเบียนปลอม
ส่วนแผ่นที่พบอยู่ในรถเป็นทะเบียนจริง ทั้งนี้ก็เพื่อใช้ในการหลบหลีกให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ต่างๆ
ขณะที่นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
กล่าวทิ้งท้ายว่า ด้วยจังหวัดสมุทรสาคร
เป็นจังหวัดที่มีรอยต่อกับพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงมีผู้ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากทั้งรายเล็กและรายใหญ่
และยังเคยเป็นแหล่งพักยาเสพติดของเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญอีกด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัดก็มีมาตรการในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น
โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ระดมกำลังกันกวาดล้างยาเสพติดให้หมดสิ้นไป
ดังนั้นหากท่านใดที่พบเห็นหรือทราบเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ผลิต ผู้ค้า หรือ
ผู้เสพยาเสพติด ก็ขอให้แจ้งให้ทางหน่วยงานราชการได้รับทราบทันที
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น