วันที่ 3 ม.ค. 2563 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายนิพนธ์ บุญญามณี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่
2563 โดยมี นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายมณฑล สุดประเสริฐ
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พร้อมด้วยคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เข้าร่วมพิธี
.
ในการนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า
สถิติของการอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ตลอดช่วงเวลา 7 วันของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ
รักษาวินัยจราจร” ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2562 – 2 ม.ค. 2563 นั้น เกิดอุบัติเหตุรวม 3,421 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 373 ราย และผู้บาดเจ็บ
รวม 3,499 คน โดยจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด ได้แก่
ตราด พะเยา แม่ฮ่องสอน ยะลา ลำพูน และสตูล จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ
สงขลา (116 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร (15 ราย)
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ สงขลา (121 คน) ทั้งนี้
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ (ร้อยละ 32.68) และขับรถเร็ว (ร้อยละ 29.00) ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด
ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย (ร้อยละ 56.12) และดื่มแล้วขับ (ร้อยละ 22.49) โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ (ร้อยละ
79.97) และรถปิคอัพ (ร้อยละ 6.81) ซึ่งอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนเส้นทางตรง
(ร้อยละ 63.37) และถนนใน อบต./หมู่บ้าน (ร้อยละ 39.02) และช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด
คือ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. (ร้อยละ 26.28)
.
นายนิพนธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า
จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 พบว่า
สาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนนยังคงเกิดขึ้นจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว
รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด
ซึ่งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดบูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
โดยกำชับให้จังหวัดถอดบทเรียนและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน
เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในเชิงลึกอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
รวมทั้งค้นหาปัญหาอุปสรรคและปัจจัยความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุทางถนน
เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการและแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่
พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง คือ ดื่มแล้วขับ
ขับรถเร็ว และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ ศปถ. จะได้ดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
โดยบังคับใช้กฎหมายควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในการใช้รถ ใช้ถนนอย่างปลอดภัย
ตลอดจนปรับเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยม และสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม
ซึ่งจะเป็นรากฐานในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืนในสังคมไทยต่อไป
ท้ายนี้ ศปถ. ขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน เครือข่ายอาสาสมัคร กลุ่มจิตอาสา
และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนในการเดินทาง
ด้วยความทุ่มเท และเสียสละตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
.
ด้าน นายพรพจน์ เพ็ญพาส
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง กล่าวว่า
กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้จังหวัดจัดประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด
เพื่อสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563
พร้อมทั้งเร่งตรวจสอบข้อมูลผู้บาดเจ็บอุบัติเหตุทางถนนในช่วงควบคุมเข้มข้น
ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563 ซึ่งเสียชีวิตภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ
เพื่อให้ได้ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ถูกต้อง
รวมถึงวิเคราะห์สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
ถอดบทเรียนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ เพื่อค้นหาสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนในภาพรวม
ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดมาตรการและกลยุทธ์ในการสร้างความปลอดภัยทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และรูปแบบการเดินทางของประชาชน
เพื่อขับเคลื่อนการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด
.
ด้าน นายมณฑล สุดประเสริฐ
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน
(ศปถ.) เปิดเผยว่า แม้จะสิ้นสุดการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 แล้ว ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน
โดยความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ยังคงมุ่งสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง โดย ปภ.
จะได้บูรณาการทุกหน่วยงานในการวางแนวทางและกำหนดทิศทางการสร้างความปลอดภัยทางถนน
เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในทุกมิติ
ควบคู่กับการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ
เพื่อสร้างความตระหนักและจิตสำนึกด้านความปลอดภัยแก่ประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนน
ทั้งนี้ เพื่อให้ถนนทุกสายเป็นเส้นทางแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น