“บิ๊กฉัตร” เร่งล้างบาง เรือผี ให้หมดจากประเทศ ประเดิมที่
จ.สมุทรสาคร สั่งประกาศตามหาเจ้าของเรือประมงจอดทิ้งไว้ให้มาแสดงตัวตนภายใน 7 วันก่อนขายทอดตลาด
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.61 เวลา 13.30 น. พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามมาตรการควบคุมกองเรือประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
พร้อมด้วยเสนาธิการทหารเรือ อธิบดีกรมเจ้าท่า อธิบดีกรมประมง โดยมีนายประภัสสร์
มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
พบว่าตลอดเส้นทางการลงเรือตรวจการณ์ตั้งแต่ท่าเรือรับลม คลองมหาชัย แม่น้ำท่าจีน
ซึ่งมีเรือประมงและเรือที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงตลอดเส้นทางเป็นเรือที่ถูกควบคุมมิให้ออกจากท่าเทียบเรือ
เนื่องจากไม่มีทะเบียนเรือ ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง
รวมถึงอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยเรือดังกล่าวที่ถูกล็อคไม่ให้ออกจากท่าเป็นเรือประมงจำนวน 134
ลำ
ซึ่งจอดอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนเป็นเรือที่ไม่มีชื่อเรือ ไม่มีทะเบียนเรือ
ใบอนุญาตใช้เรือหมดอายุ รวมถึงอยู่ระหว่างการต่อและบางลำจมน้ำ ดังนั้น
จึงได้สั่งการกรมเจ้าท่าติดประกาศที่เรือหรือท่าเทียบเรือให้เจ้าของเรือมาแสดงตัวภายใน
7 วัน
หากไม่มีผู้มาแสดงตัว กรมเจ้าท่าจะดำเนินการนำไปขายทอดตลาดตาม
พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย และจะให้ดำเนินการเช่นเดียวกันทุกจังหวัดชายทะเล 22 จังหวัดซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการกำจัดเรือจม
ซากเรือต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้องและผิดกฏหมายให้หมดสิ้นไป
“การมาติดตามมาตรการควบคุมและบริหารจัดการกองเรือประมงครั้งนี้เนื่องจากได้มีการปรับปรุงระบบการทำงานภายในกรมเจ้าท่าเกี่ยวกับการควบคุมเรือประมงทั้งหมด
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทุกระดับทั้งกรมส่วนกลางและสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในขั้นตอนการปฏิบัติต่าง
ๆ
เพราะระบบการทำงานใหม่นี้กรมเจ้าท่าจะต้องเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทันเวลาในทุกสถานการณ์
เพื่อสามารถบริหารจัดการควบคุมเรือไร้สัญชาติ เรือที่ไม่มีที่มาที่ไป
และเรือที่ปฏิบัติผิดกฎหมาย เรือคดีต่าง ๆ
ได้อย่างครบถ้วนไม่ให้ออกไปทำการประมงหรือกลับเข้ามาสู่ระบบประมงของประเทศไทยได้อีก
เรียกว่าต่อไปนี้เรือผีต้องไม่มีในประเทศไทย ส่วนเรือจม เรือพังทั้งหลายนั้น
ได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ติดตามตัวเจ้าของหมดแล้ว
เพื่อให้ยืนยันข้อมูลว่า จมที่ไหน พังที่ไหน ขายไปที่ไหน อย่างไร
เพื่อมิให้เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้สวมเรือ
ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานอีกอย่างเด็ดขาด”พลเอกฉัตรชัย กล่าว
พลเอกฉัตรชัย
กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
ภายในสัปดาห์นี้กรมเจ้าท่าจะออกระเบียบเป็นหลักเกณฑ์ของราชการเพิ่มเติมให้เข้มข้นขึ้น
เช่น อู่ต่อเรือต้องขึ้นทะเบียน เรือทุกลำก่อนต่อเรือต้องถูกตรวจสอบแปลนเรือ
ไม่รับจดทะเบียนเรือประมงที่ไม่มีการจัดทำอัตลักษณ์ หรือไม่มีหมายเลข IMO
เรือประมงที่ต่อใบอนุญาตใช้เรือประจำปีต้องเข้ารับการตรวจสภาพเรือทุกลำ
โดยการอนุมัติให้รับจดทะเบียนเรือหรือไม่ ให้ทำในรูปแบบคณะกรรมการ
ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ตำรวจ ประมง ทหารเรือ
มิใช่กรมเจ้าท่าเพียงหน่วยงานเดียวอีกต่อไป ส่วนเรือขนถ่ายสินค้าทั่วไปทุกลำขนาดตั้งแต่
60 ตันกรอสขึ้นไปต้องติดระบบติดตามเรือ
AIS เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าไปบรรทุกปลาที่ไหน
หรือไม่ อย่างไร ได้ตลอดเวลา
ด้วยมาตรการนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่ากองเรือประมงไทยปราศจากเรือผิดกฎหมาย เรือผี
เรือสวม ได้อย่างเด็ดขาด เป็นการสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศ
IUU Free ภายใน
3 ปี
และเป็นผู้นำอาเซียนด้านการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อการประมงที่ยั่งยืน
ก่อนที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปี พ.ศ. 2562
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น