pearleus

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561

ชี้ชัดหน้า 5 (ชี้ชัดเจาะลึก เม.ย. 61)


กลับมาพบกันอีกครั้งกับชี้ชัดหน้า  5 ทุกเรื่องเด่นประเด็นร้อนทุกทิศทั่วไทย  สวนกระแสอากาศเมืองไทยที่ทั้งเย็นและหนาว (เป็นบางช่วง)  เมษายนนี้มีอะไรน่าตกอกตกใจกันบ้าง เชิญทัศนาพร้อม ๆ กันได้ ณ บัดนาว
            เรื่องเด่นประเด็นร้อน (แน่ ๆ ) โดยเฉพาะบรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลาย  เมื่อกรมสรรพากร แรงเหลือ ตั้งใจทำงานเอาใจรัฐบาลมือเติบด้วยการเต็มเสนอร่างกฎมายสแกนธุรกิจการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งเป้าส่องทุกบัญชีโอน/รับเงินเกิน 2 ล้าน ดีเดย์ปี 2563  สั่งแบงก์-ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์รายงานยิบ หวังขยายฐาน VAT กวาดธุรกิจเลี่ยงภาษี ใช้บัญชีคนอื่นเข้าระบบ ฟอกเงิน-ธุรกิจมืดทั้งหวยใต้ดิน โต๊ะแทงบอล โพยก๊วนจ๊าก  
            งานนี้ออกมาจากปากของอธิบดีกรมสรรพากรเอ้งเลย ว่า ขณะนี้กรมสรรพากรกำลังเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.
            โดยสาระสำคัญกำหนดให้สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ต้องรายงานข้อมูลของบุคคลที่มีธุรกรรม ดังนี้ 1.ฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 3,000 ครั้งต่อปี 2.ฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 200 ครั้ง และมียอดรวมของธุรกรรมฝากหรือรับโอนรวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปต่อปี โดยตามแผนกำหนดให้รายงานข้อมูลของบุคคลที่มีธุรกรรมเกิดขึ้นในรอบปีภาษี 2562 (ม.ค.-ธ.ค. 2562) ต่ออธิบดีกรมสรรพากร ในเดือน มี.ค. 2561
            เอาล่ะซิ เอาละทีนี้ คนที่ทำธุรกิจในออนไลน์ทั้งหลาย เป็นได้หนาวแน่  ซึ่งก็รวมถึงธุรกิจมืด ๆ เทา ๆ ทั้งหลายก็พึงระวังกันให้ดี สรรพากรท่านมาเคาะเก็บค่าคุ้มครอง เฮ้ยภาษี ถึงประตูบ้านแล้ว เตรียมหาทางหนีทีไล่กันได้แล้ว เพื่อกเรา
            
            นี่ก็อีกเรื่องที่จะทำให้ประชาชนปวดใจ  เป็นกฎหมายใหม่อีกเช่นกัน  งวดนี้เป็นทีของจราจรบ้าง เห็นว่ามีตั้ง 23 หัวข้อที่จะเอาผิดเอาโทษประชาชน ผู้ไม่เคร่งครัดกฎระเบียบบนท้องถนน  ขอเลือกเอาข้อเด็ด ๆ มาให้ระวังก็แล้วกัน อาทิ ติดป้ายเอียง มีวัสดุปิดทับ  , โหลดเตี้ย   , ล้อยางเกินออกมานอกบังโคนข้างละหลายนิ้ว , ใส่ล้อใหญ่จนแบะล้อเพื่อหลบซุ้ม , ไฟหน้าหลายสี ติดไฟนีออนใต้ท้องรถ , ถอดเบาะหลังออกแล้วติดโรลบาร์ โทษปรับต่าง ๆ ก็จะอยู่ราว ๆ 500 ถึง 2,000 บาท พวกชอบแต่งรถทั้งหลาย  รับรู้รับทราบ ทำตามกันด้วยล่ะ  เพื่อความปลอดภัยของ ผู้อื่น 55555

เรื่องเก่ามาปัดฝุ่นเล่าใหม่ (รึป่าว) จะเรื่องไหนอีกล่ะ ก็เรื่องเงินน้ำเงินเดือนที่นับวันจะด้อยค่าสวนกระแสของแพง ที่แรงขึ้นทุกวัน  แต่เอาเถิดขึ้นบ้างดีกว่าไม่ขึ้นเลย
ล่าสุดรัฐบาลท่านก็ใจดี ประกาศขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ  มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป  รายละเอียดน่าจะหาได้จากกูเกิล ชี้ชัดหน้า  5 ขอสรุปเอาที่สำคัญ ๆ ให้ทราบก็แล้วกัน (ขอเลือกเอาเฉพาะที่หนังสือพิมพ์ชี้ชัดมีอิทธิพลอยู่ก็แล้วกัน …5555)  โดยในท้องที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อย่าง จังหวัดฉะเชิงเทรา  นครปฐม  นนทบุรี  ปทุมธานี  สมุทรปราการ  และสมุทรสาคร  ท่านให้ค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ที่วันละ 320 บาท
320 บ ต่อวันจะพอรับประทานรึป่าว ก็แล้วแต่ครอบครัว  แต่ที่แน่ ๆ ยังมีหลายแห่งไม่ได้เดินตามแนวนี้ พวกขูดรีดแรงงานชนิดที่กฎหมายเข้าไม่ถึง  ประเภทค้าแรงงานทาส ค้ามนุษย์ทำเทือกนั้น

ไวปานกามนิตหนุ่ม สำหรับการทำงานของกรมประมงเมืองไทย ที่นอกเหนือจากอธิบดีแล้ว ก็มีนาย ล่าสุดนายอรุณชัย พุทธเจริญ อดีตประมงจังหวัดสมุทรสาคร ปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมประมง  ซึ่งภายหลังรับทราบการประท้วงของชาวประมงต่อข้อกฎบัตรกฎหมายที่สารพัดจะบีบเค้นอารมณ์คนทำประมง โดยเฉพาะการตอกบัตรเข้าออกทะเล ส่งผลให้ต้องมีการรวมตัวกันเพื่อประท้วงหาความเป็นธรรม และให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรู้จักธรรมชาติของอาชีพประมงที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่เหมือนงานบนบก  และได้มีการนัดหยุดทำการประมงตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 2561 เพื่อเป็นการประท้วงกฎหมายดังกล่าวเหล่านั้น  
            ทั้งนี้ฝ่ายผู้ประท้วงได้จัดทำข้อเสนอให้ฝ่ายรัฐบาลพิจารณา ให้ทบทวนประกาศที่สร้างความเดือนร้อนให้แก่ชาวประมงที่ต้องสุ่มเสี่ยงในการทำผิดกฎหมาย , ขอให้ชาวประมงได้มีส่วนร่วมในการทบทวนประกาศ ที่สร้างเงื่อนไขขัดกับวิธีประมงและบั่นทอดความมั่นคงในกิจการประมงไทย ที่สืบทอดมายาวนาน , ขอให้ตรวจสอบประกาศที่ออกโดยมิชอบ , ขอให้หยุดการออกประกาศใหม่ในระหว่างการทบทวนประกาศ และอันดับสุดท้ายขอให้ช่วยเหลือเรื่องการขาดแคลนแรงงานในกิจการประมง
             

            งานนี้นายอรุณชัย พุทธเจริญ อดีตประมงสมุทรสาคร  รับลูกพี่น้องประมง สั่งการให้มีการสำรวจเรือที่ต้องการหยุดทำการประมง เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายที่สะท้อนสภาพความเป็นจริง
            มาที่อีกเรื่องที่เกือบจะสร้างความยุ่งยากลำบากให้กับพี่น้องประชาชน (ชาวถนน) แต่สุดท้ายก็ต้องพับไว้ก่อน ก็จะเรื่องอะไรอีกล่ะถ้าไม่ใช่  การสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 ช่วง แยกต่างระดับบางขุนเทียน(กาญจนาภิเษก) ถึงแยกต่างระดับเอกชัย (มหาชัยเมืองใหม่) ซึ่งมีข่าวอีกมาว่าจะเริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2561 เป็นต้นไปจนถึงเดือนกันยายน 2563 โน้น แต่ไป ๆ มา ๆ กรมทางหลวงก็ออกมาแก้ข่าวว่า มันไม่จริง ไม่จริง
งานนี้ออกจากปากของนายกิตติ  ทรัพย์ประสม  แขวงทางหลวงสมุทรสาคร  เองว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะการสร้างทางยกระดับถนนพระราม ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เนื่องจากโครงการยังอยู่ในช่วงศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม  ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นปี 2562 ที่จะมีการของบประมาณในการก่อสร้าง แต่ โครงการที่จะเดินหน้าแน่นอนก็คือ โครงการขยายทางหลวง ถนนพระราม2 ช่วงบางขุนเทียนเอกชัย  ขยายช่องจราจรหลักจาก 3 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร และทางคู่ขนานจาก 2 ช่องจราจร เป็น 3 ช่องจราจร พร้อมปรับปรุงโครงสร้างชั้นทางเดิม  อ้าวรับทราบกันไปด้วย




มาที่เรื่องดี ๆ กันบ้าง กับผลการประกาศรางวัลคนดีศรีสาครประจำปีล่าสุด ของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีโต้โผใหญ่คือ ดร.สุนทร วัฒนาพร ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ได้รับรางวัลจำนวน 33 คน  ประกอบไปด้วย พระภิกษุสงฆ์ 3 รูป ประเภทบุคคล จำนวน 23 คน ประเภท และประเภทองค์กร จำนวน 7 องค์กร
            ประกาศรายชื่อหมด คงต้องใช้พื้นที่หนังสือพิมพ์ทั้งหน้า เลยขอเลือกเอาเฉพาะที่คุ้น ๆ และเป็นที่รู้จักกัน อาทิ ได้แก่ นายสมพงษ์  จิระพรพงศ์  ประธานชมรมร้านอาหารทะเล  , นายกำจร  มงคลตรีลักษณ์  นายกสมาคมประมงสมุทรสาคร ในสาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม ด้านการศึกษา ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม (ประเภทบุคคล) ส่วนที่เหลือเข้าใจว่าคงหาดูได้ไม่ยากจากเว็บไซต์วัฒนธรรมจ.สมุทรสาคร
            ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เจ๊กช้า ราชาอาหารทะเลแห่งเมืองน้ำเค็ม


มาที่สุดท้ายข่าว ข่าวสุดท้ายเป็นเรื่องของคนดี มีสตางค์ คนกันเองของพี่หนวดชี้ชัด  จะใครที่ไหนล่ะ ก็คุณสมนึก เผือกเล็ก อดีตนายกเทศมนตรีตำบลนาดี  ใจดีใจถึง ทำบุญทุกครั้งที่ได้โอกาส โดยครั้งนี้ได้ บริจาคเงินจำนวน 100,000 บาท ให้เหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนางรวงทอง มาลากาญจน์ นายกเหล่ากาชาดจ.สมุทรสาครเป็นผู้รับมอบ  ก็ขออนุโมธนาบุญด้วยครับ
            จบข่าว ข่าวจบจริง ๆ แล้ว ฉบับนี้ได้ครบรสกับเปรี้ยวหวานมันเค็ม กลมกล่อมแต่พองาม ฉบับหน้ามีอะไรใหญ่โตเป็นเรื่องเป็นราวจะนำมาเล่าต่อให้ฟัง สำหรับฉบับนี้ต้องขอกล่าวคำว่า
สวัสดีปีใหม่ (ไทย) ครับ





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น