“ส่อทุจริต” สมาชิกออมทรัพย์สโมสรรถไฟ รวมตัวเข้าร้องกองปราบฯ เอาผิดอดีตประธานและกรรมการ หลังพบพิรุธการบริหารเงิน

“ส่อทุจริต” สมาชิกออมทรัพย์สโมสรรถไฟ รวมตัวเข้าร้องกองปราบฯ เอาผิดอดีตประธานและกรรมการ หลังพบพิรุธการบริหารเงิน 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายกิ่งแก้ว โยมเมือง หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล นายฐานพัฒน์ รัตนพันธ์ ทนายความประจำกลุ่มธรรมาภิบาบล พร้อมด้วยสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด กว่า 40 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. เพื่อเอาผิดกับอดีตประธานและคณะกรรมสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำนวน 6 ราย และผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ ในฐานความผิดตามพ.ร.บ.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 , ฉ้อโกงประชาชน และ ยักยอกทรัพย์ โดยนำเอกสารหลักฐานรายงานการประชุม มามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประกอบการพิจารณาคดี

นายฐานพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้กลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ร่วมกับ สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจำกัด เพื่อแจ้งความเอาผิดกับอดีตประธานและคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ เนื่องจากตั้งแต่ปี 2556 - 2560 กลุ่มประธานและคณะกรรมการดังกล่าวได้ดำเนินกิจการมีข้อพกพร่องในหลายด้าน อาทิเช่น สมาชิกที่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกแล้วไม่ได้รับเงินคืน โดยทางสหกรณ์ฯอ้างว่าไม่เงินจ่าย และการกู้ยืมเงินเพื่อเหตุฉุกเฉิน กู้เงินพิเศษ หรือการกู้ยิมเงินสามัญของสมาชิกนั้นก็มีความล้าช้ากว่าปกติเป็นเหตุให้สมาชิกได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีข้อพิรุธในเรื่องระดมทุนเงินฝากจากสหกรณ์พันธมิตร จำนวน 10 สหกรณ์ โดยให้ดอกเบี้ยสูงกว่ากว่าข้อบังคับ ทั้งนี้การระดมเงินดังกล่าวยังมียอดสูงเกินความจำเป็นในการดำเนินการกิจการสหกรณ์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตุว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทางสหกรณ์ฯยังมีการปล่อยเงินกู้เพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับคณะกรรมการชุดดังกล่าวเป็นหลักล้านบาทซึ่งเป็นที่น่าสงสัย

นายฐานพัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับอดีตประธานและคณะกรรมการชุดนี้ยังมีการสลับหมุนเวียนการกันเป็นประธาน และมีการอำนวนความสะดวกต่าง ๆ ให้แก่กัน อย่างก็ตามก่อนหน้านี้ทางกลุ่มสมาชิกได้ร่วมตัวกันไปร้องเรียนกับทางพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ก่อนที่จะได้รับคำแนะนำให้มาแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปราม

ด้าน นายสาโรจน์ สุขแสงดาว อายุ 55 ปี หนึ่งในสมาชิกสหกรณ์ฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสหกรณ์ฯมีสมาชิกจำนวน 6,390 ราย ซึ่งที่ผ่านมาเริ่มมีสมาชิกขอลาออกจากสหกรณ์ฯไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินคืน โดยได้รับเหตุผลว่าไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่าย ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ทางคณะกรรมชุดดังกล่าวบริหารเงินเงินปันผลของสหกรณ์ฯก็ลดลงทุก ๆ ปี ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยแก่สมาชิก อีกทั้งยังไม่สามารถตรวจสอบจำนวนและที่มาที่ไปทางการเงินของสหกรณ์ฯได้ เนื่องจากเป็นเพียงสมาชิก

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำสมาชิกสหกรณ์ฯ และตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ทางผู้เสียหายได้นำมามอบให้ ก่อนที่จะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามหากพบมีการกระทำความผิดจริงจะมีการเรียกบุคคลที่ถูกกล่าวหาและผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำต่อไป

สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ตั้งอยู่ที่ ชั้น 6 อาคารตั้งฮั่วปัก เขตบางรัก กทม. ดำเนินกิจการมาแล้วเป็นปีที่ 11 ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 6,390 คน มีทุนเรือนหุ้นรวม 760,779,610 บาท

Posted in: