นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า
ในนามของกระทรวงมหาดไทย รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
ที่ทุกภาคส่วนได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติ
ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมโครงการเพื่อพัฒนาบุคลากรทั้งในระดับประเทศ
ภูมิภาค และท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งการเสริมสร้างความมีระเบียบวินัยของคนในชาติ อาทิ การจัดระเบียบสังคม การส่งเสริมความสามัคคีและความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ
เป็นต้น ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์
เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข โดยการปลูกฝังแนวคิดให้แก่เด็กและเยาวชนไทย
ได้เรียนรู้พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
ตามหลักการ
“รู้ รัก สามัคคี” และอุดมการณ์
“เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” กระทรวงมหาดไทยจึงได้จัดทำโครงการพัฒนายุวมหาดไทย
โดยเปิดโอกาสให้เยาวชน ได้แก่ นักเรียน นิสิต
นักศึกษาจากหลายสถาบันการศึกษาได้เข้าร่วมโครงการฯ
สำหรับการลงนาม MOU ในครั้งนี้ มีสาระสำคัญ คือ
เป็นการประสานความร่วมมือในการร่วมดำเนินโครงการพัฒนายุวมหาดไทย
มีการสนับสนุนบุคลากร บูรณาการงบประมาณ วิชาการและทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง
เพื่อส่งเสริมการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ
เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้และเข้าใจการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
การทำงานร่วมกัน การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสมานฉันท์ และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สุขทั้งแก่ตนเอง
ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ซึ่งโครงการดังกล่าว มีการดำเนินการ แบ่งเป็น 2 ส่วน
ได้แก่ ส่วนที่ 1 กิจกรรมสัมมนาเยาวชนคณะทำงานโครงการฯ หรือ
กิจกรรมค่ายพี่เลี้ยงยุวมหาดไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมาย เป็นนิสิต
นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ
เพื่อทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการจัดกิจกรรมค่ายพัฒนายุวมหาดไทย
โดยมีหลักการและกระบวนการทำงานในลักษณะ “พี่สอนน้อง” เน้นการให้คำปรึกษาแนวทางการจัดกิจกรรมภายในค่ายฯ
การแนะนำดูแลซึ่งกันและกันของกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรม ส่วนที่ 2
กิจกรรมค่ายพัฒนายุวมหาดไทย กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือ 5 จากโรงเรียนในพื้นที่ที่จัดกิจกรรม
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า
การพัฒนากลไกความร่วมมือระหว่างกันของหน่วยงานภาคีเครือข่าย
ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้ก้าวไกล
เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาสังคมให้เกิดความรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดองของคนในชาติ
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยคาดหวังว่า เยาวชนเหล่านี้จะเป็นแบบอย่างที่ดี
และเป็นกำลังสำคัญที่จะนำพาสังคมและประเทศชาติ
ให้มีความสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองได้ในอนาคต
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น