สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5
จังหวัดราชบุรี กรมควบคุมโรค
เตือนประชาชนในพื้นที่ฝนที่ตกหนักจนทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขัง
ระวังป่วยด้วยโรคไข้ฉี่หนู หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน
หลังปีนี้พบผู้ป่วยมากกว่า 700 ราย และเสียชีวิต 20 ราย ถ้ามีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว
อย่าซื้อยากินเอง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้
ขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็วและแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบ หากจำเป็นต้องเดินลุยควรสวมรองเท้าบูท
หรือถุงพลาสติกสะอาดที่หาได้ในพื้นที่
นายแพทย์สุเมธ องค์วรรณดี
ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า
จากสถานการณ์ปัญหาฝนตก ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัดที่ผ่านมา
ในช่วงนี้บางพื้นที่น้ำเริ่มลดลงแล้ว โรคที่ประชาชนควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
คือโรคไข้ฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรสิส เนื่องจากเชื้อชนิดนี้จะถูก ขับออกมากับ ฉี่หนู
และปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมในน้ำหรือที่ชื้นแฉะ ทำให้เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล
รอยถลอก หรือทางผิวหนังที่แช่อยู่ในน้ำนานจนอ่อนนุ่ม
และสามารถติดเชื้อโดยการกินอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากฉี่หนู
นายแพทย์สุเมธ กล่าวต่อไปว่า
อาการของโรคไข้ฉี่หนู คือ มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ
บริเวณน่อง โคนขา คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ตาแดง มีเยื่อหุ้มสมอง อักเสบ
มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอมีเลือดปน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ตัวเหลือง ปัสสาวะน้อย
ซึม หากมีอาการดังกล่าว ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง
เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งเชื้อเข้าไปสู่อวัยวะที่สำคัญ เช่น ปอด ตับ ไต
อาจมีอาการตับวาย ไตวาย และทำให้เสียชีวิต การป้องกันโรคถ้ามีบาดแผล รอยถลอก
ขีดข่วนให้ปิดแผล และหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่ท่วมขัง พื้นที่ชื้นแฉะ
หรือแช่ลงในห้วย หนอง คลอง บึง รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายโดยทันทีหากแช่น้ำหรือลงไปย่ำในน้ำ
เก็บหรือปกปิดอาหารและน้ำดื่มให้มิดชิด ดื่มน้ำต้มสุก และกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่
ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ภายหลังการจับต้องเนื้อสัตว์
ทั้งนี้ขอแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนู โดยเฉพาะในช่วงน้ำลด
ดังนี้ 1.ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนที่ชื้นแฉะนานเกินครั้งละ 2
ชั่วโมง หากจำเป็นต้องเดินลุยควรสวมรองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกสะอาดที่หาได้ในพื้นที่
เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำหรือพื้นดินโดยตรง 2.ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีแผลที่เท้า มีโอกาสเสี่ยงติดโรคสูง 3.หากมีบาดแผลที่เท้าหรือที่บริเวณขา
ขอให้ใช้ถุงพลาสติกหรือวัสดุที่กันน้ำได้
ห่อหุ้มขาและเท้าเพื่อป้องกันน้ำเปียกแผล
4.หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ อาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงาน
และ 5.กำจัดขยะในบ้านเรือน สถานที่ทำงานให้สะอาด ปกปิดอาหารและน้ำดื่มให้มิดชิด
เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนูได้ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี เบอร์ติดต่อ 032310804
หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 นายแพทย์สุเมธ กล่าวปิดท้าย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น