ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีลงวั นที่ 17 กันยายน 2558 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายณรงค์ รัตนานุกูล
พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และให้มาดำรงตำแหน่งเป็น
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ เลขาธิการ
ป.ป.ส. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการ ป.ป.ส. คนใหม่นี้ เกิดเมื่อวันที่ 9
กรกฎาคม 2499 ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในปี
2521 จากนั้นศึกษาต่อจนได้รับ เนติบัณฑิต จากสำนักอบรม
ศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ปี 2525 และระดับปริญญาโท
จากคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ในปี 2545ภายหลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยได้เริ่มทำงานครั ้งแรกที่ธนาคารกรุงเทพฯ
พาณิชย์การ สาขาชลบุรี แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเข้ารับราชการ
จึงสอบเข้าบรรจุในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ระดับ 3 กองปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2523 ท่านมีความวิริยะ
อุตสาหะ ประกอบกับเป็น ผู้ที่มีความสุขุมรอบคอบในการทำงาน ยึดมั่นใน
ความถูกต้องยุติธรรมและกฎระเบียบของทางราชการ จึงได้เลื่อนขั้นมาเป็นลำดับจนกระทั่งในปี
2543 ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้อำนวยการสำนัก ตรวจสอบทรัพย์สินคดี ยาเสพติด ซึ่งตลอดระยะเวลา
ที่ดำรงตำแหน่งท่านทำงาน เพื่อประโยชน์ของประชาชน
เป็นสำคัญ จากนั้นในปี 2553 ท่านได้รับตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ส. และเพียง 1 ปี ต่อมาท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุ ณวุฒิ) ด้วยตำแหน่ง ในฐานะที่ปรึกษาฯ ท่านเป็น
ผู้ให้คำแนะนำทางวิชาการ เกี่ยวกับนโยบาย แผนงาน หรือโครงการของสำนักงาน ป.ป.ส.
ที่มีความสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามหลักการทางวิชาการ และแนวทาง
การบริหารงานภาครัฐ ทั้งวิเคราะห์ เสนอแนะนโยบาย เพื่อวางแผน ตลอดจนวินิจฉัย
ปัญหาที่สำคัญ เพื่อให้ การกำหนดนโยบายมี ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งความรู้
ความสามารถ และประสบการณ์ การทำงานยาเสพติดของท่านเป็นที่ประจักษ์ในความสามารถเป็ นที่ยอมรับ
เพราะต้อง ปฏิบัติงานที่ต้องตัดสินใจ หรือแก้ไขปัญหาในทางวิชาการ
ที่ยากและซับซ้อนมาก เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขหรือปรับปรุง
กฎหมายเพื่ออำนวยความ ยุติธรรมและลดปัญหา ยาเสพติดอย่างยั่งยืน
ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์
ของ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญ กับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ท่านได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วหลากหลายหลักสู ตร อาทิ
หลักสูตรนักบริหาร การยุติธรรมทางปกครองระดับสูง (บยป.) รุ่นที่ 3 , หลักสูตรพัฒนานักบริหารระดับสูง
: นักบริหารส่วน ราชการ (นบส. 2) , หลักสูตร
การบริหารงานยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 1 (ยธส.)
ออสเตรีย ,หลักสูตร นักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 48
,หลักสูตรผู้บริหาร กระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) รุ่น 6
,หลักสูตร การก่อการร้าย/อาชญากรรม ทางคอมพิวเตอร์ , หลักสูตร Forfeitures of Assets , หลักสูตร INTERNATIONAL
ASSET FORREITURE INVESTIGATIONS SEMINAR ,หลักสูตร
การสืบสวนทางการเงิน และสืบสวนข่าวกรอง
อาชญากรรม เป็นต้น ทั้งผลงานและความเป็น นักบริหารของเลขาธิการ ป.ป.ส. คนใหม่ จะทำให้หน่วยงานภาคี และประชาชนมั่นใจ และเชื่อมั่นว่าปัญหา ยาเสพติดจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
เป็นสำคัญ จากนั้นในปี 2553 ท่านได้รับตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ส. และเพียง 1 ปี ต่อมาท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุ
ของ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญ กับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ท่านได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วหลากหลายหลักสู
อาชญากรรม เป็นต้น ทั้งผลงานและความเป็น นักบริหารของเลขาธิการ ป.ป.ส. คนใหม่ จะทำให้หน่วยงานภาคี และประชาชนมั่นใจ และเชื่อมั่นว่าปัญหา ยาเสพติดจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น