pearleus

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มหาดไทย จัดประชุมมอบนโยบายแก่ผู้บริหารและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเร่งติดตามความคืบหน้าภารกิจสำคัญตามนโยบายรัฐบาล

เมื่อ 2 ต.ค. 58.  ณ ห้องประชุม 1 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการ พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อเร่งขับเคลื่อนภารกิจสำคัญตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมในส่วนกลาง ประกอบด้วย คณะผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย อธิบดีทุกกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด และ ผู้แทนกรุงเทพมหานคร  โดยมีการประชุมผ่านระบบ Video Conference System ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
          ในโอกาสนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ ซึ่งจะร่วมมือกันในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยไปสู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป โดยขอให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อพัฒนาประเทศชาติ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนและเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในระดับพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอถือว่าเป็นกำลังหลักสำคัญในการดูแลพี่น้องประชาชน ขอให้กำกับดูแลงานทั้งในด้านความมั่นคงและการพัฒนา โดยบูรณาการทุกภาคส่วนรวมทั้งกลไกของท้องที่และท้องถิ่นในพื้นที่ และได้เน้นย้ำเป็นพิเศษในเรื่องสำคัญในด้านต่างๆ เช่น
          1.การเทิดทูนและธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ กระทรวงมหาดไทยในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ได้ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทตลอดมา สถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นสถาบันหลักที่สำคัญเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ จึงขอให้เน้นทั้งด้านการปกป้องและเชิดชู โดยขอให้ทุกฝ่ายน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และโครงการพระราชดำริไปขยายผลให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม และสร้างความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนได้ซึมซับรับรู้ถึง
พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย และในช่วงปลายปีนี้ นับเป็นโอกาสดีที่พสกนิกรชาวไทยจะได้แสดงความพร้อมเพรียงและตั้งใจร่วมกันจัดกิจกรรมประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งอย่างเต็มที่ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และถวายพระเกียรติด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยทั้งแผ่นดิน ในกิจกรรม
จักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 (BIKE FOR DAD) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 11 ธันวาคม 2558 พร้อมกันทั่วประเทศ
         2.การขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เช่น 1)ด้านความมั่นคง ได้แก่ การสร้างความปรองดอง สมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ขอให้ดำเนินการภายใต้หลักการ เห็นต่างได้ แต่ต้องอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข ซึ่งในการดำเนินงานต้องอาศัยกลไกต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อร่วมมือกันลดความขัดแย้ง และส่งเสริมให้มีความปรองดอง ความรักและสามัคคีในสังคมและชุมชน การจัดการกับปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงและความเชื่อมั่นของประเทศ ต้องบูรณาการกลไกในพื้นที่แก้ไขปัญหา เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ปัญหายาเสพติดต้องลดทั้งในด้านDemand และ Supply รวมทั้งปัญหาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอต้องรู้ยุทธศาสตร์ดำเนินการแก้ไขปัญหาภายใต้แผนงานโครงการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 2)ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจของประเทศ เช่น กองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลๆ ละ 5 ล้านบาท มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ และมาตรการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้ง การจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการค้าขายและการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ เช่น ผลิตภัณฑ์OTOP ตลาดนัดชุมชน และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ยั่งยืน เป็นต้น 3)ด้านสังคม การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ได้แก่ การพัฒนาดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนด้านการบริการสาธารณะ และความปลอดภัย การแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนจากการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมสิ่งผิดกฎหมาย การส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น/ชุมชน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว และเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมขอให้เร่งดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจน 4)การกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นการบริหารงานให้มีความโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้กับพี่น้องประชาชน 5)การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ การดูแลรักษาความสะอาดของแม่น้ำ ลำคลอง การบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบ และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ขอให้จังหวัดสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ 6)ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบกับภัยธรรมชาติทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม ปัญหาการเผาตอซัง ปัญหาไฟป่า หมอกควัน ปัญหาสึนามิ และปัญหาตึกถล่ม เป็นต้น ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแลและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ภัยพิบัติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที 7)การพัฒนาชายแดนและความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้เน้นการดูแลศักยภาพของพื้นที่ทั้งในด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด เช่น อาคาร สถานที่ ตลอดจนการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนเพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดี มีการบูรณาการกับกองกำลังตามแนวชายแดนในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และพร้อมสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 รวมถึงการให้บริการด้านข้อมูลการค้าการลงทุนของศูนย์บริการ OSS 8)ด้านการอำนวยความเป็นธรรมผ่านกลไกศูนย์ดำรงธรรม ขอให้บริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถตอบสนองต่อความต้องการในด้านบริการประชาชน
             3. การติดตามความคืบหน้าและการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานในสังกัด เช่น การดำเนินงานตามพระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกฯ ซึ่งจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามสาระสำคัญของกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้มีการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร เช่น แนวทางการขยายขนาดท่อระบายน้ำ และการระบายน้ำในพื้นที่วิกฤต ความก้าวหน้าการดำเนินโครงการคลองลาดพร้าว คลองสอง และโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
              สุดท้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งผลักดันนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นนโยบายที่เป็นวาระแห่งชาติ โดยบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่ รวมทั้งกลไกของกระทรวงมหาดไทยทั้งท้องที่และท้องถิ่น เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผล ทั้งนี้ จะได้มีการติดตามและตรวจเยี่ยมในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชน และร่วมกันช่วยเหลือแก้ไขเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนและประเทศชาติ


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น