ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.นาฎศิลป์
ได้หลอกลวงว่าจะซื้อที่ดินจากผู้เสียหาย แต่อ้างว่าขณะนี้มีปัญหาด้านการเงิน
เนื่องจากยังไม่มีเงินไปเสียค่าธรรมเนียม 2 ล้านบาท เพื่อนำเงิน 50 ล้านบาท
ที่ถูกสถาบันการเงินอายัดไว้มาใช้เป็นซื้อที่ดินดังกล่าว
ทางผู้เสียหายหลงเชื่อจึงนำเงินที่ได้จากการรับจำนองที่ดิน 2 ล้านบาท มอบให้
น.ส.นาฎศิลป์ นำไปเสียค่าธรรมเนียมตามที่กล่าวอ้าง
โดยมีการตกลงกันว่าจะซื้อที่ดินจากผู้เสียหาย
ต่อมาเมื่อตกลงจะซื้อขายที่ดินกันแล้ว น.ส.นาฎศิลป์ ได้ออกเช็คสั่งจ่ายผู้เสียหาย
8 ล้านบาท พอถึงกำหนดทำสัญญาซื้อขายต่อกัน น.ส.นาฎศิลป์ กลับไม่มาทำสัญญา
เมื่อผู้เสียหายนำเช็คที่ได้รับมาไปขึ้นเงินกลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
(เช็คเด้ง) และไม่สามารถติดต่อกับ น.ส.นาฎศิลป์ ได้อีก จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงต้องสูญเงิน
2 ล้านบาท ไปให้ น.ส.นาฎศิลป์ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีเอาไว้
สอบสวนเบื้องต้น น.ส.นาฎศิลป์ ให้การปฏิเสธ
โดยอ้างว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด อย่างไรก็ดี
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า เคยถูกตำรวจ บก.ป.จับกุมตัวมาแล้วถึง 4 ครั้ง
ในคดีฉ้อโกง ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
แต่เนื่องจากคดีสามารถยอมความกันได้ ผู้ต้องหาจึงกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกหลายครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น