นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ได้สอบถามสถานการณ์คราบน้ำมันรั่วกระจายไปในหลายพื้นที่ จ.ระยอง
ห่างจากท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร
ผ่านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
รองนายกรัฐมนตรี (สร.3) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ด้วย
โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานช่วยกันขจัดคราบน้ำมันรั่ว บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ของ บริษัท พีทีที โกลบอล
เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ PTTGC ด้วยการเร่งดำเนินการให้ชัดเจนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าคราบน้ำมันกระจายในวงกว้างได้อย่างไร
ซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและติดตามข่าวสารการแก้ไขปัญหาของไทย
เพื่อดึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยกลับคืนมา
ฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรรอบพื้นที่ให้กลับคืนสภาพปกติ
และชดเชยเยียวยาให้กับประชาชนหรือผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
โดย PTTGC ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
เนื่องจากเป็นผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษตามกฎหมายระบุไว้ ทั้งนี้ PTTGC ได้ทำประกันความเสียหายท่อส่งน้ำมันกับบริษัทประกันภัยไว้ที่ 50 ล้านเหรียญฯที่เป็นค่าเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
โดยรัฐบาลจะทำหน้าที่ประสานงานให้เท่านั้นไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในครั้งนี้
เนื่องจากเป็นการสร้างมลพิษของภาคเอกชน จึงต้องรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดเอง
ขณะที่ บริษัท พีทีที
โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ PTTGC โดยนายอนนต์
สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที
โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือ PTTGC พร้อมรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการจ่ายเงินเยียวยาผลกระทบทุกด้าน
ซึ่งในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายเกิดจากการทำประกันความเสียหายท่อส่งน้ำมัน PTTGC
จะเป็นผู้ดำเนินการออกเองทั้งหมด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ PTTGC และเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานได้เข้ามาช่วยกันขจัดคราบน้ำมันให้สะอาดโดยเร็วที่สุด
คาดว่าจะใช้เวลาขจัดคราบน้ำมันบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ดภายใน 3 วัน และขจัดคราบน้ำมันทั้งหมดในทะเลและชายหาดให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ในส่วนการกระจายตัวของคราบน้ำมันในวงกว้างยังหาสาเหตุไม่ได้
เช่นเดียวกับการประเมินมูลค่าความเสียหายครั้งนี้ต้องรอหลังดำเนินการทุกอย่างแล้วเสร็จก่อน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น