pearleus

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562

บช.น. ระดมพลกวาดล้างยาเสพติดครั้งใหญ่ก่อนการเลือกตั้ง


เมื่อวันพุธที่ 20 มี.ค.62 เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. ร่วมแถลงข่าว การจับกุมผลระดมกวาดล้างยาเสพติดก่อนการเลือกตั้ง โดยมี พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. , ผู้แทน สปพ. , กก.ดส. , สน.ทุ่งสองห้อง , สน.ท่าข้าม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ณ ลานอเนกประสงค์ บช.น./  รายละเอียดดังต่อไปนี้
………………………………………………………………………..
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกก.ดส.ประกอบด้วย พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. , พ.ต.ท.ชยเดช ไคยฤทธิ์ รอง ผกก.ดส. , พ.ต.ท.เนติ  รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส.
ร่วมทำการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญผู้ต้องหา จำนวน  ๒ คน
โดยกล่าวหาว่า 
  มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

วัน/เวลา/สถานที่จับกุม 18 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 20.40 น. บริเวณกลางซอยรามอินทรา 46 ถ.รามอินทรา  แขวงรามอินทรา  เขตคันนายาว กรุงเทพ ฯ
พร้อมด้วยของกลาง
1 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ห่อหุ้มด้วยกระดาษสีเหลือง จำนวน 2 ห่อใหญ่ ซุกซ่อนอยู่ในถุงกระดาษภายในบรรจุยาบ้า รวมประมาณ 20,000 เม็ด , เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักรวมภาชนะบรรจุ หนักประมาณ 105 กรัม (ตรวจค้นเจอที่ผู้ต้องหา)
2 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า บรรจุอยู่ในห่อกระดาษสีเหลือง 5 ห่อใหญ่ ประมาณ 50,000 เม็ด , ยาบ้าที่บรรจุอยู่ในห่อกระดาษสีขาว จำนวน 9 ห่อ ประมาณ 18,000 เม็ด , ยาบ้าที่บรรจุห่อหุ้มด้วยฟรอย์ 5 ห่อ ประมาณ 10 ,000 เม็ด  จำนวนถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 8 ถุง ประมาณ 1,600 เม็ด , ยาบ้าที่บรรจุอยู่ในถุงสีดำ จำนวน 2 ถุง ประมาณ 400 เม็ด รวมยาบ้าประมาณ 80,000 เม็ด , เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักรวมภาชนะบรรจุ หนักประมาณ 81 กรัม
3 เครื่องชั่งอิเล็กทรอนิคส์ สีเงิน
4 โทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อ ซัมซุงสีแดง รุ่น เจ 6 พลัส พร้อมซิมการ์ดหมายเลข 09-8064-4166
5 โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ วีโว่สีแดง รุ่น วี 9 พร้อมซิมการ์ดหมายเลข 06-4360-4176    
พฤติการณ์ในการจับกุม
จากการสืบสวนขยายผลการจับกุม ยาเสพติดรายใหญ่ในเขตกรุงเทพมหานคร ก่อนหน้านี้ ทราบว่าผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มบางเขนเป็นผู้มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งจะจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในพื้นที่เขตคันนายาว , เขตบางเขน , และเขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา จะมีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ และทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีที่เก็บรักษายาเสพติดอยู่ย่านรามอินทราซอย 46 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเฝ้าสะกดรอยติดตามดูความเคลื่อนไหวจนกระทั้งรู้จุดเก็บรักษายาเสพติดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบ และทำการประชุมวางแผนเพื่อเข้าทำการจับกุม ต่อมาวันนี้ (18 มี.ค.62) เวลาประมาณ 20.40 น.พบ ผู้ต้องหาขับรถยนต์โตโยต้า วีออสสีแดง เข้ามาในซอยรามอินทรา 46 บริเวณกลางซอย จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทำการสกัดรถคันดังกล่าวจึงแสดงตัวขอตรวจค้นและเข้าจับกุมผู้ต้องหาพบยาบ้าจำนวน ประมาณ 20,000 เม็ด  และ ยาไอซ์ จำนวน 100 กรัม อยู่ในรถคันดังกล่าว จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่าเป็นของตนและยังมีซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพักเลขที่ 107 บริเวณชั้น 1 ของอพาร์ทเม้นในซอยดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องพักของตนจึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปตรวจค้นยังห้องพักดังกล่าวพบ ยาเสพติดยาบ้าประมาณ 80,000 เม็ด , ยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 80 กรัม  รวมยาเสพติดที่ตรวจยึดเป็นของกลางในการจับกุมครั้งนี้ ยาบ้า 100,000 เม็ด ยาไอซ์ 180 กรัม
……………………………………………………..
คดีที่ 1 “จับกุมพ่อค้าอาวุธปืนเถื่อนไทยประดิษฐ์ ผ่านทางโซเชียลออนไลน์
พฤติการณ์การจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ ได้ทำการติดต่อล่อซื้ออาวุธผ่านทางโซเซียลออนไลน์จนสามารถสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวนายเอ นามสมมติ ได้ที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งพร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จำนวน 11 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่เตรียมจัดส่งให้กับลูกค้า สอบถามนายเอ รับว่าเป็นผู้จำหน่ายอาวุธปืนให้กับลูกค้าผ่านทางโซเชียลออนไลน์จริง จึงตรวจยึดอาวุธปืนและจับกุมตัวดำเนินคดีต่อไป
ผู้ถูกจับกุม นายสุริยา มงคล อายุ 30 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1.อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 5 กระบอก                      4.โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง
2.อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 6 กระบอก                             5.สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม
3.กล่องพัสดุ จำนวน 11 กล่อง
            จับกุมในข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
สถานที่จับกุมบริเวณหน้าบริษัทรับส่งพัสดุแห่งหนึ่ง(ขอปกปิดสถานที่จับกุมเพื่อทำการขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป)
คดีที่ 2 “จับกุมอดีตนักโทษฉกรรจ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ย่านฝั่งธนบุรี
พฤติการณ์การจับกุม ด้วยเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 และชุดสืบสวนหาข่าว กก.สายตรวจ ได้รับแจ้งจากสายลับแจ้งว่า สามารถติดต่อซื้อขายยาเสพติดจำนวนมากได้จากชายไทยชื่อนายหน่อง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง อายุประมาณ 45 ปี และจัดส่งยาเสพติดกันย่านฝั่งธนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการติดต่อล่อซื้อยาเสพติดและนัดหมายส่งมอบ จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางยาเสพติดหลายรายการ และขยายผลตรวจยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดอีกเป็นจำนวนมากจากการซักถามผู้ต้องหาเคยต้องโทษคดียาเสพติด ลักทรัพย์ และพรากผู้เยาว์ โดยพ้นโทษมาเมื่อปี 2561 และได้มาก่อเหตุในครั้งนี้อีก
ผู้ถูกจับกุมนายชัยประดิษฐ หรือหน่อง แก้วกล้า นามสมมติ อายุ 44 ปี
ของกลางที่ทำการตรวจยึด
1.ยาบ้าจำนวนประมาณ 200,000 เม็ด                    3.ไอซ์ จำนวนประมาณ 1 กิโลกรัม
2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง             4.รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน
จับกุมในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย
สถานที่จับกุม ซอยไม่มีเลขที่ (กองขยะ) ใต้สะพานข้ามทางรถไฟ ถ.กาญจนาภิเษก (ทางกลับรถ) แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
รายการตรวจยึดทรัพย์สิน
1.            รถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น Jazz สีขาว หมายเลขทะเบียน 8กฎ 8322 กรุงเทพ มูลค่าประมาณ  600,000 บาท
2.            รถยนต์ยี่ห้อ BMW สีเทา หมายเลขทะเบียน ภน 2583 กทม. มูลค่าประมาณ 150,000 บาท
3.            จักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha รุ่น Mio หมายเลขทะเบียน ษบบ 144 กรุงเทพสีส้ม-ดำ มูลค่าประมาณ 10,000บาท
รวมมูลค่าประมาณ  760,000 บาท

คดีที่ 3“จับบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท คาคอนโดหรูย่านบางนา”
            เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 ได้ทำการเฝ้าสังเกตพฤติการณ์ผู้ต้องสงสัยซึ่งจำหน่ายน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบให้กับลูกค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และมีพฤติกรรมนำส่งให้กับลูกค้าผ่านระบบขนส่งไปรษณีย์ สาขาบางพลี จึงได้วางแผนทำการจับกุมตัว จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ จำนวน 2 คน ตรวจยึดน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ดำเนินคดีตามกฎหมาย
            ผู้ถูกจับกุม
1.นายทศยุทธ ศะตะมาน อายุ 32 ปี                  2.นางสาวลลนา แสนแปลง อายุ 23 ปี
ของกลางที่ทำการตรวจยึด
1.ตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า  จำนวน 31 เครื่อง                                 4.เครื่องชาร์ตถ่าน                    จำนวน 42 เครื่อง
2.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า                    จำนวน 4,746 ขวด                  5.ชุดแบตเตอรี่บุหรี่ไฟฟ้า        จำนวน 218 กล่อง
3.ชุดอะตอม(หัวดูด)    จำนวน 51 หัว
โดยแจ้งกล่าวหาว่า      ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร
สถานที่ตรวจค้น/จับกุม ห้องพักเลขที่ 79/232 ชั้น 9 คอนโดเอสเปซมี ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
คดีที่ 4 “จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ1,500,000 เม็ด
            ด้วยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 3 ได้ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ พบรถตู้ต้องสงสัยได้พยายามตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวได้พยายามหลบหนีและทิ้งรถไว้ ตรวจสอบพบยาบ้าภายในรถคันดังกล่าวจำนวนประมาณ 1.5 ล้านเม็ด จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถจับกุมตัวนายฐิติรัตน์ มาลัยทอง ได้ และสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ได้จำนวน 3 คน ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และได้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนสามารถจับกุมตัว นายวีระพงษ์ คงใหญ่ และนายพงศกร แดงสุก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้นได้ขณะหลบหนีมากบดานบวชอยู่ที่วัดชื่อดังแห่งย่านฝั่งธนบุรี นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้ถูกจับกุม
1.นายฐิติรัตน์ มาลัยทอง อายุ 24 ปี                 
2.นายวีระพงษ์ คงใหญ่ อายุ 23 ปี ตามหมายจับเลขที่ 113/2562  จับกุมได้
3.นางพงศกร แดงสุก อายุ 23 ปี ตามหมายจับเลขที่ 114/2562 จับกุมได้
4.นายอุกฤษ ปรางเปรมปรี อายุ 24 ปี ตามหมายจับเลขที่ 115/2562 หลบหนี
    จับกุมในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
สถานที่จับกุมวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ถ.เพชรเกษม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร       
คดีที่ 5 “สืบสวนจับกุมพ่อค้ายาเสพติด ย่านหนองจอก
พฤติการณ์การจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีผู้ต้องสงสัยมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าย่านเขตหนองจอก จึงได้เฝ้าสังเกตพฤติการณ์จนทราบว่าคนร้ายนำยาเสพติดมากซุกซ่อนอยู่ที่หมู่บ้านชื่อดังย่านหนองจอก จึงได้ขออนุมัติหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นภายในบ้าน พบของกลางยาเสพติดและอาวุธปืน และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินซึ่งได้มาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีกจำนวนหลายรายการ นำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้ถูกจับกุม
1. นายอิทธิเทพ หรอเอิ๊ก สร้อยนาค   2. นางสาววรลักษณ์ หรือเบียร์ นทีมาศ
พร้อมด้วยของกลาง
1. ยาบ้า จำนวน ประมาณ 30,000 เม็ด
2. ไอซ์ จำนวนประมาณ 7 ขีด
3. อาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก
จับกุมในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
รายการตรวจยึดทรัพย์สิน
1. เงินสด 38,500 บาท                                   4. รถ จยย. 3 คัน
2. นาฬิกาข้อมือ 14 เรือน                   5. รถยนต์ 2 คัน
3. สร้อยคอทองคำ 1 เส้น                   6. บัญชีธนาคาร 3 เล่ม
สถานที่จับกุม หมู่บ้านเพ็ญศิริ 4 บ้านเลขที่ 87/89 หมู่ที่ 3 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
……………………………………………………
เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.ปิติพล พรหมแก้ว สว.สส.สน.ท่าข้าม,พ.ต.ต.วรัษฐา     วุฑฒิรักษ์ สว.สส.สน.ท่าข้าม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม

ได้ร่วมกันจับกุมตัว
             นายขจรลาภ หรือเบิด เปรมรุ่งเจตน์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 111/136 ซอยบางกระดี่ 25       แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เลขประจำตัวประชาชน 3-1018-00233-76-4
ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 
พร้อมด้วยของกลางคือ
ยาบ้า จำนวน 2 กล่อง ประมาณ 400,000 เม็ด ยึดจากสถานที่เกิดเหตุ
ได้ทำการยึดทรัพย์
1.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 6 สีขาว ราคาประมาณ 10,000 บาท พร้อมหมายเลข 095-807-6692
2.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อหัวเว่ย สี พร้อมหมายเลข 093-917-9091
3.รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น Avanza สีบรอน ทะเบียน ชบ 7195 กทม
4.สร้อยคอลักษณะคล้ายทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง
5.แหวนลักษณะคล้ายทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง
6.บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสพระรามสอง เลขบัญชี 0388-555-629

พฤติการณ์แห่งคดีกล่าวคือ  เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ก่อนเวลาจับกุมตัวผู้ต้องหานี้            เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ(ขอปิดนามเพื่อความปลอดภัย) เพื่อประสงค์เงินรางวัลนำจับว่า มีนายขจรลาภ หรือเบิด ผอมสูงผิวดำแดง ขับรถยนต์โตโยต้า Avanza ทะเบียน 7195 กทม. พักอาศัยอยู่ที่เบนเพลส เรสซิเดนซ์ ซอยเทียนทะเล 16 มีพฤติการณ์เป็นผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับบุคคลทั่วไปและซุกซ่อนยาเสพติดจำนวนหลายมัดไว้ภายในห้องพัก เนื่องจากหากเนิ่นช้า ยาเสพติด อาจถูกซุกซ่อน เคลื่อนย้าย หรือถูกทำลายไปก่อน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมได้รีบรุดเดินทางไปบริเวณดังกล่าวข้างต้น พ.ต.ต.ปิติพลฯ จึงสั่งให้ ร.ต.ท.เจษฎาฯ พร้อมกำลังเฝ้าบริเวณใกล้เคียงรถยนต์คันดังกล่าว เมื่อนายขจรลาภ หรือเบิด เดินมาที่รถยนต์คันดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนโดยการแสดงบัตรตำรวจและแสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หมายเลขประจำตัว 603721 อาศัยอำนาจตามมาตรา 14(1) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2545 สอบถามนายเบิดให้การว่าตนเองชื่อ นายขจรลาภ เปรมรุ่งเจตน์ อายุ 38 ปี (ทราบชื่อสกุลภายหลัง) ยอมรับว่าตนเองเสพยาบ้ามาแล้วสดๆ จริงและสมัครใจรับสารภาพว่าภายในห้องพักยังมียาบ้าซุกซ่อนอยู่และสมัครใจนำพาตรวจค้นภายในห้องพักหมายเลข 709 ชั้น 7 เบนเพลส เรสซิเดนซ์ พบ ของกลางลำดับที่ 1,2 จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง จากการสอบถามนายขจรลาภฯ ให้การว่า นายเล็ก สัญชาติพม่า ได้สั่งการทางโทรศัพท์ให้ไปรับยาบ้าบริเวณตลาดไท จ.ปทุมธานี บริเวณจุดนัดพบจะมีคนนำยาบ้ามาให้แล้วตนเองนำมาเก็บยาบ้าไว้ในห้องพักดังกล่าวโดยได้รับค่าจ้างประมาณ 100,000 บาท จึงแจ้งให้นายขจรลาภฯ ทราบว่าต้องถูกจับกุมในความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สถานที่เกิดเหตุ บริเวณห้องหมายเลข 709 ชั้น 7 เบนเพลส เรสซิเดนซ์ ซอยพระรามที่ 2 ซอย 69 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

            ชั้นจับกุม  ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 
           โดยรับสารภาพว่า นายเล็ก สัญชาติพม่า ได้สั่งการทางโทรศัพท์ให้ไปรับยาบ้าบริเวณตลาดไท        จ.ปทุมธานี บริเวณจุดนัดพบจะมีคนนำยาบ้ามาให้ แล้วตนเองนำยาบ้ามาเก็บไว้ในห้องพักดังกล่าวโดยได้รับค่าจ้างประมาณ 100,000 บาท

………………………………..
กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ,พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน รอง ผบก.น.2,พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย  ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง  พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ รอง ผกก.สส.ฯ,พ.ต.ท.วัชรพล สุวนันทวงศ์ รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.เฉลิม เขื่อนเพชร สวป. พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ ร้องเกาะเกิด สว.สส.ฯ,ร.ต.อ.รุ่งเรือง แสนโคตร รอง สวป.ร.ต.อ.ชวลิต  ทองชาติ รอง สว.สส.,ร.ต.ท.กร เกื้อไข่ รอง สว.สส.ร.ต.ท.เดชดำรงศ์ ทองก้อน รอง สว.(สอบสวน)ด.ต.บุญธรรม สุขมา,ด.ต.ปฐพี นิยะกิจ ผบ.หมู่ป.กับพวก
ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว
๑.นาย คมศร  แตงศรีนวล  อายุ  28 ปี หมายเลขประจำตัวประชาชน 1-1020-01442-33-2 ผู้ต้องหา  ที่อยู่บ้านเลขที่ 84/4 หมู่ 3 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
2.นาย วรัณ  สุขกิจ อายุ 31 ปี หมายเลขประจำตัวประชาชน 1-7004-00105-32-4  ที่อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่13 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่งแบน จังหวัดสมุทรสาคร
พร้อมด้วยของกลาง
๑.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จำนวน 240,000 เม็ด
๒.รถยนต์ ฮอนด้า รุ่นซีวิค สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กพ 8395 เชียงราย
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในความครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายฯ”
วัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ วันที่  18  มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 23.50 นาฬิกา หน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถนนงามวงศ์วาน  แขวงลาดยาว   เขตจตุจักร  กรุงเทพมหานคร
สถานที่จับกุม หน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถนนงามวงศ์วาน  แขวงลาดยาว เขตจตุจักร  กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์แห่งคดี  ตามวันเวลาเกิดเหตุ มีเหตุรถชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกการจราจร ได้สังเกตเห็นว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีลักษณะคล้ายคนเมายาเสพติด จึงได้ขอตรวจค้นภายในรถยนต์
จากการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า)จำนวน 240,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกล่องสีเขียวท้าย         รถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาไปรับยาเสพติดมาจากบริเวณหน้าสถานีบริการแก๊สLPG ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และจะนำไปเก็บพักไว้ที่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 13 ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรอให้ผู้สั่งการบอกจุดที่จะนำยาเสพติดไปส่งที่หมายต่อไป










0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น