คนกล้าคนเก่ง ‘จ่าโต้ง’ อนันตณัฏฐ์ ม่วงเผือก คนเด่น คนเก่ง แห่ง ต.นาดี

คนกล้าคนเก่ง

‘จ่าโต้ง’ อนันตณัฏฐ์ ม่วงเผือก 

คนเด่น คนเก่ง แห่ง ต.นาดี

            ว่ากันถึงวงการทำเครื่องเบญจรงค์ในประเทศไทยแล้ว ถ้าไม่เอ่ยถึงจ่าโต้ง เจ้าของศูนย์ฝึกวิชาชีพเครื่องเบญจรงค์ ต.นาดี แล้ว ย่อมจะไม่สมบูรณ์ด้วยประการทั้งปวง

            พูดถึงจ่าโต้ง ทุกคนรู้ดีถึงทักษะ ความรอบรู้รอบด้านในศาสตร์ของการทำเครื่องเบญจรงค์ ฝีมือนั้นไม่ต้องพูดถึง การันตีได้จากผลงานเครื่องเบญจรงค์จากรังสรรค์ของทีมงานจ่าโต้งที่ ได้เข้าไปตั้งโชว์อยู่ในรั้วในวังทั้งในและต่างประเทศมากมาย

            คนกล้าคนเก่งฉบับนี้  ขอกลับมาติดตามความเคลื่อนไหวของจ่าโต้งแห่งต.นาดี สมุทรสาครกันอีกครั้ง แต่ละก้าวย่างขณะนี้และต่อไปจากนี้มี จ่าโต้งจะ  ‘ปล่อยของ’ อะไร อีกบ้างที่จะเข้ามารังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นใน ต.นาดี แห่งนี้ เชิญติดตามกันได้ ณ บัดนี้

……………………………..

จ่าโต้งช่วยเล่าประวัติชีวิตแต่พอสังเขปให้ฟังหน่อยครับ

            ผมเกิดที่ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร อาศัยอยู่วัดสุวรรณารัตนาราม ตั้งแต่เล็ก จนถึงอายุ 20 ปี และก็บวชที่วัดนี้ ต่อมาได้ลาลึกออกมาสอบเข้ารับราชการทหารเรือ ทำอยู่ 7 ปี พอมีครอบครัว ก็เริ่มหันเหมาทำเครื่องเบญจรงค์กับภรรยา ฝึกทำจนชำนาญ จนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั่วไป  

ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ ว่าเข้ามาอยู่ในวงการเบญจรงค์ได้อย่างไร

            ก่อนที่ผมจะเข้ามาในวงการนี้  ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐาน ผมเรียนช่างศิลป์มา ในระหว่างรับราชการทหารนั้น พอออกเวร ก็มาเป็นลูกจ้างเขียนลายเครื่องเบญจรงค์ที่อ.กระทุ่มแบน  พอฝีไม้ลายมือเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็ตัดสินใจลาออกมาประกอบอาชีพเป็นของตนเอง  ธุรกิจเครื่องเบญจรงค์ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนมาตั้งศูนย์ฝึกทำเครื่องเบญจรงค์ที่นาดี  มีแขกทั้งในและต่างประเทศ มาเยี่ยมชมที่ศูนย์แห่งนี้เป็นจำนวนมาก  เอกลักษณ์งานเบญจรงค์ของเรา คือ เป็นทองลงยา  ซึ่งต่างจากที่อื่นทั้งเทคนิคและคุณภาพ ทำให้ลูกค้าถูกในผลงาน

ทราบว่านอกเหนือจากทำเครื่องเบญจรงค์แล้ว ทราบว่าทางจ่าโต้งยังได้ตั้งศูนย์ฝึกอบรมการเขียนลายด้วย อยากให้เล่าให้ฟังหน่อยครับ

            คือไอเดียในการตั้งศูนย์นั้น เริ่มมาจากแต่ก่อน ผมได้เป็นวิทยาทานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานด้วย ซึ่งก็ต้องตระเวนไปให้ความรู้เรื่องเครื่องเบญจรงค์ในที่ต่าง ๆ โดยไม่คิดค่าตอบแทน จนต่อมาคุณพ่อก็ให้ที่ดินมาตั้งศูนย์สาธิตและเผยแพร่เครื่องเบญจรงค์ ก็สอนกลุ่มแม่บ้านในระแวกต.นาดี

ทุกวันนี้ธุรกิจทำเครื่องเบญจรงค์ เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน

            ผมเปรียบอย่างนี้ครับ เมื่อสมัยก่อน ต้นทุนถูกขายแพง แต่สมัยนี้ต้นทุนแพงกลับต้องขายถูก เพราะหัวใจสำคัญของการทำเครื่องเบญจรงค์ของที่นี้คือ น้ำทองคำประสาน ก็คือ ทองคำที่เราใส่กันนั่นแหละครับ ซึ่งขึ้นตามราคาทอง แต่เครื่องเบญจรงค์ที่ผลิตมาขึ้นราคาตามนั่นไม่ได้ กำไรก็ไม่ค่อยมากแล้ว แต่ไม่อยากคิดอะไรมาก คิดว่าให้มีงานทำพออยู่ได้ เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงกลุ่มชุมชนของเรา

นอกเหนือจากทำธุรกิจเครื่องเบญจรงค์แล้ว ทราบว่าจ่าโต้งเคยเข้าไปทำงานการเมืองท้องถิ่นด้วย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับว่าทำไมถึงสนใจงานการเมือง

            ผมเคยไปเป็นทำงานเป็นกรรมการบริหารอบต.แครายอยู่  1 สมัย แต่เห็นว่าพื้นที่ที่เราทำงานไม่สอดคล้องกัน เลยตัดสินใจกลับมาทำงานการเมืองที่ต.นาดี  ได้มาดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.นาดี 2 สมัย รับผิดชอบงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงงานป้องกันภัยสาธารณะ

ถ้าเปรียบเทียบพื้นที่ต.แครายกับต.นาดี ที่เคยทำงานมา มีลักษณะแตกต่างในเชิงการบริหารอย่างไรบ้าง

            แตกต่างอย่างมาก ต.นาดีมี 9 หมู่  ส่วนแครายมีอยู่ 5 หมู่ แสดงให้เห็นว่านาดีในใหญ่มาก ต้องใช้การบริหารจัดการที่ค่อนข้างมาก เพราะมีโรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก  ผิดจากเมื่อก่อนที่มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างมาก มีที่นาเยอะมีความอุดมสมบูรณ์ จนได้รับชื่อเรียกว่า นาดี  แต่ปัจจุบันสภาพแวดล้อมเป็นเมืองอุตสาหกรรมไปแล้ว  

ดังนั้น ถ้าจะบริหารเมืองที่กลายเป็นอุตสาหกรรมแล้ว ควรต้องทำอย่างไรบ้างครับ

            ในมุมมองของผมนั้น เราต้องดูแลเรื่องสาธารณูปโภค ต้องดูแลเรื่องคูคลองต่าง ๆ การดูแลป้องกันเรื่องอัคคีภัย เรื่องขยะ ความสะอาดต่างๆ  ซึ่งต้องสร้างจิตสำนึกกับผู้ประกอบการ ในการบริหารจัดการตัวเอง ไม่ใช่มาอาศัยพึ่งพาภาครัฐแต่เพียงอย่างเดียว ต้องบริหารจัดการภายในก่อน แยกขยะเปียกกับขยะแห้ง ก่อนนำมาสู่สาธารณะ

            ส่วนการบริหารจัดการขยะของภาครัฐนั้น มีรูปแบบการบริหารจัดการอยู่แล้ว แต่ต้องเพิ่มความเข้มข้น ช่วงวันธรรมดาเก็บอย่างไร ช่วงวันหยุด ช่วงเทศกาลต้องเพิ่มความถี่มากขึ้นอย่างไร ไม่ให้เกิดการสะสมขึ้นมา

จ่าโต้งมองเรื่องการบริหารจัดการอัคคีภัยในต.นาดีอย่างไรบ้าง ในฐานะที่เป็นตำบลที่มีโรงงานมาก และเกิดอัคคีภัยบ่อย

            เรื่องนี้ตอนที่ผมเป็นรองนายกเทศมนตรีนาดี ผมมีหน้าที่ดูแลเรื่องการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยตรง ผมจัดให้มีการฝึกอบรมผู้ประกอบการโรงงาน ให้ส่งพนักงานหรือตัวแทนมาฝึก ถ้าไม่ส่งมา ผมก็จัดทีมงานเข้าไปฝึกถึงโรงงาน ให้รู้จักการใช้อุปกรณ์ดับเพลิง ให้รู้จักวิธีการเข้าจัดการกับเพลิงในลักษณะต่าง ๆ

            ทุกปีผมจะจัดให้มีการทบทวนการฝึก การทำงานกับเจ้าหน้าที่ทุกคนในหน่วยดับเพลิง ให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ร่างกายต้องฟิตอยู่ตลอด

เรื่องอุปกรณ์ดับเพลิง  รวมถึงสมรรถนะของรถดับเพลิง ให้ความสำคัญอย่างไรบ้าง

            เรื่องรถ และอุปกรณ์ดับเพลิง รวมทั้งเทคโนโลยีต่าง ๆ นั้น เราต้องมีความพร้อมใช้งาน ตอนนี้ผมดำรงตำแหน่ง ผมเข้าตรวจอยู่ตลอดเวลา ยางเป็นอย่างไร น้ำมันพอมั้ย น้ำ คนพร้อมมั้ย ผมถือคติว่า งานคืองาน เล่นคือเล่น  ทุกคนที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาจะรักผมมาก เพราะผมทำงานชัดเจน ฝึกซ้อม  ทำงาน คือต้องทำงานจริงจัง

            ต้องยอมรับว่าปัจจุบันรถดับเพลิงของต.นาดีไม่พอใช้ เมื่อเทียบกับพื้นที่ที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ ต้องจัดซื้อหาเข้ามาเสริมกำลัง ตอนที่ผมทำงานนั้น เทศบาลต.นาดีมีพื้นที่ 2 เขต ให้ผมทำแผนไว้ก่อนที่จะหมดวาระให้มีรถดับเพลิงเขตละ 2 คัน  แต่ปัจจุบันยังต.นาดีเจริญเติบโตเร็วมาก รถไม่พอใช้ ประกอบกับขาดผู้บริหาร จึงเป็นปัญหาเรื่องงบประมาณ และการบริหารจัดการปัญหาต่าง ๆ ให้กับพี่น้องประชาชน

            ผมยังเสียดายมากที่เหตุเพลิงไหม้ที่ต่าง ๆในต.นาดี แต่เราไม่สามารถเข้าไปจัดการตรงนั้นได้ เพราะไม่มีรถดับเพลิง ต้องเอาที่อื่นมาช่วย การทำงานของตำบลนี้จึงลำบากเพราะไม่มีผู้บริหารงาน

ทราบว่านอกเหนือจากการทำธุรกิจเครื่องเบญจรงค์แล้ว ยังมีความสนใจด้านการค้าอสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจที่ดินด้วย

            ใช่ครับ ซื้อขายที่ดิน ซื้อมาขายไป เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างด้วย ก็มีพรรคพวกที่เล่นกอล์ฟอยู่ด้วยกัน ทำธุรกิจซื้อขายที่เหมือนกัน เจรจาธุรกิจก็ทำในสนามกอล์ฟนั่นแหละครับ  ได้ทั้งออกกำลังกายด้วย ได้งานด้วย  ธุรกิจตรงนี้ต้องมีความซื่อสัตย์อย่างมาก ซึ่งก่อนที่จะซื่อสัตย์กับคนอื่น เราต้องซื่อสัตย์กับตนเองก่อนเป็นอันดับแรก

จ่าโต้งชอบตีกอล์ฟด้วยหรือครับ กีฬาชนิดนี้มีเสน่ห์อย่างไรถึงชอบเล่น

            กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่นักธุรกิจระดับสูงเขาเล่นกัน  เป็นกีฬาของนักบริหารที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ตีกอล์ฟด้วยคุยธุรกิจด้วย ซื้อขายที่ดินก็ในสนามกอล์ฟนี้แหละ ผมเล่นกีฬานี้เพราะเป็นกีฬาที่ทำให้เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความเป็นสุภาพบุรุษมาก เช่น เมื่อไดร์ฟออกไปแล้ว ลูกไม่อยู่ในแฟร์เวย์ ลูกไปตกแอ่ง เพื่อนไม่รู้ พอเราไปถึงเราไปเขี่ยลูกขึ้นมาแสดงว่าเราโกหกตัวเองแล้ว  ความซื่อสัตย์ไม่มีต่อเพื่อนฝูงแล้ว อันนี้คือลักษณะง่าย ๆ ยังมีอีกเยอะ ที่สามารถบ่งบอกถึงจิตใจของคนในสนามกอล์ฟได้  รวมถึงการควบคุมอารมณ์ การคิด การวางแผนต่าง ๆ ต้องตีอย่างไร ต้องใช้สมองด้วย ไม่ได้ใช้กำลังอย่างเดียว  กีฬานี้พัฒนาคนได้  

ทำงานจนประสบความสำเร็จระดับนี้  เคยได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติอะไรบ้างครับ

เคยได้รับครับ ยกตัวอย่างเช่น ปี 40 ผมได้รับคนดีศรีสาคร  ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย ทำเครื่องราชให้กับเจ้าชายสุลต่านบรูไน  , ปี 46 ได้รับรางวัล ผู้ประกอบคุณงามความดีบำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม , ปี 47 - 48 รางวัลบุคคลอาชีพดีเด่น , ปี 49 รางวัลผู้นำองค์กรเครือข่ายพัฒนาชุมชนดีเด่น , ปี 50 รางวัลครัวเรือนตัวอย่างที่น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิตจนประสบความสำเร็จ

คิดว่าอะไรที่ทำให้จ่าโต้งประสบความสำเร็จจนถึงเดี๋ยวนี้

            ผมเชื่อว่าเกิดจาก การเป็นคนคิดดี ทำดี สิ่งที่จะตามมาก็คือ ความดีของเราที่ตอบสนองต่อสาธารณชนทั่วไปได้ รวมถึงเอามาใช้ในชีวิตประจำวันในครอบครัวได้  สามารถบริหารจัดการในครอบครัวได้

………………………………………

ศูนย์ฝึกวิชาชีพเครื่องเบญจรงค์ ต.นาดี (รุ้งทองเบญจรงค์)  …..

034 - 496262 ,  093 – 3614495

www.siambenjarong.com

Posted in: