นายสุรเดช อัคราช
ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า
สืบเนื่องจากสำนักงานทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร(สนง.ทสจ.มห.)
ได้รับแจ้งจากราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561ว่ามีนายทุนทั้งในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารและนอกพื้นที่ได้ทำการบุกรุกถือศรองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ
โดยการซื้อที่ดินจากราษฎรในพื้นที่และได้ปลูกยางพารา และพืชเกษตรมาเป็นเวลานานกว่า
10 ปี
จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมกับราษฎรอาสาสมัครที่ทักษ์บ้า (รสทป.)
เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห. 4 (คำอาฮวน)
เพื่อร่วมกันตรวจสอบพื้นที่
จากการตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้นพบว่า มีการบุกรุก 12 แปลง เนื้อที่ประมาณ
3,700 ไร่ และมีการบุกรุกพื้นที่ป่าตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติปาไม้ พุทธศักราช 2484 ท้องที่อำเภอเมืองมุกดาหาร
จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ ประมาณ 32 ไร่ 3 งาน 92 ตารางวา
เพื่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวในชื่อ ไร่ภาสทอง โดยมีการจัดเก็บค่าบริการต่อนักท่องเที่ยวที่เข้าชมภายในพื้นที่
ซึ่งเป็นการนำพื้นที่ป่าตามมาตรา 4 แห่ง พระราชบัญญัติป่าไม้
พุทธศักราช 2484 อันเป็นทรัพย์สมบัติของชาติมาสร้างรายได้ให้กับตนเอง
เมื่อ12
กุมภาพันธ์ 2563 สนง.ทสจ.มห. ได้มีหนังสือ ถึง
ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร ขอให้ดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะทำงานฯ
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 มอบหมายให้ศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร
ดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีไร่ภาสทองบุกรุกป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ท้องที่อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร
ให้ทำหนังสือถึงผู้ครอบครองหรือเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ให้แสดงหลักฐานการได้มาหรือการครอบครองเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าบริเวนดังกล่าว
ภายใน 7 วัน ซึ่ง ขณะพ้นกำหนดระยะเวลาแล้ว
เจ้าหน้าที่จะได้เข้าตำเนินการพิสูจน์ ตรวจยึดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงบังอี่
แปลงที่ 2 ที่ถูกนายทุนบุกรุกต่อไป
อนึ่ง ไร่ภาสทองจัดเป็นแลนด์มาร์คและแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของเอกชนที่หรูที่สุดของจังหวัดมุกดาหาร
มีมูลค่าหลายสิบล้านบาท ตั้งอยู่ที่ บ้านดงมัน ถนนชยางกูร ตำบลคำอาฮวน
อำเภอเมืองมุกดาหาร ภายในมีสิ่งปลูกสร้างโดดเด่นหลายอย่าง อาทิ กังหันลมขนาดใหญ่
หอไอเฟลจำลอง ตกแต่งบรรยากาศเป็นทุ่งดอกไม้นานาชนิด อาทิ ดอกทานตะวัน
ดอกเสี้ยนฝรั่ง ดอกดาวกระจาย และดอกบลูซัลเวีย นอกจากนั้นมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์จำพวก
แกะ กวาง ม้า นก และปลา มี Phattong Cafe’ บริการอาหาร
เครื่องดื่มและจำหน่ายของที่ระลึก รวมถึงผลผลิตทางเกษตร ให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย
โดยเก็บเงินค่าเข้าชมในราคาผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
อภิชาติ สายชมภู/รายงาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น