เมื่อวันที่
29 มิถุนายน 2563เวลา 14.00 น. นายประยูร รัตนเสนีย์
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและคณะ
ได้เดินทางมาติดตามการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน และสิ่งแวดล้อม
ที่ศูนย์การเรียนรู้การคัดแยกขยะของบริษัท ฤตธนารียูส จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 42
หมู่ที่ 8 ต.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้วโดย มีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
พร้อมด้วยนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายสุรศักดิ์
ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอบ้านแพ้ว, นายภัฏ (บอย) สุริวงษ์ ผู้บริหารงาน บริษัท ฤตธนารียูส จำกัด
ท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสาคร,นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร,นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่อำเภอบ้านแพ้วและอปท.ใกล้เคียงที่รวมกลุ่ม
( CLUSTER ) เพื่อการบริหารจัดการขยะมูลฝอย กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้รับฟังแนวคิดและการบริหารจัดการของนายภัฏ
(บอย) สุริวงษ์ ผู้บริหารงาน บริษัท ฤตธนารียูส จำกัดพร้อม เยี่ยมชมการบำบัดน้ำเสียด้วยบ่อบำบัดธรรมชาติทั้ง
12 บ่อ ซึ่งก็เริ่มจากบ่อกรองถ่านที่สร้างเป็นบ่อปูน
เพื่อรองรับน้ำเสียจากบ่อพักน้ำเสียของโรงงานคัดแยกขยะ ไม่ให้ไหลออกไปสู่ชุมชน
จากนั้นน้ำที่ผ่านการกรองก็จะไหลลงสู่บ่อผักตบชวาบ่อปลา
ผ่านไปยังบ่อบัวและสวนมะพร้าว ซึ่งจากบ่อแรกจนถึงบ่อสุดท้ายนั้น
ทำให้เห็นได้ว่าธรรมชาติสามารถบำบัดน้ำเสียได้
ถ้ารู้จักวิธีการที่เหมาะสมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม “ของเสียก็จะไม่เสียของ” โดยพื้นที่
รอบๆยังมีการเลี้ยงสัตว์ที่จะสามารถนำมูลสัตว์มาเอื้อประโยชน์ต่อการจัดการน้ำเสีย
เช่น แพะ แกะ ควาย หมูหลุม ไก่ และกระต่าย เป็นต้น
ด้านอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้กล่าวชมถึงการบริหารจัดการของบริษัท
ฤตธนารียูส จำกัดและอยากให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการธรรมชาติตามคำสอนของในหลวงรัชกาลที่
9 พร้อมอนุญาตให้ใช้สถานที่ฝึกอบรมให้ความรู้
โดยเฉพาะการจัดการขยะชุมชนด้วยวิธีการทางธรรมชาติ
ภายใต้แนวคิด “ก้าวตามพ่อ การบริหารจัดการขยะแบบพอเพียง
เรียบง่าย ประหยัด คุ้มค่า อยู่ร่วมกับชุมชน” ซึ่งที่ศูนย์ฯ
แห่งนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนทัศนคติของประชาชนที่มองว่าขยะเป็นสิ่งสกปรกอันตรายนั้น
สามารถจัดการได้อย่างปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น