เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.63 นายชรัส บุญณสะ
ผวจ.สมุทรสงคราม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ลงพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา
เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้เกิดมวลน้ำเสียไหลมาจากคลองปากท่อคลองวันดาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ไหลลงสู่คลองวัดประดู่ผ่าน
ต.วัดประดู่ ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา
ทำให้สัตว์น้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อปลาสลิดที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ตายเป็นจำนวนมาก
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา
สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่อยู่ในต.แพรกหนามแดง และต.วัดประดู่เกือบทั้งหมด
ซึ่งปัญหาดังกล่าวหากไม่ได้รับการแก้ไขจะทำให้ชาวบ้านไม่มีรายได้มาเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว
และเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงได้นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโดยมีสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่
8 จังหวัดราชบุรีร่วมเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบด้วย
ซึ่งพบว่าน้ำในลำคลองมีกลิ่นเหม็นและมีสีดำ
นายชรัส บุญณสะ ผวจ.สมุทรสงคราม
กล่าวว่า ต.แพรกหนามแดงมีผู้เลี้ยงปลาสลิดประมาณ 250 ราย รวมพื้นที่ประมาณ 4,000 ไร่
จากการตรวจสอบพบว่าสภาพน้ำในคลองวัดประดู่มีสีดำและมีกลิ่นเหม็น ส่วนแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นนั้นจะมีการบำบัดน้ำด้วยการใช้อีเอ็มบอลชนิดน้ำ
พร้อมตั้งเครื่องเติมอากาศเพิ่มซึ่งขณะนี้ทางวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงครามจะเร่งดำเนินการ
พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจเพื่อดูว่ามีการปนเปื้อนสารเคมีใดบ้าง
อย่างไรก็ตามปัญหาน้ำเน่าเสียคลองวัดประดู่
จังหวัดสมุทรสงครามและภาคประชาชนได้ร่วมกันดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ติดตั้งเครื่องเติมอากาศ ดูดตะกอนเลน จัดเก็บผักตบชวาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อลดความเน่าเสียของน้ำ แต่ปัญหาที่พบคือจังหวัดสมุทรสงคราม
ไม่สามารถควบคุมแหล่งกำเนิดน้ำเน่าเสียได้ ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความยากลำบากดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา
โดยจังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ปัญหาเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงปลาสลิดแล้ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น