pearleus

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

“บิ๊กฉัตร” เร่งล้างบาง เรือผี ให้หมดจากประเทศ ประเดิมที่ จ.สมุทรสาคร


บิ๊กฉัตรเร่งล้างบาง เรือผี ให้หมดจากประเทศ ประเดิมที่ จ.สมุทรสาคร สั่งประกาศตามหาเจ้าของเรือประมงจอดทิ้งไว้ให้มาแสดงตัวตนภายใน 7 วันก่อนขายทอดตลาด 
 
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.61 เวลา 13.30 น. พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามมาตรการควบคุมกองเรือประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยเสนาธิการทหารเรือ อธิบดีกรมเจ้าท่า อธิบดีกรมประมง โดยมีนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ พบว่าตลอดเส้นทางการลงเรือตรวจการณ์ตั้งแต่ท่าเรือรับลม คลองมหาชัย แม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีเรือประมงและเรือที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงตลอดเส้นทางเป็นเรือที่ถูกควบคุมมิให้ออกจากท่าเทียบเรือ เนื่องจากไม่มีทะเบียนเรือ ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง รวมถึงอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเรือดังกล่าวที่ถูกล็อคไม่ให้ออกจากท่าเป็นเรือประมงจำนวน 134 ลำ ซึ่งจอดอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนเป็นเรือที่ไม่มีชื่อเรือ ไม่มีทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือหมดอายุ รวมถึงอยู่ระหว่างการต่อและบางลำจมน้ำ ดังนั้น จึงได้สั่งการกรมเจ้าท่าติดประกาศที่เรือหรือท่าเทียบเรือให้เจ้าของเรือมาแสดงตัวภายใน 7 วัน หากไม่มีผู้มาแสดงตัว กรมเจ้าท่าจะดำเนินการนำไปขายทอดตลาดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย และจะให้ดำเนินการเช่นเดียวกันทุกจังหวัดชายทะเล 22 จังหวัดซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการกำจัดเรือจม ซากเรือต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้องและผิดกฏหมายให้หมดสิ้นไป
การมาติดตามมาตรการควบคุมและบริหารจัดการกองเรือประมงครั้งนี้เนื่องจากได้มีการปรับปรุงระบบการทำงานภายในกรมเจ้าท่าเกี่ยวกับการควบคุมเรือประมงทั้งหมด ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทุกระดับทั้งกรมส่วนกลางและสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ เพราะระบบการทำงานใหม่นี้กรมเจ้าท่าจะต้องเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทันเวลาในทุกสถานการณ์ เพื่อสามารถบริหารจัดการควบคุมเรือไร้สัญชาติ เรือที่ไม่มีที่มาที่ไป และเรือที่ปฏิบัติผิดกฎหมาย เรือคดีต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนไม่ให้ออกไปทำการประมงหรือกลับเข้ามาสู่ระบบประมงของประเทศไทยได้อีก เรียกว่าต่อไปนี้เรือผีต้องไม่มีในประเทศไทย ส่วนเรือจม เรือพังทั้งหลายนั้น ได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ติดตามตัวเจ้าของหมดแล้ว เพื่อให้ยืนยันข้อมูลว่า จมที่ไหน พังที่ไหน ขายไปที่ไหน อย่างไร เพื่อมิให้เรือเหล่านี้ถูกนำมาใช้สวมเรือ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานอีกอย่างเด็ดขาดพลเอกฉัตรชัย กล่าว
พลเอกฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ภายในสัปดาห์นี้กรมเจ้าท่าจะออกระเบียบเป็นหลักเกณฑ์ของราชการเพิ่มเติมให้เข้มข้นขึ้น เช่น อู่ต่อเรือต้องขึ้นทะเบียน เรือทุกลำก่อนต่อเรือต้องถูกตรวจสอบแปลนเรือ ไม่รับจดทะเบียนเรือประมงที่ไม่มีการจัดทำอัตลักษณ์ หรือไม่มีหมายเลข IMO เรือประมงที่ต่อใบอนุญาตใช้เรือประจำปีต้องเข้ารับการตรวจสภาพเรือทุกลำ โดยการอนุมัติให้รับจดทะเบียนเรือหรือไม่ ให้ทำในรูปแบบคณะกรรมการ ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น ตำรวจ ประมง ทหารเรือ มิใช่กรมเจ้าท่าเพียงหน่วยงานเดียวอีกต่อไป ส่วนเรือขนถ่ายสินค้าทั่วไปทุกลำขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไปต้องติดระบบติดตามเรือ AIS เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าไปบรรทุกปลาที่ไหน หรือไม่ อย่างไร ได้ตลอดเวลา ด้วยมาตรการนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่ากองเรือประมงไทยปราศจากเรือผิดกฎหมาย เรือผี เรือสวม ได้อย่างเด็ดขาด เป็นการสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศ IUU Free ภายใน 3 ปี และเป็นผู้นำอาเซียนด้านการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อการประมงที่ยั่งยืน ก่อนที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปี พ.ศ. 2562












0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น