ผบช.ภ.7 แถลงข่าว ผลของการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและจับกุมยาเสพติด

เมื่อวันที่ 20 กพ.61 ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นำโดย ผบช.ภ.7 แถลงข่าว ผลของการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและจับกุมยาเสพติดโดยทำเป็นขบวนการรับช่วงขนถ่ายกันเป็นทอดหลังงานเสร็จจะโอนเงินเข้าบัญชี

        ตามแผนพิทักษ์ประชาตามนโยบายของตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.กฤษณะ ศิริวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปิยะ สุขประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม  พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.สมชาย ขันบุรี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.เฉลิมฤทธิ์ ถาวร สวป.สภ.เมืองนครปฐม นายธนากร คัยนันท์ ผอ.สนง.ปปส.ภ.7 พ.ท.พลสันต์ รุ่งนิรันดร์ ผบ.ร้อย รส.ม.พัน.19

     พ.ต.ท.ชาติภัทร พิเนตรบูรณะ รองผกก.สส.ฯ พ.ตท.พุฒิธร สมพงษ์ สว.สส.พร้อมพวก เมื่อเวลา 02.00 น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดชั่วคราว หน้าบริเวณหน้าร้านอาหารกุ้งอบภูเขาไฟ ถ.เพชรเกษม ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น โคโรล่า สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 กย 5761 กทม.มีชาย 2 คนนั่งมาเมื่อมาถึงด่านรถยนต์คันดังกล่าว ท่าทางมีพิรุท เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถแล้วให้ชายทั้ง 2 คนลงจากรถเพื่อขอตรวจค้นรถ พบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่บรรจุยาบ้า เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดถุงพลาสติกออกมาพบยาบ้าจำนวน 110 มัดๆละ 2,000 เม็ด เป็นจำนวนทั้งสิ้น 220,000 เม็ด ภายหลังทราบชื่อ นายซาการียา มะสาแม(บังยา) อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.1 ต.พร่อน อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และนายจิรศักดิ์ ล่อนอารีย์(บี) อายุ 31ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ถ.ปักษาสรรค์ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อตรวจค้นในรถยังพบโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม เอทีเอ็ม 1 ใบ สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย 2 เล่ม เอทีเอ็ม 1 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร ธกส.1 เล่ม จากนั้นขยายผล จับกุมนายวรันดร ดิกิจ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310/108 ถ.สรงประภา เเขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เป็นผู้สั่งการจากพื้นที่ จ.ราชบุรี พร้อมยึดของกลางอีกจำนวน 4 รายการ จากการสืบสวนของผู้ต้องหาโดยทำกันเป็นขบวนการ ส่งต่อกันเป็นทอดทอด โดยใช้รถยนต์เก๋งรับยา แล้วส่งต่อขึ้นรถบัสไม่ประจำทาง เพื่อป้องกันการสงสัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่องานเสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้ค่าจ้างขนถึง 700,000 บาท ต่อครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย แล้วนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย และจะได้ทำการขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป

Posted in: