เมื่อ 9 ตุลาคม 2559 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนครปฐม
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
เป็นประธานประชุมร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ
และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านวีดิโอคอนเฟอร์เรนท์ จากกระทรวงมหาดไทย
โดยนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุม
เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำที่อาจเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชนในจังหวัดต่างๆ
เนื่องจากกรมชลประทานได้ระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ในส่วนของจังหวัดนครปฐมอาจได้รับผลกระทบจากการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำท่าจีน
ผ่านประตูระบายน้ำพลเทพ บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 115
ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวรวมกับน้ำหลากจากลำน้ำสาขาก็จะไหลลงมาสู่จุดควบคุมหลักของแม่น้ำท่าจีนตอนล่าง
ด้านเหนือประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา
โดยจะบริหารจัดการน้ำเข้าไปเก็บไว้ในระบบชลประทาน
และบริหารจัดการปริมาณน้ำหลากที่เกิดขึ้นในพื้นที่ลงสู่แม่น้ำท่าจีน
โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูก
ในเขตชลประทานซึ่งจะทำให้แม่น้ำท่าจีนตอนล่างในเขตอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรสาคร มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน เกษตรกรที่ประกอบอาชีพประมง เพาะปลูก
เลี้ยงสัตว์ บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำท่าจีน
อาทิงานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร กระชังปลา
รวมถึงนักท่องเที่ยวให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และระมัดระวังอันตรายจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น
เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน
เครือข่ายวิทยุสมัครเล่นสถานีโทรทัศน์เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น และแจ้งให้กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครในพื้นที่เพิ่มความถี่ในการแจ้งข้อมูลให้ประชาชนทราบโดยตรงอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาระภัยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
จัดเก็บอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ยานพาหนะ
และการเตรียมวางแนวกระสอบทรายพร้อมระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด
ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นพื้นที่
ตลอดจนจัดหน้าที่เผชิญเหตุอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน
ชุดหนึ่งตำบลหนึ่งทีมกูชีพกู้ภัย
ติดตามเฝ้าระวังพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น