ผู้สื่อข่าวรายงาน
จากปัญหาหลังสาธารณะรัฐอินโดนีเซีย ได้ออกคำสั่งมาตรการปิดน่านน้ำมาอย่างต่อเนื่อง
(ระหว่างเดือนธันวาคม 2557 -เมษายน 2558) เพื่อจัดระเบียบสัมปทานจับสัตว์น้ำทางทะเลงดให้หลายประเทศและไทย
เข้าทำประมง
ส่งผลให้ในภาคประมงนอกน่านน้ำในพื้นที่และกิจการแปรรูปอาหารเริ่มมีผลกระทบต่อเนื่อง
ล่าสุด นายวันชัย แสงสุขเอี่ยม ฐานะสมาชิกประมงนอกน่านน้ำ จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย
นายธีรวัฒน์ เจริญสุขโสภณ ประธานชมรมผู้ค้าปลา จ.สมุทรสาคร
ได้ร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการ (ล้งแปรรูป) ที่เกี่ยวข้องประมาณ 50 ราย เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.สมุทรสาคร
ผ่านไปยังรัฐบาลเพื่อขอให้หามาตรการแก้ไขปัญหารองรับผลขาดแคลนวัตถุดิบสินค้าปลาเพื่อการแปรรูปอาหาร
นายวันชัย แสงสุขเอี่ยม กล่าวว่า
ปัญหาหลังสาธารณะรัฐอินโดนีเซียที่มีการออกคำสั่งมาตรการปิดน่านน้ำมาระหว่างเดือนธันวาคม
2557
- เมษายน 2558
ซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะปิดไปอย่างต่อเนื่องประมาณ 6
เดือนหรือถึงตุลาคม 2558 เป็นเหตุให้ชาวประมงน่านน้ำไทย
และการแปรรูปอุตสาหกรรมต่อเนื่องต้องประสบปัญหาขาดแคลนเรื่องวัตถุดิบโดยเฉพาะปลา
แน่นอนทั้งนี้อันจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ในระบบแรงงานของการแปรรูปอาหารส่งออกในพื้นที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รวมถึงจังหวัดแถบชายทะเลที่มีการแปรรูปอาหารกว่า 30 จังหวัด
ซึ่งต้องนำเข้าปลาจากอินโดนีเซียอย่างแน่นอนเพราะประมงไทยไม่สามารถออกเรือได้ตามปรกติ
ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต ผวจ.สมุทรสาคร
กล่าวว่า
หลังรับเรื่องดังกล่าวจะช่วยเร่งส่งผ่านไปยังผู้เกี่ยวข้องส่วนกลางเพื่อไปดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว
ซึ่งส่วนตนยอมรับว่าด้วยเหตุนี้มองว่าอาจจะมีผลกระทบลักษณะลูกโซ่เรื่องของอุตสาหกรรมต่อเนื่องตั้งแต่ปัญหาต้นทางถึงปลายทาง
หรือต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำที่มีภาคส่วนอื่นๆเกี่ยวข้อง
ในฐานะเมืองสมุทรสาครเป็นแหล่งผลิตแปรรูปอาหารขนาดใหญ่ตามมาเป็นต้น
ด้านนายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมง
จ.สมุทรสาคร เผยว่า เกี่ยวกับเรื่องประเทศอินโดฯ
ที่มีกฎเหล็กคำสั่งปิดน่านน้ำลงเพื่อจัดระเบียบสัมปทานรักษาทรัพยากรทางทะเลใหม่ล่าสุดนี้
ปรากฏว่าไม่มีผลต่อประมงในประเทศหรือประมงชายฝั่งแต่อย่างใด
ทั้งนี้สืบเนื่องที่ผ่านมาชาวประมงใน จ.สมุทรสาคร
ไม่ได้ยึดติดหรือออกเรือทำประมงนอกน่านน้ำเป็นหลัก
ซึ่งประมงจังหวัดสมุทรสาครเรือของเรา (ไม่เกิน60ตัน)
ทำเฉพาะในอ่าวไทยหรืออ่าวตัว ก.เท่านั้น และเพียงบางประเทศอื่นๆ
บ้างที่เข้าไปทำประมง อย่างไรก็ตามดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบอินโดฯปิดอ่าวแต่อย่างใด
นายกำจรกล่าวว่า
ส่วนเรื่องการแปรรูปสินค้าส่งออกอาหารทะเลของจังหวัดฐานะเป็นแหล่งใหญ่ก็จริง
ที่ผ่านมามีการสั่งซื้อวัตถุดิบปลาจากต่างประเทศเข้ามาแปรรูปอาหารส่งขาย
โดยเฉพาะปลาโอหรือปลาทูน่ามากที่สุด ขณะที่ชาวประมงสมุทรสาครหาวัตถุดิบ กุ้ง หอย
ปู ปลา ได้มานั้นเป็นการขายบริโภคในประเทศเป็นหลักเกือบ 100
% จึงแทบไม่ได้ส่งออกโดยเฉพาะกุ้งและหอย
เนื่องจากมีเรื่องราคาค่อนข้างก็สูงกว่าวัตถุดิบนำเข้าเยอะ
ดังนั้นต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา
ไม่ได้นิยมและไม่สั่งซื้อไปบริโภคเพราะราคาแพง โดยส่วนใหญ่จะเป็นกุ้งเลี้ยงหรือกุ้งบ่อและปลาเลี้ยง
ที่นำเข้านำมาแปรรูปเพื่อจำหน่าย
รายงาน/ มานพ จ.สมุทรสาคร 087-151-2525
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น