pearleus

วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2561

บ.สยามสแตนดาร์ดร้องศาลปกครองสอบรมว.คมนาคม เหตุจงใจให้ขสมก.ละเมิดคำสั่งศาลฯ กรณีซื้อเมล์เอ็นจีวี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.61 ที่ สำนักงานศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นายดรัณ ภูรีสถิต ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัทสยามสแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด บริษัทผู้เข้าร่วมประมูลโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เมื่อ 4 ตุลาคม 2560 พร้อมทนายความ ยื่นหนังสือร้องต่อศาลปกครอง ขอให้มีคำสั่งไต่สวน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) นายสมควร นาสนม ประธานกรรมการตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน วงเงิน 4,221 ล้านบาทเศษ จากกลุ่มทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่าทั้ง 3 คน มีเจตนาจงใจละเมิดคำสั่งศาลปกครองกลาง เมื่อ 10 เมษายน 2561 ที่ให้ระงับการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน รวมถึงห้ามซ่อมแซมรถ และงดดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวกับรถเมล์เอ็นจีวีทั้งหมดแม้กระทั่งที่วิ่งอยู่บนถนนจำนวน 100 คัน

พร้อมระบุว่า ขบวนการมุบมิบจัดซื้อจัดจ้างรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คัน จากกลุ่มทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ส่งกลิ่นความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ ทำไมถึงจัดซื้อจัดจ้างได้ทั้งๆ ที่ไม่มีมติของบอร์ดขสมก. เนื่องจากการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันในครั้งนี้ ราคาสูงกว่าการประมูลของบริษัท เบสท์ริน ที่ชนะการประมูลครั้งแรกราคาเพียง 3,300 ล้านบาท แต่ครั้งที่ 2 กลุ่มทำงานของ บริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) ชนะการประมูลไปที่ 4,221 ล้านบาท   ขสมก.จ่ายแพงกว่าเดิมกว่า 900 ล้านบาท และได้จำนวนรถเมล์  489 คัน เท่ากัน

อีกทั้งจากการสืบทราบพบว่าคุณภาพรถเมล์ไม่ดีเท่ากับการประมูลโดยบริษัทเบสท์ริน ดังนั้นหลังจากที่เห็นถึงเจตนาของขสมก.แล้วจึงได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง และศาลฯ ได้มีคำพิพากษาให้ระงับการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าว รวมถึงห้ามซ่อมแซมรถ และหยุดการกระทำอันเกี่ยวเนื่อง เช่น ห้ามให้รถเมล์เอ็นจีวี 100 คัน ที่ส่งมอบไปแล้วหยุดวิ่งไว้ก่อน แต่หลังจากมีคำสั่งศาลฯ แล้ว ในวันรุ่งขึ้นรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ลักษณะจงใจเปิดช่องให้ ขสมก.ละเมิดคำสั่งศาลฯ โดยยังคงให้ทำการรับมอบรถเมล์ที่เหลืออีก 389 คันต่อไป "เราจึงได้พาทีมทนายมาร้องขอให้ศาลปกครองกลางไต่
สวน รมต.ว่าการกระทรวงคมนาคมและพวกทันที”

ด้านนายสันต์ โชคพงษ์อุดมชัย  ฐานะทนายความผู้แทนยื่นคำร้องให้ไต่สวนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพวก กล่าวว่า  จากเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ ขสมก.ระงับการจัดซื้อจัดจ้างรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เป็นเงิน  4,221 ล้านบาทเศษ แต่ต่อมารัฐมนตรีคมนาคม เจตนาจงใจเปิดช่องให้ ขสมก.ละเมิดคำสั่งศาลปกครองกลาง โดยให้ ขสมก.เดินหน้ารับมอบรถเมล์เอ็นจีวีที่เหลืออีก 389 คัน พร้อมกับไม่ระงับการวิ่งรถเมล์เอ็นจีวี 100 คันที่อยู่บนถนน รวมถึง
การซ่อมแซมรถด้วย ที่สำคัญมีการสืบทราบว่ามีการลักลอบแอบไปจดทะเบียนรถเมล์เอ็นจีวีหลังจากที่ศาลฯ มีคำพิพากษา

" เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ของการเจตนาจงใจละเมิตคำสั่งศาลปกครองกลาง ซึ่งต้องดำเนินการเด็ดขาดตามมาตรา 75/4 ว่าด้วยรายละเอียดคือ  ถ้าปรากฏว่าหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลปกครอง ให้ถูกต้องครบถ้วน หรือล่าช้าเกินสมควร ซึ่งรวมถึงกรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการใดฯ เพื่อบรรเทาทุกคู่กรณีที่เป็นมาตรการชั่วคราวด้วย ศาลปกครองมีอำนาจไต่สวนแสวงหาข้อเท็จจริง สามารถปรับและลงโทษตามวินัยแก่เจ้าหน้ารัฐคนดังกล่าวได้ ฯลฯ” นายสันต์ ระบุว่าและว่า  พวกเราในฐานะประชาชนมองเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของเจ้า
หน้าที่รัฐระดับรัฐมนตรี และพวกพ้อง จึงจำเป็นต้องเดินหน้าเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ จึงมาร้องต่อศาลฯ วันนี้(19 เม.ย.61)ว่าให้ทำการไต่สวน โดยพวกเราจะนำข้อเท็จจริงมาบอกกล่าวกับประชาชนที่รอฟังคำตอบอยู่ว่ารัฐมนตรีมีอำนาจเหนือกว่าคำพิพากษาของศาลฯ หรืออย่างไร 

******************

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น