pearleus

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์-นสพ.-สภาวิชาชีพข่าว ร่วมแถลงยุติ แทรกแซงคุกคามสื่อ

Untitled-1

แถลงการณ์เรื่องขอให้ยุติการคุกคามและแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

จากที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระม

หากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำมวลชนไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง3, 5, 7, 9, 11 และไทยพีบีเอส

โดยกดดันให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ถ่ายทอดสัญญาณการเคลื่อนไหวและคำแถลงของกปปส.

และห้ามนำเสนอข่าวจากฝ่ายรัฐบาลนั้นองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนประกอบด้วย

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน

ซึ่งขัดแย้งต่อเจตนารมณ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ที่กปปส.กล่าวอ้างว่าจะต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยโดยสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

และขอให้กปปส.ยุติการกระทำดังกล่าวทันทีองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนขอยืนยันหลักการว่า

สื่อมวลชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและความคิดเห็นของทุกฝ่ายตามรัฐธรรมนูญ

ดังนั้นกองบรรณาธิการและผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในสถานีโทรทัศน์ต่างๆ

ต้องยืนหยัดในหลักการดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

ซึ่งเป็นสื่อสาธารณะที่มีกฎหมายรองรับความเป็นอิสระ จะต้องยืนยันหรือไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามากดดัน

หรือครอบงำการนำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยเด็ดขาด หากต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกดดันหรือครอบงำ

การยุติการออกอากาศถือเป็นแนวทางปฏิบัติตามหลักสากลที่ควรกระทำอย่างไรก็ตาม

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมีความเข้าใจถึงมูลเหตุ ที่กลุ่มมวลชนของกปปส.ไม่พอใจสถานีโทรทัศน์ต่างๆ

ซึ่งที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญในการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้น

ทั้งๆ ที่เป็นสถานการณ์สำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

นับตั้งแต่เหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ที่มีความต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงเหตุการณ์ในวันที่ 1 ธันวาคม

2556 โดยปรากฏว่าสถานีโทรทัศน์ส่วนใหญ่ยังคงนำเสนอรายการตามผังรายการตามปกติ

เป็นการคำนึงถึงผลประโยชน์ของสถานีเป็นหลัก

มากกว่าการคำนึงถึงสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนขณะเดียวกัน

สถานีโทรทัศน์ในสังกัดหน่วยงานรัฐ

ซึ่งมีรัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้มีความอิสระในการเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน

และให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อสาธารณะ โดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐบาล

จะต้องไม่ยอมรับการถูกแทรกแซงหรือสั่งการจากฝ่ายรัฐบาล ให้นำเสนอข่าวสารเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาทิ

กรณีที่รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์สั่งให้สื่อในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์นำเสนอข่าวสารเชิงบวกต่อรัฐบ

าล(อ้างถึงบันทึกเลขที่นร0213.071721 เรื่องขอให้กำกับดูแลการนำเสนอข่าวลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556)

เป็นต้นองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมีความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวล

ชนในภาคสนามทุกคน โดยขอให้ระมัดระวังการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเกินความจำเป็น

ทั้งนี้ ให้ตระหนักว่าความปลอดภัยของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน

มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านมานำเสนอต่อสาธารณะช

นเราขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทุกคน ที่นำเสนอข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านต่อประชาชน

และขอให้ทุกฝ่ายเคารพและไม่แทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในทุกรูปแบบ

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์

1 ธันวาคม 2556

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น