pearleus

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การประชุมชี้แจงกระบวนการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. สมุทรสาคร

สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 246 วรรคท้าย บัญญัติให้มีการจัดตั้งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดขึ้น โดยคุณสมบัติ กระบวนการสรรหา และอำนาจหน้าที่ ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อประสานความร่วมมือกับประชาชนที่ประสงค์จะเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้แก่ ผู้กล่าวหา ผู้เสียหาย ผู้ทำคำร้อง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ให้ถ้อยคำ หรือผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลใดเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ การร่ำรวยผิดปกติ หรือข้อมูลอื่นอันเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติให้จัดตั้งศูนย์บริหารงาน ป.ป.ช. จังหวัด และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด เพื่อให้ภารกิจและการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการป้องกันและปราบปราม  การทุจริตประจำจังหวัดบรรลุเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ปัจจุบันมีการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อให้การทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระดับพื้นที่ได้ครอบคลุมครบทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เกี่ยวกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด การคัดเลือกคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. และสรรหากรรมการ ป.ป.จ. ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และมีความตั้งใจเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านป้องกันและปราบปรามการทุจริตในพื้นที่  ให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
รายละเอียดคุณสมบัติของหน่วยงานหรือองค์กร 9 ประเภท
ที่สามารถสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการสรรหา กรรมการ ป.ป.จ.
 1. สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์ หรือสมาคมทางด้านการศึกษา ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้   (๑) เป็นสมาคมหรือชมรม      
        ก. เป็นสมาคมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งตามมาตรา 78  ได้ให้คำจำกัดความของสมาคมไว้ว่า “การก่อตั้งสมาคมเพื่อกระทำการใดๆ อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน ต้องมีข้อบังคับและจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้”                  
          ข. เป็นชมรมซึ่งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ความหมายว่า ที่พักชั่วคราวของกลุ่มบุคคล ที่ประชุมของกลุ่มบุคคลที่มีจุดประสงค์เพื่อประโยชน์บางประการร่วมกัน
() เป็นสมาคมหรือชมรมซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้  
         ก. ครูหรืออาจารย์ หมายความว่า บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียน      การสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาปฐมวัยขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษา ทั้งของรัฐและเอกชน หรือ    
         ข. ผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารการศึกษา หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาภายในเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาอื่นที่จัดการศึกษาปฐมวัยขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษา ทั้งของรัฐและเอกชน และหมายความรวมถึง บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารนอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา   
        ค. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาอื่น
                   () สมาชิกของสมาคมหรือชมรมต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา โดยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาตามกฎหมายอื่นที่มีกฎหมายรับรองในทำนองเดียวกัน โดยวิชาชีพหมายความว่า วิชาชีพทางการศึกษาที่ทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งการรับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาในสถานศึกษาปฐมวัยขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษา ทั้งของรัฐและเอกชน และการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตลอดจนการสนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ    
             () วัตถุประสงค์ของสมาคมหรือชมรม เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษา
  2. สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กร ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
      () สภาทนายความหรือสภาทนายความจังหวัด ตามกฎหมายว่าด้วยทนายความ โดยทนายความ หมายความว่า ผู้ที่สภาทนายความได้รับจดทะเบียนและออกใบอนุญาตให้เป็นทนายความ และ  สภาทนายความ ประกอบด้วยคณะกรรมการสภาทนายความและสมาชิกสภาทนายความ มีวัตถุประสงค์ใน   การส่งเสริมการศึกษาและการประกอบวิชาชีพทนายความ ควบคุมมรรยาทของทนายความ ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิกสภาทนายความ ส่งเสริมและจัดสวัสดิการให้ แก่สมาชิกสภาทนายความ และส่งเสริม ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย ทั้งนี้          สภาทนายความจะมีสภาทนายความจังหวัดเพื่อทำหน้าที่ประสานงานและกำกับดูแลสมาชิกสภาทนายความในแต่ละจังหวัด
        () องค์กรผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายอื่น เนื่องจากผู้ประกอบวิชาชีพในทางกฎหมายนั้นมีอยู่หลายวิชาชีพ เช่น ผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ พนักงานสอบสวน ฯลฯ บางวิชาชีพเป็นวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับความเป็นธรรมหรือความยุติธรรมโดยตรง บางวิชาชีพมิได้เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมหรือความเป็นธรรมโดยตรง แต่ผู้ประกอบวิชาชีพต้องอาศัยความรู้ในทางกฎหมาย โดยมีองค์กรทางวิชาชีพทำหน้าที่ในการควบคุมจริยธรรมหรือจรรยาบรรณ โดยทั่วไปการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพทางจริยธรรมหรือจรรยาบรรณเป็น         การควบคุมโดยการออกใบอนุญาตหรือการพักใช้ใบอนุญาตหรือการเพิกถอนใบอนุญาตเช่นเดียวกับทนายความเป็นต้น และหากการประกอบวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพ ทำให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย นอกจากผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องรับผิดชอบในทางจริยธรรมหรือทางจรรยาบรรณแล้ว ผู้ประกอบวิชาชีพยังต้องรับผิดต่อผู้ได้รับความเสียหายในทางกฎหมายด้วย
  3. สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน   ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
        () เป็นสมาคมหรือชมรม ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยมีลักษณะเดียวกับข้อ ๓.๑ (๑) และสมาชิกของสมาคมหรือชมรมต้องเป็นพนักงานหรือลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
        () สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  เป็นองค์กรตัวแทนของลูกจ้างในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจซึ่งก่อตั้งขึ้นตามกฎหมายแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ โดยกำหนดให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งมีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจได้เพียงสหภาพแรงงานเดียวเท่านั้น และลูกจ้างคนหนึ่งจะเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจได้เพียงแห่งเดียว โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างและระหว่างลูกจ้างด้วยกัน พิจารณาช่วยเหลือสมาชิกตามคำร้องทุกข์ แสวงหาและคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้างของลูกจ้าง ดำเนินการและให้ความร่วมมือเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและรักษาผลประโยชน์ของรัฐวิสาหกิจ
           () สภาแรงงานหรือสหภาพแรงงานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน โดยกฎหมายดังกล่าวมิได้ใช้บังคับแก่ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือในกรณีมีการออกกฎกระทรวงเพื่อมิให้ใช้บังคับทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแก่นายจ้างประเภทหนึ่งประเภทใด ซึ่งลูกจ้างตามกฎหมายดังกล่าว คือ  ผู้ซึ่งตกลงทำงานให้นายจ้างโดยรับค่าจ้างไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร และในกรณีที่นายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเกี่ยวกับสิทธิได้รับเงินอย่างหนึ่งอย่างใด ลูกจ้างมีสิทธิยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องที่ที่ลูกจ้างทำงานอยู่หรือที่นายจ้างมีภูมิลำเนาอยู่ได้ นอกจากนั้นลูกจ้างยังมีสิทธิจัดตั้งสหภาพแรงงานขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ หรือเข้าร่วมเป็นสมาชิกสภาแรงงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อการแสวงหาและคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้างและส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และระหว่างลูกจ้างด้วยกัน
            () วัตถุประสงค์ของสมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างและระหว่างลูกจ้างด้วยกัน หรือพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกในการคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้างของลูกจ้าง                           
4. สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
                                   () หอการค้าจังหวัดตามกฎหมายว่าด้วยหอการค้า โดยหอการค้าคือสถาบันที่บุคคลหลายคนจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการค้า การบริการ การประกอบวิชาชีพอิสระ อุตสาหกรรมเกษตรกรรม การเงินหรือเศรษฐกิจ อันมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้แบ่งปันกัน และหอการค้ามี ๔ ประเภท ได้แก่
) หอการค้าจังหวัด
) หอการค้าไทย
) หอการค้าต่างประเทศ และ
) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
โดยหอการค้าจังหวัดเป็นหน่วยงานหรือองค์กรส่งเสริมการค้าของแต่ละจังหวัด
                                   () สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือสำนักงานสาขาในจังหวัดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ที่เป็นตัวแทนของภาคอุตสาหกรรมเอกชนของประเทศไทย มีวัตถุประสงค์การดำเนินงานเพื่อประสานนโยบายภาครัฐกับเอกชน ส่งเสริมและพัฒนาการประกอบอุตสาหกรรม  ศึกษาและหาทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรมและกิจการที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา วิจัย วิเคราะห์ ทดสอบ ทดลอง อบรม เผยแพร่วิชาการและเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมให้แก่สมาชิก และอาจจัดเป็นบริการแก่สาธารณชนด้วยก็ได้  ตรวจสอบสินค้า ออกใบรับรองแหล่งกำเนิดหรือใบรับรองคุณภาพของสินค้า ให้คำปรึกษาและเสนอข้อแนะนำแก่รัฐบาลเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมของประเทศ ส่งเสริมนักอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางสำหรับนักอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอันจะเป็นประโยชน์ต่อวงการอุตสาหกรรม  ควบคุมดูแลให้สมาชิกปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรม และกิจการที่เกี่ยวข้อง เพื่อชื่อเสียงและเกียรติภูมิของวงการอุตสาหกรรม และปฏิบัติกิจการอื่น ๆ ตามแต่จะมีกฎหมายระบุให้เป็นหน้าที่ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือตามที่ทางราชการมอบหมาย โดยมีการจัดตั้งสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขึ้นในแต่ละจังหวัดตามข้อบังคับ
    () ชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด คือ กลุ่มธนาคารที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์และสาขาของธนาคารต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ที่มีจุดประสงค์ร่วมกันเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจประเภทรับฝากเงินที่ต้องจ่ายคืนเมื่อ   ทวงถามหรือเมื่อสิ้นระยะเวลาอันกำหนดไว้ และใช้ประโยชน์เงินนั้นในทางหนึ่งหรือหลายทาง เช่น (ก) ให้สินเชื่อ (ข) ซื้อขายตั๋วแลกเงินหรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด (ค) ซื้อขายเงินปริวรรตต่างประเทศ เป็นต้น                              
5. กลุ่มอาสาสมัคร ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรซึ่งมีลักษณะ ดังต่อไปนี้
                                   () กลุ่มบุคคลซึ่งอาสาเข้ามาทำงาน (volunteer) โดยเป็นผู้ที่สมัครใจทำงานเพื่อประโยชน์แห่งประชาชนและสังคม โดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นเงินหรือสิ่งอื่นใด บุคคลที่อาสาเข้ามาช่วยเหลือสังคมด้วยความสมัครใจ เสียสละ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ป้องกัน แก้ไขปัญหา และพัฒนาสังคม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน       ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของกลุ่มอาสาสมัครต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการ คือ
๑) ทำงานด้วยความสมัครใจไม่ใช่ด้วยการถูกบังคับหรือเป็นเพราะหน้าที่ 
๒) เป็นงานเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนและสังคมหรือสาธารณประโยชน์ และ
๓) ทำโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นเงินหรือสิ่งของมีมูลค่าแทนเงิน
                                   () มูลนิธิ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๐ โดยมูลนิธิ คือ ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์ เพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว                                
6. องค์กรเอกชน
ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่ไม่ใช่ภาคราชการ และไม่ใช่ภาคธุรกิจที่แสวงหากำไร ก่อตั้งขึ้นและดำเนินการโดยกลุ่มบุคคลที่มีความมุ่งมั่นในการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคม โดยเฉพาะปัญหาด้านคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนผู้ด้อยโอกาสและประชาชนผู้ทุกข์ยากอันเกิดจากผลกระทบของการพัฒนา อาจจัดตั้งขึ้นในรูปแบบองค์กรหรือมูลนิธิ หรือสมาคมหรือ หน่วยงานที่มีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่น ซึ่งมีลักษณะเป็นสถาบันนอกระบบราชการรวมตัวกันขึ้นตามกลุ่มวิชาชีพ กลุ่มศึกษา กลุ่มสนใจ หรือกลุ่มที่มีเป้าหมายร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อที่จะดำเนินบทบาทในการช่วยเหลือและช่วยคลี่คลายปัญหาในสังคม การบริการสังคม รวมทั้งการพัฒนาสังคม โดยมิได้แสวงหากำไรหรือผลประโยชน์ใด แต่เป็นกลุ่มบุคคลที่มีความมุ่งมั่นอยากเห็นปัญหาสังคมได้รับการแก้ไข โดยมุ่งที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง สร้างความยั่งยืนต่อสภาพแวดล้อมและสังคมโดยรวม จึงอาจสรุปได้ว่าองค์กรเอกชนมีลักษณะดังต่อไปนี้
                                   (๑) วัตถุประสงค์ขององค์กร เป็นองค์กรที่มีการจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานพัฒนาสังคมโดยเน้นการพัฒนาคนและการมีส่วนร่วมของประชาชน
                                   () สถานะขององค์กร เป็นองค์กรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่จดทะเบียนก็ได้และในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจะต้องมีการจัดองค์กรเป็นคณะบุคคล ขึ้นมาดูแลรับผิดชอบในการดำเนินกิจการอย่างมีระเบียบแบบแผนตามสมควร
                                   () องค์กรที่ดำเนินงานโดยอิสระ โดยมีกิจกรรมต่อเนื่องและไม่แสวงหาผลประโยชน์ หรือค้ากำไร
7. องค์กรเกษตรกร ต้องเป็นหน่วยงานหรือองค์กรซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในลักษณะ ดังต่อไปนี้
() พัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกรภายในจังหวัด
() ประสานนโยบายและการดำเนินงานระหว่างองค์กรเกษตรกร เกษตรกร สถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา และหน่วยงานของรัฐ
() ส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มขององค์กรเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และยุวเกษตรกรในจังหวัด ในรูปแบบต่าง ๆ
() เสนอแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดต่อสภาเกษตรกรแห่งชาติเพื่อบูรณาการเป็นแผนแม่บทเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
()  สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา การฝึกอบรม และการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เกษตรกรและยุวเกษตรกร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างครบวงจรและยั่งยืน
() เสนอนโยบายและแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรมรวมทั้งราคาผลผลิตทางเกษตรกรรมที่ไม่เป็นธรรมต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
() ให้คำปรึกษาและข้อแนะนำแก่เกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกร                                  
8. สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน
() เป็นสมาคมหรือชมรม ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยมีลักษณะเดียวกับข้อ 3.๑ (๑)
() เป็นองค์กรหรือกลุ่มบุคคลที่จัดตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน
() วัตถุประสงค์ขององค์กรหรือกลุ่มบุคคล เพื่อทำหน้าที่ปกป้องสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน หรือทำหน้าที่ในการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน โดยมีการดำเนินการในลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน                                
9. หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ตามกฎหมายว่าด้วย ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาข้าราชการ โดยมีการแบ่งส่วนราชการของจังหวัดดังนี้
                                    (๑) สำนักงานจังหวัด มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการทั่วไปและการวางแผนพัฒนาจังหวัด ของจังหวัดนั้น มีหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานจังหวัด
                                    (๒) ส่วนต่าง ๆ ซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ได้ตั้งขึ้น มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกระทรวง ทบวง กรม นั้นๆ มีหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนั้นๆ เป็นผู้ปกครองบังคับบัญชารับผิดชอบ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น